Category: Uncategorized

ในโลกของสินค้าแบรนด์เนมที่เต็มไปด้วยเสน่ห์แห่งความคลาสสิกและความล้ำค่า ทุกประสบการณ์การช็อปปิงล้วนออกแบบมาเพื่อสร้างความประทับใจแก่ลูกค้าตั้งแต่ก้าวแรกที่เข้าสู่ร้าน ซึ่งความประทับใจดังกล่าวไม่ได้เกิดจากความสวยงามและหรูหราของสินค้าเพียงอย่างเดียว ทว่ายังมาจากบุคคลที่ทำหน้าที่เป็นผู้เชื่อมต่อระหว่างแบรนด์กับลูกค้าอย่างใกล้ชิด ได้แก่ SA หรือ Sales Associate

SA คือตำแหน่งอะไร ?

SA หรือ Sales Associate คือ ตำแหน่งที่ทำหน้าที่เกี่ยวข้องกับการขายสินค้าในร้านแบรนด์เนม โดยหน้าที่หลักไม่เพียงแต่แนะนำสินค้าเท่านั้น แต่ยังครอบคลุมถึงการให้คำปรึกษาที่เหมาะสมกับความต้องการของลูกค้า การสร้างความสัมพันธ์อันดี และการเสริมสร้างภาพลักษณ์ให้แก่แบรนด์อย่างเป็นมืออาชีพ ตำแหน่งนี้จึงถือเป็นหัวใจสำคัญที่สะท้อนทั้งความหรูหราของแบรนด์ และความใส่ใจในรายละเอียดที่เป็นเอกลักษณ์ของวงการสินค้าแบรนด์เนม

ในแต่ละวัน SA จะต้องเผชิญกับลูกค้าหลากหลายกลุ่ม ตั้งแต่ผู้ที่เป็นแฟนพันธุ์แท้ของแบรนด์ ไปจนถึงลูกค้าใหม่ที่เพิ่งเริ่มเข้าสู่โลกของสินค้าแบรนด์เนม และยังไม่รู้ว่า SA คือตำแหน่งอะไร ด้วยเหตุนี้ ทักษะในการสื่อสาร ความรู้ในสินค้า และการปรับตัวให้เข้ากับความต้องการของลูกค้าแต่ละรายจึงเป็นทักษะที่สำคัญมากสำหรับคนที่เป็น SA

บทบาทสำคัญของ SA ในวงการสินค้าแบรนด์เนม

เมื่อได้รู้กันไปแล้วว่า SA คือตำแหน่งอะไร ซึ่งนอกจากการเป็นผู้ขายสินค้าแล้ว SA ยังต้องสามาถสะท้อนตัวตนของแบรนด์ได้ ผ่านบทบาทหน้าที่ต่อไปนี้

เป็นที่ปรึกษาส่วนตัวของลูกค้า (Personal Stylist)

ในวงการสินค้าแบรนด์เนม หากถามว่า SA คือตำแหน่งอะไร ก็คงไม่ผิดนักหากจะตอบว่าเป็น Personal Stylist ที่ช่วยให้ลูกค้าค้นพบสินค้าที่ตรงกับความต้องการและสไตล์ของตนเอง ไม่ว่าจะเป็นการแนะนำกระเป๋าที่เหมาะสำหรับโอกาสพิเศษ หรือการเลือกเสื้อผ้าที่เข้ากับบุคลิกและรสนิยม ดังนั้น SA ทุกคนจะต้องมีความเข้าใจในสินค้าอย่างลึกซึ้ง รวมถึงติดตามเทรนด์แฟชั่นล่าสุดเพื่อให้คำแนะนำที่มีคุณภาพและน่าเชื่อถือ

เป็นผู้สร้างประสบการณ์อันน่าประทับใจ (Experience Creator)

ลูกค้าที่มาช็อปปิงสินค้าแบรนด์เนมไม่ได้คาดหวังเพียงตัวสินค้าเท่านั้น แต่พวกเขายังถือว่าตนเองได้ลงทุนเพื่อซื้อประสบการณ์ด้วย การบริการของ SA จึงต้องสะท้อนถึงความหรูหราและความเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ ตั้งแต่การทักทายลูกค้าอย่างอบอุ่น การนำเสนอสินค้าอย่างเป็นมืออาชีพ ไปจนถึงการห่อสินค้าด้วยความประณีต

เป็นผู้ดูแลความสัมพันธ์กับลูกค้า (Relationship Manager)

ในโลกของสินค้าแบรนด์เนม ความสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์และลูกค้าเป็นสิ่งที่มีค่าอย่างยิ่ง หากสงสัยว่า SA คือตำแหน่งอะไร ก็ตอบได้ว่ามีบทบาทเป็นเหมือน Relationship Manager ที่คอยดูแลความสัมพันธ์นี้ให้แน่นแฟ้นและยาวนาน ไม่ว่าจะเป็นการจดจำความชอบและความต้องการเฉพาะของลูกค้า การแจ้งข่าวสารเกี่ยวกับสินค้าหรือโปรโมชันใหม่ ๆ หรือแม้กระทั่งการส่งข้อความส่วนตัวเพื่อแสดงความขอบคุณหลังการซื้อสินค้า เป็นต้น

เป็นผู้เชี่ยวชาญในสินค้าแบรนด์เนม

แน่นอนว่า SA ที่ดีต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญในสินค้าแบรนด์เนม ทั้งในด้านความรู้เกี่ยวกับคุณสมบัติและวัสดุของสินค้า เทคนิคการดูแลรักษา และเรื่องราวเบื้องหลังที่มาของแต่ละชิ้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้ไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มมูลค่าให้แก่สินค้า แต่ยังช่วยให้ลูกค้ารู้สึกมั่นใจในการเลือกซื้อสินค้ากับแบรนด์นั้น ๆ อีกด้วย

คุณสมบัติที่ SA ที่ดีควรมี

มีความเข้าใจในแบรนด์และเทรนด์แฟชั่น

SA ต้องมีความรู้เกี่ยวกับแบรนด์ที่ตนเองเป็นตัวแทน และติดตามเทรนด์แฟชั่นอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างเหมาะสม ซึ่งไม่เพียงแต่เป็นการสร้างความมั่นใจแก่ลูกค้า ทว่ายังช่วยกระชับความสัมพันธ์ระหว่างลูกค้าและแบรนด์ให้ยั่งยืน อันจะส่งผลให้ลูกค้ารู้สึกอยากกลับมาใช้บริการซ้ำอย่างต่อเนื่องอีกด้วย

มีทักษะในการสื่อสารที่ดี

SA มืออาชีพต้องสามารถสื่อสารได้อย่างมั่นใจและน่าเชื่อถือ ตั้งแต่การแนะนำสินค้า การเล่าเรื่องราวของแบรนด์ ไปจนถึงการสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลาย ทำให้ลูกค้ารู้สึกไว้วางใจที่จะซื้อสินค้าด้วย นอกจากนี้ SA ยังต้องมีความสามารถในการจัดการสถานการณ์เฉพาะหน้า เช่น การตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ในทันที หรือการรับมือกับคำร้องขอพิเศษ เพื่อให้ลูกค้ารู้สึกว่าได้รับการดูแลในระดับสูงสุด ซึ่งเป็นสิ่งที่ลูกค้าส่วนใหญ่ล้วนคาดหวังจากแบรนด์ระดับโลก

มีความละเอียดอ่อนและใส่ใจในรายละเอียด

ไม่ว่าจะเป็นการจดจำความชอบของลูกค้า การจัดวางสินค้า หรือการให้บริการอย่างใส่ใจ ทุกรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ล้วนมีผลต่อความประทับใจของลูกค้าทั้งสิ้น ซึ่งการทำสิ่งเหล่านี้ไม่เพียงแต่ช่วยสร้างความประทับใจให้แก่ลูกค้าเท่านั้น แต่ยังช่วยเสริมสร้างความเชื่อมั่นต่อแบรนด์ในระยะยาวอีกด้วย

สำหรับผู้ที่เป็นเจ้าของสินค้าแบรนด์เนมและกำลังมองหาช่องทางในการขายต่อสินค้าเหล่านั้น BRANDNAME VOYAGE ยินดีเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยดูแลสินค้าของคุณ เรามีทีม SA ผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการรับซื้อแบรนด์เนม ด้วยมาตรฐานสูงสุดและราคายุติธรรม เพื่อให้คุณมั่นใจได้ว่าสินค้าของคุณจะได้รับการตรวจสอบและประเมินอย่างมืออาชีพ สามารถเข้ามาที่หน้าร้าน ได้แก่ เซ็นทรัลพระราม 9, ฟิวเจอร์พาร์ครังสิต และเชียงใหม่ (รับซื้ออย่างเดียว) หรือสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับการฝากขายสินค้าเพิ่มเติมได้ที่

• LINE: @voyagepurchase
• Tel: 095-505-2229 (สำหรับผู้ที่สนใจฝากขายสินค้า)

ข้อมูลอ้างอิง

1. รู้จักกับ sale associate คืออะไร. สืบค้นเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2567 จาก https://www.trueplookpanya.com/knowledge/content/86234/-blog-blo-.

เนื่องจากกระเป๋าถือแบรนด์เนมไม่ได้เป็นแค่เครื่องประดับที่บ่งบอกถึงรสนิยมของผู้ถือเท่านั้น แต่ยังเป็นการลงทุนที่ชาญฉลาด ซึ่งถ้าเลือกซื้อและดูแลรักษาอย่างถูกต้อง กระเป๋าบางรุ่นอาจสร้างมูลค่าเพิ่มขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป ดังนั้น หากคุณกำลังมองหาวิธีขายกระเป๋าแบรนด์เนมให้ได้ราคาดี เราพร้อมมาแบ่งปันเคล็ดลับสำคัญที่ต้องรู้

1. เลือกกระเป๋าที่เหมาะจะเป็นดาวเด่นในตลาด

ไม่ใช่กระเป๋าทุกใบที่เป็นตัวท็อปในตลาดมือสอง ดังนั้น ถ้าคุณกำลังคิดจะใช้เสร็จ แล้วไปขายกระเป๋าแบรนด์เนม ก็ลองศึกษาตลาดก่อนว่าแบรนด์และรุ่นใดกำลังมาแรง ตัวอย่างเช่น Hermès Birkin และ Chanel Classic Flap เป็นไอเทมที่คงความนิยมมาหลายปี เพราะเป็นกระเป๋าไอคอนิกที่มีดีมานด์สูงในตลาดเสมอ หรือกระเป๋าที่กำลังมาแรงในกลุ่มแฟชั่นนิสต้าอย่าง Goyard Artois PM กระเป๋าโท้ตที่ใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวันและมีดีไซน์ที่โดดเด่นตามแบบฉบับของ Goyard ก็น่าสนใจเช่นกัน

นอกจากแบรนด์และรุ่นแล้ว สีและวัสดุของกระเป๋าก็สำคัญ สีคลาสสิกอย่างดำ ขาว หรือเบจ ก็เป็นที่ต้องการมากกว่าสีแฟชั่น และถ้าวัสดุเป็นหนังแท้ที่มีความทนทาน เช่น หนัง Epsom หรือหนัง Caviar ราคาก็จะยิ่งสูงตาม

2. รักษาสภาพกระเป๋าให้เป๊ะปัง เหมือนเพิ่งแกะกล่อง

ในโลกของการขายกระเป๋าแบรนด์เนม “สภาพ” คือทุกอย่าง ยิ่งกระเป๋าของคุณดูเหมือนใหม่เท่าไรราคาขายก็ยิ่งสูงเท่านั้น ดังนั้น การเตรียมกระเป๋าแบรนด์เนมก่อนนำไปขายจึงควรเก็บกระเป๋าในถุงผ้าหรือ Dust Bag เสมอ หลีกเลี่ยงการเก็บในที่ที่มีความชื้นหรือแสงแดดที่แรงเกินไป

นอกจากนั้น ถ้ากระเป๋าเกิดรอยขีดข่วน หรือมีคราบสกปรก อย่าพยายามทำความสะอาดเองโดยไม่มีความรู้ ควรส่งให้ผู้เชี่ยวชาญดูแล เพราะการทำความสะอาดผิดวิธีอาจทำให้กระเป๋าเสียหายถาวร

3. อุปกรณ์ครบ คือหัวใจสำคัญ

เวลาซื้อกระเป๋าใหม่ เรามักจะได้ทั้งกล่อง ใบเสร็จ ถุงผ้า การ์ดรับประกัน หรือแม้แต่สายสะพายเสริม ซึ่งทั้งหมดนี้คือ “ความครบ” ที่คนซื้อกระเป๋ามือสองให้ความสำคัญอย่างมาก และการมีอุปกรณ์ครบไม่ได้แค่เพิ่มมูลค่าให้กระเป๋า แต่ยังสร้างความมั่นใจให้ผู้ซื้อว่าเป็นของแท้ หากคุณเก็บอุปกรณ์เหล่านี้ไว้ครบถ้วน คุณก็สามารถตั้งราคาขายกระเป๋าแบรนด์เนมได้สูงกว่ากระเป๋าที่ไม่มีอุปกรณ์เสริม

4. ภาพสวยดึงดูดใจ ขายได้ก่อนใคร

ในยุคที่ทุกอย่างขายผ่านออนไลน์ ภาพถ่ายกระเป๋าคือ “ตัวแทน” ของสินค้าของคุณ การถ่ายภาพให้สวย ชัดเจน และดึงดูดใจ จึงเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับการเตรียมกระเป๋าแบรนด์เนมก่อนนำไปขาย โดยควรถ่ายภาพในแสงธรรมชาติ พื้นหลังเรียบง่าย และมุมกล้องที่แสดงให้เห็นทั้งตัวกระเป๋า โลโก้ รอยเย็บ และจุดเด่นต่าง ๆ ถ้ามีกล่องหรืออุปกรณ์เสริมก็ควรถ่ายรวมไว้ด้วย เพื่อเพิ่มความมั่นใจให้ผู้ซื้อ

5. ตั้งราคาให้เป๊ะ ไม่สูงไป ไม่ต่ำไป

การตั้งราคาขายกระเป๋าแบรนด์เนมคือศิลปะ โดยต้องสำรวจราคาตลาดจากหลายแหล่ง ทั้งเว็บไซต์ Resale ระดับโลกอย่าง Vestiaire Collective, The RealReal และกลุ่มซื้อขายในไทย พิจารณาจากสภาพกระเป๋า ความครบของอุปกรณ์ และความต้องการของตลาด ณ ขณะนั้น ราคาที่เหมาะสมควรต่ำกว่าราคาป้ายปัจจุบัน 20-30% สำหรับของใหม่ และ 30-50% สำหรับของมือสอง ยกเว้นรุ่นที่หายากหรือเลิกผลิตแล้ว อาจตั้งราคาได้สูงกว่าราคาป้าย

6. สร้างความน่าเชื่อถือให้ตัวเอง

ในตลาดซื้อขายกระเป๋าแบรนด์เนม การเชื่อมั่นในตัวผู้ขายเป็นสิ่งสำคัญมาก ดังนั้น แนะนำให้สร้างความน่าเชื่อถือโดยการทำโปรไฟล์ขายที่ชัดเจน เช่น รีวิวจากลูกค้าก่อนหน้า รูปถ่ายคู่กับสินค้า หรือแม้แต่การรับรองสินค้าว่าเป็นของแท้

อย่างไรก็ตาม ถ้าคุณเพิ่งเริ่มขาย ลองใช้บริการตรวจสอบสินค้าจากผู้เชี่ยวชาญ เช่น Entrupy หรือแบรนด์ที่ให้บริการตรวจสอบกระเป๋าโดยเฉพาะ เพื่อสร้างความมั่นใจให้ผู้ซื้อ

7. เลือกจังหวะเวลาขายให้ดี

Timing ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญในการขายกระเป๋าแบรนด์เนม โดยช่วงที่ขายดีมักเป็นเทศกาลสำคัญ เช่น ตรุษจีน วาเลนไทน์ คริสมาสต์ หรือปีใหม่ นอกจากนั้นควรดูกระแสแฟชั่นด้วย เช่น ถ้าแบรนด์กำลังจะขึ้นราคา หรือมีข่าวว่าจะยกเลิกการผลิตรุ่นไหน นั่นคือจังหวะทองในการขาย

สำหรับผู้ที่ต้องการเปลี่ยนกระเป๋าแบรนด์เนมที่มีให้กลายเป็นเงินก้อน ที่ BRANDNAME VOYAGE พร้อมให้บริการรับฝากขายแบรนด์เนมทุกประเภท ด้วยความเชี่ยวชาญในการตรวจสอบสินค้าและการบริการที่โปร่งใส เรามั่นใจว่าจะช่วยเปลี่ยนกระเป๋าของคุณให้กลายเป็นมูลค่าที่คุ้มค่าในตลาดสินค้ามือสอง สามารถเข้ามาที่หน้าร้าน ได้แก่ เซ็นทรัลพระราม 9, ฟิวเจอร์พาร์ครังสิต และเชียงใหม่ (รับซื้ออย่างเดียว) หรือสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับการฝากขายสินค้าเพิ่มเติมได้ที่

• LINE: @voyagepurchase
• Tel: 095-505-2229 (สำหรับผู้ที่สนใจฝากขายสินค้า)

ข้อมูลอ้างอิง

1. How (And Where) To Sell Your Second-Hand Luxury Bags Online. สืบค้นเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2567 จาก https://www.vogue.co.uk/article/how-where-to-sell-designer-bags

รู้หรือไม่ กระเป๋าราคาตกก็มีโอกาสเกิดกับแบรนด์เนมบางรุ่นได้ ทำให้บางคนมองว่าเป็นโอกาสทองในการซื้อ แต่สำหรับนักสะสมที่ห่วงเรื่องคุณค่าและการทำกำไรจากกระเป๋า อาจกลับมองว่าเป็นความเสี่ยงที่ต้องระวัง เพราะการตัดสินใจผิดพลาดอาจทำให้เสียใจในภายหลังได้ บทความนี้จึงอยากพาไปเจาะลึกกันว่า หาก “กระเป๋าราคาตก” ในตอนนี้ จะถือเป็นโอกาสดีหรือจะกลายเป็นความเสี่ยงสำหรับนักสะสมแทน

ความเสี่ยงจากการซื้อกระเป๋าที่ราคาตก

หนึ่งในความเสี่ยงหลักจากการซื้อกระเป๋าที่ราคาตกคือ คุณภาพของสินค้าที่อาจไม่คุ้มค่า บางครั้งราคาที่ลดลงอาจสะท้อนถึงคุณภาพของวัสดุที่ลดลง เช่น การใช้หนังคุณภาพต่ำหรือการเย็บที่ไม่เรียบร้อย บางกระเป๋าที่ราคาตกยังอาจสูญเสียมูลค่าในตลาด เพราะความไม่เป็นที่นิยมของรุ่นนั้นเมื่อเวลาผ่านไป การตัดสินใจซื้ออาจทำให้เกิดความเสี่ยงในระยะยาวเมื่อราคากลับมาฟื้นตัวในอนาคต

นอกจากนี้ การตกเป็นเหยื่อของสินค้าปลอมก็เป็นอีกหนึ่งความเสี่ยงที่สำคัญ กระเป๋าราคาตกอาจเป็นสัญญาณว่ามีสินค้าเลียนแบบมากขึ้นในตลาด ซึ่งทำให้นักสะสมต้องระมัดระวังในการตรวจสอบแหล่งที่มาของสินค้าให้ดี ตรวจสอบความแท้ของกระเป๋าโดยการดูสัญลักษณ์และการรับประกันที่มาพร้อมกับกระเป๋า รวมถึงการซื้อจากแหล่งที่เชื่อถือได้เท่านั้น เพื่อป้องกันการได้สินค้าปลอมที่อาจมีปัญหาทางกฎหมายและการลงทุนในอนาคต

โอกาสทองสำหรับนักสะสม

หลายคนอาจสงสัยว่าการซื้อ “กระเป๋าราคาตก” ถือเป็นโอกาสทองสำหรับนักสะสมหรือไม่ เพราะในมุมมองของงบประมาณการซื้อ ก็ถือได้ว่ามีราคาที่คุ้มค่ากว่าราคาตลาดในปัจจุบัน แถมยังมีโอกาสที่บางรุ่นแม้จะราคาตกอาจกลับมาได้รับความนิยมในอนาคตอีกด้วย

สรุป ! กระเป๋าราคาตกตอบโจทย์นักสะสมอย่างไร ?

• การหาโปรโมชันดี ๆ ในการลงทุน : การลดราคาของกระเป๋าแบรนด์เนมมือสองอาจทำให้บางรุ่นสามารถซื้อได้ในราคาที่คุ้มค่ากว่าราคาตลาดในปัจจุบัน เนื่องจากเมื่อราคาของกระเป๋ารุ่นหรูลดลง มักเป็นช่วงเวลาที่มีโปรโมชันพิเศษที่นักสะสมสามารถคว้าไว้ได้ในราคาที่ต่ำกว่าเดิม ความคุ้มค่าในราคานี้สามารถสร้างโอกาสในการเพิ่มมูลค่าของกระเป๋าในอนาคตเมื่อกระแสนิยมกลับมา
• มูลค่าในระยะยาว : บางรุ่นที่กระเป๋าราคาตกอาจกลับมาได้รับความนิยมในอนาคต เนื่องจากกระแสนิยมที่เปลี่ยนไป การซื้อในช่วงราคาตกจึงอาจกลายเป็นการลงทุนที่ดีสำหรับนักสะสม เพราะมูลค่าของกระเป๋าเหล่านั้นอาจเพิ่มขึ้นเมื่อกระแสความนิยมกลับมาหรือมีการรีแบรนด์ใหม่ การซื้อในช่วงเวลาที่กระเป๋าราคาตกเป็นโอกาสในการลงทุนที่ฉลาดและคุ้มค่าในระยะยาว

การเลือกซื้อกระเป๋าราคาตกอย่างชาญฉลาด

สำหรับนักสะสมกระเป๋าแบรนด์เนมมือใหม่ที่อยากคว้าโอกาสทอง ซื้อกระเป๋าช่วงราคาตกอย่างชาญฉลาด เพื่อนำไปเก็บสะสม หรือต่อยอดรอสร้างกำไรในอนาคต แต่ไม่รู้จะต้องเริ่มซื้ออย่างไรดีให้ปลอดภัย นี่คือ 2 แนวทางดี ๆ ที่ไม่ควรพลาด

• วิธีการตรวจสอบความแท้ของกระเป๋า : ก่อนตัดสินใจซื้อกระเป๋าที่ราคาตก สิ่งสำคัญคือการตรวจสอบความแท้ของสินค้า การดูสัญลักษณ์และโลโก้ของแบรนด์ การรับประกันจากผู้ขาย และแหล่งที่มาของสินค้าเป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญ กระเป๋าแบรนด์เนมที่แท้จริงจะมีรายละเอียดการทำงานที่แม่นยำและวัสดุคุณภาพสูงที่สังเกตได้ง่าย หากกระเป๋ามีการใช้วัสดุที่ดูไม่เป็นธรรมชาติหรือไม่สอดคล้องกับลักษณะเฉพาะของแบรนด์นั้น แสดงว่าอาจเป็นสินค้าปลอม
• เปรียบเทียบราคาจากหลายแหล่ง : การเปรียบเทียบราคาจากหลายช่องทางก่อนตัดสินใจซื้อเป็นอีกวิธีที่สำคัญ การซื้อกระเป๋าราคาตกควรพิจารณาราคาจากหลายแหล่ง เช่น ร้านค้าออนไลน์ที่อาจมีโปรโมชันพิเศษ ร้านค้าสาขาที่มีการลดราคาต่อเนื่อง หรือแม้กระทั่งตลาดมือสองที่เชื่อถือได้ การเปรียบเทียบราคาจะช่วยให้มั่นใจว่า จะได้ข้อเสนอที่ดีที่สุดและคุ้มค่าที่สุดสำหรับการลงทุนในกระเป๋านั้น

BRANDNAME VOYAGE แหล่งขายและรับซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมมือสองหลายรุ่น การันตีถึงราคาตกก็ยังได้ราคาดี พร้อมประเมินราคาอย่างยุติธรรม โดยผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ในวงการแบรนด์เนมมาอย่างยาวนาน ติดต่อผ่านเว็บไซต์ หรือเข้ามาที่หน้าร้านทั้ง 2 สาขาหลักของเรา ได้แก่ เซ็นทรัลพระราม 9, ฟิวเจอร์พาร์ครังสิต และเชียงใหม่ (รับซื้ออย่างเดียว) หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

• LINE: @brandnamevoyage
• Tel: 095-916-7171 (สำหรับผู้ที่สนใจซื้อสินค้า)
• LINE: @voyagepurchase
• Tel: 095-5052229 (สำหรับผู้ที่สนใจฝากขายสินค้า)

ข้อมูลอ้างอิง

1. Get Your Bag: These Are the Handbags With the Highest Resale Values. สืบค้นเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2567 จาก https://www.vogue.com/article/bags-with-the-best-resale-value

นักสะสมรองเท้าแบรนด์เนมคงรู้ดีว่า แต่ละคู่นั้นมาพร้อมกับรายละเอียดอันประณีตเพียงใด ไม่ว่าจะเป็นวัสดุระดับพรีเมียม การออกแบบสุดคลาสสิกที่ไม่มีวันตกยุค หรือแม้แต่ความใส่ใจในกระบวนการผลิต ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนช่วยยกระดับรองเท้าจากเครื่องแต่งกายธรรมดาให้กลายมาเป็นชิ้นงานที่มีคุณค่าและเต็มไปด้วยเรื่องราวที่ซ่อนอยู่ ดังนั้น จึงไม่ใช่เรื่องแปลกว่าทำไมหลายคนจึงอยากดูแลรักษารองเท้าให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์อยู่เสมอ มาดูกันว่าจะเก็บรองเท้าแบรนด์เนมอย่างไรให้รองเท้าคู่โปรดของคุณยังคงความงดงาม หรูหรา และทรงคุณค่าดั่งวันแรกที่ได้มาครอบครอง !

เทคนิคเก็บรองเท้าแบรนด์เนมอย่างไรให้สภาพดีเหมือนใหม่อยู่เสมอ

1. ทำความสะอาดรองเท้าก่อนเก็บทุกครั้ง

การทำความสะอาดรองเท้าก่อนจัดเก็บถือเป็นขั้นตอนพื้นฐานที่สำคัญที่สุด เพื่อป้องกันการสะสมของคราบสกปรกที่อาจฝังแน่นและทำความสะอาดยากในภายหลัง โดยวัสดุแต่ละประเภทจะต้องการการดูแลที่แตกต่างกันไป สำหรับรองเท้าหนังแท้ ควรใช้น้ำยาทำความสะอาดที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับหนัง แล้วใช้แปรงขนนุ่มเช็ดทำความสะอาดเบา ๆ ส่วนรองเท้าผ้าแคนวาส สามารถใช้น้ำสบู่อ่อน ๆ และแปรงขนนุ่มขัดเบา ๆ ได้ และต้องเช็ดให้แห้งสนิทด้วยผ้าสะอาดก่อนเก็บ

2. ใส่ตัวดันทรงรองเท้า (Shoe Trees) เพื่อช่วยรักษาทรง

ตัวดันทรงรองเท้า คืออุปกรณ์เสริมที่ขาดไม่ได้สำหรับผู้ที่มีคำถามว่าจะเก็บรองเท้าแบรนด์เนมอย่างไรให้สภาพดีเหมือนใหม่อยู่เสมอ โดยเฉพาะรองเท้าหนังที่มีราคาสูง เพราะอุปกรณ์นี้จะช่วยยืดอายุการใช้งานและรักษาความสวยงามของรูปทรงรองเท้าเอาไว้ได้อย่างยาวนาน นอกจากนี้ ตัวดันทรงที่ทำจากไม้ซีดาร์ยังมีคุณสมบัติในการดูดซับตวามชื้นและกลิ่นอับได้อย่างดีเยี่ยมอีกด้วย

3. เก็บในถุงผ้า (Dust Bags) เพื่อช่วยป้องกันฝุ่นละอองและรอยขีดข่วน

ถุงผ้ากันฝุ่นที่มาพร้อมกับรองเท้าแบรนด์เนมไม่ได้มีไว้เพื่อความสวยงามและความหรูหราเท่านั้น แต่ยังมีประโยชน์ในการป้องกันฝุ่นละอองและรอยขีดข่วนที่อาจเกิดจากการเสียดสีระหว่างรองเท้าคู่อื่น ๆ ด้วย ดังนั้น หากถามว่าจะเก็บรองเท้าแบรนด์เนมอย่างไรให้ยืดอายุการใช้งาน แนะนำว่าให้เก็บในถุงผ้าที่ได้มาจากแบรนด์ เพราะจะช่วยให้รองเท้าได้รับการระบายอากาศที่ดี รวมถึงป้องกันการเกิดเชื้อราและกลิ่นอับ

4. หลีกเลี่ยงการเก็บในกล่องพลาสติกที่ไม่มีช่องระบายอากาศ

หลายคนอาจมองว่าการเก็บรองเท้าในกล่องพลาสติกดูเป็นวิธีที่สะดวก แต่รู้หรือไม่ว่าแท้จริงแล้วกลับเป็นอันตรายต่อรองเท้าแบรนด์เนม เนื่องจากกล่องพลาสติกมักไม่มีการระบายอากาศที่ดีพอ ทำให้เกิดความชื้นสะสมและนำไปสู่การเกิดเชื้อราได้ แต่หากจำเป็นต้องใช้กล่องในการจัดเก็บ ควรเลือกที่มีช่องระบายอากาศ หรือกล่องกระดาษของแบรนด์ที่มาพร้อมกับรองเท้าแทน

5. จัดเก็บในที่อุณหภูมิพอเหมาะ และหลีกเลี่ยงการวางในบริเวณที่โดนแสงแดดโดยตรง

นอกจากรูปแบบการจัดเก็บแล้ว สภาพแวดล้อมก็มีผลต่ออายุการใช้งานของรองเท้าแบรนด์เนมไม่น้อยเช่นกัน โดยควรเก็บรองเท้าในที่ที่มีอุณหภูมิคงที่ ไม่ร้อนหรือเย็นจนเกินไป และหลีกเลี่ยงการวางในบริเวณที่โดนแสงแดดโดยตรง เพราะความร้อนและรังสี UV อาจทำให้วัสดุเสื่อมสภาพ สีซีดจาง หรือหนังแตกได้

6. ดูแลรองเท้าตามฤดูกล โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝนหรือฤดูหนาวที่มีความชื้นสูง

ปกติแล้ว วิธีการดูแลรองเท้าที่เหมาะสมจะแตกต่างกันไปตามฤดูกาล อย่างในช่วงฤดูฝนหรือฤดูหนาว ควรเช็ดรองเท้าให้แห้งสนิทก่อนจัดเก็บเสมอ และอาจใช้เครื่องดูดความชิ้นในตู้เก็บรองเท้า เพราะฤดูเหล่านี้จะมีความชื้นสูงเป็นพิเศษ ส่วนในฤดูร้อนก็ควรระวังไม่ให้รองเท้าโดนแสงแดดโดยตรงเป็นเวลานาน

7. ใช้ผลิตภัณฑ์เคลือบกันน้ำและกันคราบ

ผลิตภัณฑ์เคลือบกันน้ำและกันคราบ เป็นอีกหนึ่งไอเทมสำคัญที่คนรักรองเท้าแบรนด์เนมต้องมี โดยเฉพาะรองเท้าที่ทำจากวัสดุที่ดูแลรักษายาก เช่น หนังกลับ หรือผ้าแคนวาส แต่ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับวัสดุแต่ละประเภท และทำการเคลือบซ้ำตามระยะเวลาที่เหมาะสม สำหรับรองเท้าที่ใช้งานเป็นประจำ คือ ทุก 3-4 เดือน ส่วนรองเท้าที่ใช้งานนาน ๆ ครั้ง สามารถเคลือบทุก 6 เดือนได้

8. ติดตั้งชั้นวางรองเท้าที่เหมาะสม มีขนาดพอดีกับรองเท้า

การติดตั้งชั้นวางรองเท้าที่เหมาะสม ไม่เพียงแต่ช่วยให้การจัดวางดูเป็นระเบียบเท่านั้น แต่ยังช่วยยืดอายุการใช้งานของรองเท้าได้ด้วย โดยควรเลือกชั้นวางที่มีขนาดพอดีกับรองเท้า มีระยะห่างระหว่างชั้นที่เหมาะสม และมีการระบายอากาศที่ดี นอกจากนี้ ควรเว้นระยะห่างระหว่างคู่ด้วยเพื่อป้องกันการเสียดสีจนอาจทำให้เกิดรอย

<H3>9. ตรวจสอบรองเท้าเป็นประจำ เพื่อให้สามารถจัดการปัญหาได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ</H3>
น่าจะเข้าใจกันไปประมาณหนึ่งแล้วว่าจะเก็บรองเท้าแบรนด์เนมอย่างไรให้ปลอดภัย และมีรูปทรงสวยเหมือนใหม่อยู่เสมอ แต่อย่าลืมว่าวิธีที่ดีที่สุดคือ การหมั่นตรวจสอบสภาพรองเท้าเป็นประจำ ทั้งการสังเกตการเปลี่ยนแปลงของวัสดุ รอยแตก หรือการเสื่อมสภาพต่าง ๆ เพื่อให้สามารถแก้ไขปัญหาเล็ก ๆ น้อย ๆ ได้อย่างทันท่วงที ทั้งยังประหยัดค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมและรักษามูลค่าของรองเท้าในระยะยาวด้วย

สำหรับผู้ที่ต้องการเปลี่ยนรองเท้าแบรนด์เนมที่มีอยู่ให้กลายเป็นโอกาสทางการลงทุน BRANDNAME VOYAGE พร้อมให้บริการรับซื้อและฝากขายแบรนด์เนมทุกประเภท ด้วยความเชี่ยวชาญในการตรวจสอบสินค้าและการบริการที่โปร่งใส เรามั่นใจว่าจะช่วยคุณเปลี่ยนรองเท้าคู่โปรดให้กลายเป็นมูลค่าที่คุ้มค่าในตลาดสินค้ามือสอง สามารถเข้ามาที่หน้าร้าน ได้แก่ เซ็นทรัลพระราม 9, ฟิวเจอร์พาร์ครังสิต และเชียงใหม่ (รับซื้ออย่างเดียว) หรือสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับการฝากขายสินค้าเพิ่มเติมได้ที่
LINE: @voyagepurchase
Tel: 095-505-2229 (สำหรับผู้ที่สนใจฝากขายสินค้า)

ข้อมูลอ้างอิง

1. เคล็ดลับ 5 ข้อในการดูแลรักษา. สืบค้นเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2567 จาก https://www.chanel.com/th/fashion/care-instructions/shoes/.

ถ้าพูดถึงกระเป๋า Louis Vuitton ที่ขึ้นชื่อว่าเป็น “ไอคอนิกตลอดกาล” คงไม่มีชื่อไหนที่โดดเด่นไปกว่า Louis Vuitton Speedy กระเป๋าที่ไม่เพียงแต่สะท้อนถึงความสง่างามเหนือกาลเวลา แต่ยังเป็นชิ้นงานศิลปะที่จับต้องได้ ทั้งในเชิงแฟชั่นและงานฝีมือที่ประณีต Speedy ถือเป็นหนึ่งในกระเป๋าที่สาวก Louis Vuitton ทั่วโลกหลงรัก และหากคุณกำลังมองหา “คู่มือฉบับสมบูรณ์” ที่จะช่วยให้คุณเข้าใจ Louis Vuitton Speedy ในทุกมิติ ตั้งแต่จุดกำเนิด ประเภท ขนาด จนถึงวิธีการดูแลรักษา บทความนี้พร้อมตอบโจทย์ทุกข้อสงสัยของคุณ

จุดกำเนิดของ Louis Vuitton Speedy

ย้อนกลับไปในปี ค.ศ. 1930 ปฐมศักราชที่ Louis Vuitton สร้างสรรค์กระเป๋า Speedy ขึ้นเป็นครั้งแรก โดยได้รับแรงบันดาลใจจากกระเป๋าเดินทาง Keepall อันเป็นตำนาน กอปรกับความเปลี่ยนแปลงของสังคมในยุคนั้น ที่ผู้คนเริ่มเดินทางด้วยความเร็วมากขึ้น จึงต้องการกระเป๋าที่ทั้งสะดวกและทันสมัย

แรกเริ่มเดิมที Louis Vuitton Speedy มีขนาดเดียวคือ 30 เซนติเมตร แต่เมื่อนักแสดงระดับตำนานอย่าง Audrey Hepburn ร้องขอให้แบรนด์ผลิตขนาดที่เล็กลง จึงเกิดเป็น Speedy 25 ที่กลายเป็นไอคอนิกพีซอีกใบของแบรนด์

นับจากนั้นมา Louis Vuitton Speedy ก็ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง กลายเป็นหนึ่งในกระเป๋าที่ขายดีที่สุดตลอดกาลของ Louis Vuitton ด้วยความลงตัวของดีไซน์ที่ผสมผสานความคลาสสิกเข้ากับความร่วมสมัย ทำให้ Speedy กลายเป็นมากกว่ากระเป๋าใบหนึ่ง แต่เป็นสัญลักษณ์แห่งสไตล์และความมีรสนิยม

ดีไซน์และวัสดุของ Louis Vuitton Speedy

กระเป๋า Louis Vuitton Speedy โดดเด่นด้วยความเรียบง่ายแต่หรูหรา โดยมาพร้อมกับรายละเอียดที่สะท้อนถึงงานฝีมืออันประณีตของ Louis Vuitton เราสามารถแบ่งจุดเด่นของ Speedy ออกเป็น 3 ส่วนหลัก ได้แก่ วัสดุ ขนาด และฟังก์ชัน

วัสดุ (Materials)

Louis Vuitton Speedy โดดเด่นด้วยการใช้วัสดุคุณภาพเยี่ยม โดยเฉพาะ Monogram Canvas ที่เป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ ผลิตจากผ้าแคนวาสเคลือบที่ทนทานต่อน้ำและรอยขีดข่วน หูจับรวมถึงขอบกระเป๋าทำจากหนัง Vachetta ที่จะเปลี่ยนเป็นสีแทนสวยงามตามกาลเวลา อีกทั้งยังมีซิปทองเหลืองคุณภาพสูงที่ได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษ

ขนาด (Sizes)

Louis Vuitton Speedy มีให้เลือกถึง 4 ขนาด ได้แก่ Speedy 25, 30, 35 และ 40 โดยตัวเลขบ่งบอกถึงความกว้างของกระเป๋าเป็นเซนติเมตร

• Speedy 25 เหมาะสำหรับลุคกะทัดรัด สไตล์สาวเปรี้ยว เหมาะกับสาวตัวเล็กหรือผู้ที่ชอบกระเป๋าไซซ์มินิ
• Speedy 30 เป็นขนาดยอดนิยมที่เหมาะกับการใช้งานประจำวัน สามารถใส่ของได้พอดี ไม่ใหญ่หรือเล็กจนเกินไป
• Speedy 35 และ 40 เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการพื้นที่จัดเก็บมากขึ้น เช่น ใช้เป็นกระเป๋าเดินทางระยะสั้น หรือใส่เอกสารและแล็ปท็อป

ฟังก์ชัน (Functionality)

ด้วยดีไซน์ทรงโบสถ์ (Boston Shape) อันเป็นเอกลักษณ์ Louis Vuitton Speedy จึงมีพื้นที่กระเป๋ากว้างขวาง ภายในบุด้วยผ้าแคนวาสสีน้ำตาล มีช่องซิปด้านใน และพื้นที่เปิดโล่งสำหรับจัดระเบียบสัมภาระ การล็อกกระเป๋าด้วยกุญแจเพิ่มความปลอดภัยให้กับสิ่งของมีค่า โครงสร้างของกระเป๋าออกแบบมาให้สามารถวางตั้งได้อย่างมั่นคง แม้จะบรรจุของเต็ม ทำให้สะดวกในการหยิบจับสิ่งของ

Louis Vuitton Speedy มีกี่รุ่น ?

Louis Vuitton Speedy มีกี่รุ่น ? คำตอบคือมีหลากหลายรุ่นที่แตกต่างกันไปตามดีไซน์และวัสดุที่ใช้ ซึ่งแต่ละรุ่นก็มีเสน่ห์เฉพาะตัว

Speedy Monogram Canvas

เป็นรุ่นแรกที่เปิดตัวและยังคงได้รับความนิยมสูงสุดจนถึงปัจจุบัน ด้วยลายโมโนแกรมอันเป็นเอกลักษณ์ของ Louis Vuitton ผสมผสานระหว่างลวดลายดอกไม้และอักษร LV อย่างลงตัว วัสดุผ้าแคนวาสที่ใช้มีความทนทาน น้ำหนักเบา และกันน้ำได้ดี จุดเด่นของรุ่นนี้คือการใช้หนัง Vachetta บริสุทธิ์ในการตกแต่งส่วนของหูจับและขอบกระเป๋า โดยจะเปลี่ยนสีเป็น Patina สีน้ำผึ้งเมื่อใช้งานไปเรื่อย ๆ เพิ่มเสน่ห์ในสไตล์วินเทจ

Speedy Damier Ebene และ Damier Azur

ทางเลือกสำหรับผู้ที่ชื่นชอบลายตารางหมากรุก โดย Damier Ebene มาในโทนน้ำตาลเข้ม เหมาะกับการใช้งานประจำวันเพราะดูแลรักษาง่าย ขณะที่ Damier Azur โดดเด่นด้วยโทนขาว-เทา ให้ลุคที่สดใสเหมาะกับฤดูร้อน โดยรวมแล้วทั้งสองรุ่นให้ลุคที่เรียบหรูและใช้งานง่ายกว่า Monogram Canvas

Speedy Epi Leather

สำหรับสาวที่ชอบความคลาสสิกแบบมินิมอล Speedy Epi Leather ผลิตจากหนังวัวคุณภาพสูงที่มีลายนูนเป็นเอกลักษณ์ มีให้เลือกหลากสี ตั้งแต่สีดำไปจนถึงสีสดใส วัสดุหนัง Epi มีความทนทานสูง ทนน้ำและรอยขีดข่วนได้ดี

Speedy Bandoulière

นวัตกรรมล่าสุดของ Louis Vuitton Speedy ที่เพิ่มสายสะพายถอดได้ เพิ่มความสะดวกในการใช้งาน สามารถสะพายข้างหรือสะพายไขว้ได้ มีให้เลือกทั้งในวัสดุ Monogram Canvas, Damier และ Epi Leather สายสะพายปรับระดับได้ ทำให้เหมาะกับทุกรูปร่างและความสูง เป็นรุ่นที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ที่ต้องการความคล่องตัวมากขึ้น

Speedy รุ่นลิมิเต็ดเอดิชัน (Limited Edition)

Speedy Limited Edition เป็นกระเป๋าที่แฟชั่นนิสต้าตัวจริงต้องมีไว้ในครอบครอง เพราะรุ่นนี้มักจะมาพร้อมดีไซน์พิเศษที่เกิดจากการร่วมงานกับศิลปินหรือดีไซเนอร์ชื่อดัง เช่น

• Speedy Stephen Sprouse: ลายกราฟิกตัวอักษรสุดเปรี้ยว
• Speedy Takashi Murakami: ลาย Monogram Multicolor สีสันสดใสที่สร้างความประทับใจในช่วงยุค 2000
• Speedy Jeff Koons: คอลเล็กชันที่รวมภาพวาดคลาสสิกมาอยู่บนกระเป๋า

กระเป๋า Louis Vuitton Speedy ในคอลเลกชันลิมิเต็ดเอดิชันมักจะผลิตในจำนวนจำกัด และเมื่อเวลาผ่านไปก็กลายเป็นไอเทมหายากที่นักสะสมทั่วโลกแย่งกันจับจอง

การดูแลรักษา Louis Vuitton Speedy ให้อยู่คู่คุณไปนาน ๆ

การดูแล Louis Vuitton Speedy ให้สวยงามอยู่เสมอไม่ใช่เรื่องยาก แต่ต้องใส่ใจในรายละเอียด เริ่มจากการหลีกเลี่ยงความชื้น โดยเฉพาะกับหนัง Vachetta ที่อ่อนไหวต่อความชื้น เพราะอาจทำให้เกิดรอยด่างและเชื้อราได้ ควรเก็บกระเป๋าในถุงผ้าที่มาพร้อมกับกระเป๋าเสมอเมื่อไม่ได้ใช้งาน เพื่อป้องกันฝุ่นและรอยขีดข่วน และควรวางในที่แห้ง อากาศถ่ายเทได้ดี

การใส่ของในกระเป๋าควรระวังไม่ให้หนักเกินไป เพราะมีโอกาสทำให้รูปทรงเสียหาย โดยเฉพาะบริเวณก้นกระเป๋าและหูจับ สำหรับการทำความสะอาด ควรใช้ผ้านุ่ม ๆ เช็ดเบา ๆ หากมีคราบสกปรก สามารถใช้ผ้าชุบน้ำหมาด ๆ เช็ดที่ผ้าแคนวาส แต่ต้องระวังไม่ให้โดนส่วนที่เป็นหนัง และควรเช็ดให้แห้งทันที

สำหรับหนัง Vachetta ที่เป็นหูจับและขอบกระเป๋า การเปลี่ยนสีเป็นสีแทนตามธรรมชาติถือเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของกระเป๋า Louis Vuitton แต่หากต้องการชะลอการเกิดสีแทน ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับเหงื่อและครีมบำรุงผิวต่างๆ

สำหรับใครที่มีกระเป๋า Louis Vuitton Speedy และอยากนำมาเปลี่ยนเป็นเงินสด ต้องที่ BRANDNAME VOYAGE ศูนย์กลางการแลกเปลี่ยนสินค้าแบรนด์เนมทุกประเภท รับซื้อแบรนด์เนมมือสองจบในที่เดียว จดทะเบียนบริษัทอย่างถูกต้อง พร้อมให้บริการด้วยความจริงใจและเข้าใจที่สุด มีความเชี่ยวชาญในสินค้าแบรนด์เนมอันดับ 1 ในราคาที่เป็นธรรมสำหรับทุกท่านอย่างแท้จริง สามารถเข้ามาที่หน้าร้าน ได้แก่ เซ็นทรัลพระราม 9, ฟิวเจอร์พาร์ครังสิต และเชียงใหม่ (รับซื้ออย่างเดียว) หรือสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับการฝากขายสินค้าเพิ่มเติมได้ที่

LINE: @brandnamevoyage
Tel: 095-916-7171 (สำหรับผู้ที่สนใจซื้อสินค้า)
LINE: @voyagepurchase
Tel: 095-505-2229 (สำหรับผู้ที่สนใจฝากขายสินค้า)

ข้อมูลอ้างอิง

1. A Speedy History of Louis Vuitton’s Most Chameleonic It-Bag. สืบค้นเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2567 จาก https://www.vogue.com/article/louis-vuitton-speedy-bag

แม้เวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน แต่เสน่ห์และความนิยมของแบรนด์ “Chanel” กลับไม่เคยจางหาย ด้วยดีไซน์ที่ผ่านการออกแบบมาอย่างประณีตทุกใบ จนออกมาเป็นกระเป๋าที่ผสานความคลาสสิกเข้ากับนวัตกรรมสมัยใหม่ได้อย่างลงตัว ซึ่งไม่เพียงแต่มีรูปลักษณ์สวยงามเท่านั้น แต่ยังทรงคุณค่าเพิ่มขึ้นตามกาลเวลาอีกด้วย หลาย ๆ คนจึงมองหากระเป๋า Chanel รุ่นฮิตมาไว้ในครอบครอง ไม่ว่าจะซื้อใช้เอง หรือซื้อมาเก็บไว้เก็งกำไร Chanel ก็คือคำตอบสุดท้ายสำหรับคุณ

แนะนำ 6 กระเป๋า Chanel รุ่นฮิต น่าลงทุน ซื้อใช้เองก็ดี ส่งต่อก็ได้กำไร

1. Classic Flap Bag ตำนานแห่งความหรูหรา

Classic Flap Bag คือหนึ่งในกระเป๋าที่เป็นตัวแทนของแบรนด์ Chanel ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ออกแบบโดย Karl Lagerfeld ในปี 1983 โดยได้แรงบันดาลใจจาก 2.55 กระเป๋ารุ่นแรกของ Gabrielle Coco Chanel ทำให้มีดีไซน์ที่หรูหรา ทั้งโซ่สะพายไหล่สานหนังแบบคลาสสิก โลโก้ CC อันโดดเด่น และลายควิลต์บนหนังแกะคุณภาพเยี่ยม ทั้งยังมีให้เลือกหลายขนาดตั้งแต่ Mini ไปจนถึง Jumbo เพื่อตอบโจทย์ทุกการใช้งาน

ราคามือหนึ่ง : เริ่มต้นประมาณ 404,000 บาท

ราคามือสองสภาพดี : เริ่มต้นประมาณ 179,000 บาท

2. Boy Chanel ความสง่างามที่แฝงความละมุนแบบเฟมินีน

กระเป๋า Chanel น่าลงทุนอีกหนึ่งรุ่นที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน Boy Chanel เปิดตัวในปี 2011 ภายใต้แนวคิดการผสมผสานความคลาสสิกเข้ากับความร่วมสมัย ได้รับแรงบันดาลใจมาจากกระเป๋าใส่กระสุนปืนล่าสัตว์ที่ Coco Chanel หลงใหล ด้วยดีไซน์ที่เรียบง่ายแต่โฉบเฉี่ยว สายโซ่หนาแข็งแรง และตัวล็อกทรงสี่เหลี่ยมอันเป็นเอกลักษณ์ ทำให้ Boy Chanel เป็นที่หมายปองของสาวยุคใหม่ซึ่งชื่นชอบความเท่ผสมความหรู สามารถใช้ได้ทั้งในโอกาสทางการและวันสบาย ๆ

ราคามือหนึ่ง : เริ่มต้นประมาณ 289,500 บาท

ราคามือสองสภาพดี : เริ่มต้นประมาณ 109,000 บาท

3. Wallet on Chain (WOC) ขนาดกะทัดรัด น้อยแต่มาก

สำหรับสาว ๆ ที่ชื่นชอบความกะทัดรัดแต่ยังคงความหรูหรา ต้องไม่พลาด Chanel รุ่นฮิตใบนี้ Wallet on Chain กระเป๋าขนาดเล็กที่ออกแบบมาให้สามารถใช้งานได้ทั้งเป็นกระเป๋าสตางค์และกระเป๋าสะพาย ด้วยการจัดสรรพื้นที่ภายในที่เป็นสัดเป็นส่วน ทั้งช่องใส่บัตรและช่องซิปเก็บของ ทำให้ WOC กลายเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการเริ่มสะสมกระเป๋า Chanel ด้วยราคาที่จับต้องได้ง่ายกว่ารุ่นอื่น ๆ

ราคามือหนึ่ง : เริ่มต้นประมาณ 127,500 บาท

ราคามือสองสภาพดี : เริ่มต้นประมาณ 79,900 บาท

4. Grand Shopping Tote (GST) ใบใหญ่จุใจ ดีไซน์เรียบหรู

แม้จะถูกยกเลิกการผลิตไปแล้วในปี 2015 แต่ GST ก็ยังคงเป็นที่ต้องการในตลาดมือสองอย่างต่อเนื่อง ด้วยวัสดุหนังควิลต์คุณภาพดี ทนทานต่อการใช้งาน มาพร้อมความจุที่มากและการใช้งานที่หลากหลาย เหมาะสำหรับสาว ๆ วัยทำงานที่ต้องพกพาสัมภาระเยอะ อีกทั้งยังดีไซน์เรียบหรู ใช้ได้ทุกโอกาส

ราคามือหนึ่ง : ครั้งล่าสุดที่ปรากฏ คือ 95,300 บาท (เลิกผลิตแล้ว)

ราคามือสองสภาพดี : เริ่มต้นประมาณ 59,900 บาท

5. Vanity Case Shoulder Bag ความคลาสสิกที่มีเอกลักษณ์ ไม่ซ้ำใคร

อีกหนึ่งกระเป๋า Chanel รุ่นฮิตที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง ด้วยดีไซน์ทรงกล่องที่เป็นเอกลักษณ์ ผสานความคลาสสิกของหนังควิลต์ลายสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูนอันโดดเด่น มาพร้อมสายสะพายโซ่สานหนังแบบดั้งเดิม ภายในกว้างขวางพอเหมาะกับการใช้งานในชีวิตประจำวัน ด้วยรูปทรงเรียบ ๆ แต่ก็ไม่ได้ดูเป็นทางการจนเกินไป ทำให้สามารถแมตช์ได้ทั้งลุคทำงานและชุดลำลอง เหมาะสำหรับสาว ๆ ที่ชื่นชอบกระเป๋าที่มีความเป็นเอกลักษณ์และใช้งานได้หลากหลายโอกาส

ราคามือหนึ่ง : เริ่มต้นประมาณ 215,000 บาท

ราคามือสองสภาพดี : เริ่มต้นประมาณ 112,500 บาท

6. Deauville Tote แมตช์ลุคสบาย ๆ สำหรับวันชิล ๆ

อีกหนึ่งกระเป๋า Chanel น่าลงทุนที่ได้รับแรงบันดาลใจจากเมืองตากอากาศ Deauville ในฝรั่งเศส ตอบโจทย์ทั้งการใช้งานในชีวิตประจำวันและการเดินทาง ทำจากวัสดุผ้าแคนวาสคุณภาพดี น้ำหนักเบา และดีไซน์ทันสมัยที่เข้ากับลุคลำลอง แม้ราคาจะไม่สูงเท่ารุ่นที่ผลิตจากหนัง แต่ Deauville Tote ก็ยังเป็นที่นิยมในตลาดมือสองและรักษามูลค่าได้ดีไม่แพ้รุ่นอื่น ๆ

ราคามือหนึ่ง : เริ่มต้นประมาณ 144,431 บาท

ราคามือสองสภาพดี : เริ่มต้นประมาณ 75,900 บาท

 

กระเป๋า Chanel รุ่นฮิตข้างต้นนี้ล้วนมีเสน่ห์และเอกลักษณ์เฉพาะตัว ที่พร้อมจะเติมเต็มตู้เสื้อผ้าของคุณด้วยความคลาสสิกที่ไม่มีวันตกยุค หากคุณกำลังมองหากระเป๋า Chanel ราคาจับต้องได้ ของแท้ 100% ขอให้นึกถึง BRANDNAME VOYAGE เราเป็นแหล่งรวมสินค้าแบรนด์เนมมือสองมากมายหลายรุ่น ให้คุณเลือกช็อปได้แบบจุใจ สินค้าทุกชิ้นผ่านการตรวจสอบแล้วโดยผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ในวงการแบรนด์เนมมาอย่างยาวนาน มั่นใจได้ในคุณภาพและความแท้ 

เลือกชมสินค้าได้แล้ววันนี้ที่เว็บไซต์ หรือเข้ามาที่หน้าร้าน ได้แก่ เซ็นทรัลพระราม 9, ฟิวเจอร์พาร์ครังสิต และเชียงใหม่ (รับซื้ออย่างเดียว) หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

• LINE: @brandnamevoyage
• Tel: 095-916-7171 (สำหรับผู้ที่สนใจซื้อสินค้า)
• LINE: @voyagepurchase
• Tel: 095-505-2229 (สำหรับผู้ที่สนใจฝากขายสินค้า)

 

ข้อมูลอ้างอิง

1. Investment Guide: The 10 Best Vintage Chanel Bags to Invest in. สืบค้นเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2567 จาก https://collectorscage.com/blogs/guides/investment-guide-the-top-10-best-vintage-chanel-bags-to-invest-in. 
2. These Are the 10 Most Iconic Chanel Bags of All Time. สืบค้นเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2567 จาก https://www.whowhatwear.com/most-popular-chanel-bags. 

ในโลกแห่งแฟชั่นที่หมุนเวียนเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว มีเพียงไม่กี่แบรนด์ที่สามารถยืนหยัดอยู่บนจุดสูงสุดได้อย่างยาวนาน และ Yves Saint Laurent หรือ YSL คือหนึ่งในนั้น ด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนานกว่า 60 ปี YSL ได้สร้างตำนานในวงการแฟชั่นด้วยการผสมผสานความคลาสสิกเข้ากับความทันสมัยได้อย่างลงตัว บทความนี้ เราจะพาคุณไปสำรวจเสน่ห์อันน่าหลงใหลของกระเป๋า YSL พร้อมแนะนำ 5 รุ่นยอดนิยมที่ควรค่าแก่การครอบครอง

ส่องเหตุผลที่ทำให้ YSL เป็นหนึ่งในแบรนด์ที่ได้รับความนิยมตลอดกาล

ดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์

กระเป๋า YSL มีรูปแบบที่ทันสมัย ด้วยดีไซน์เรียบหรูที่ผสมผสานกับความโมเดิร์นได้อย่างลงตัว สะท้อนให้เห็นถึงความประณีตในการออกแบบที่คำนึงถึงทั้งความสวยงามและฟังก์ชันการใช้งาน

คุณภาพระดับพรีเมียม

ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน YSL ยังคงรักษามาตรฐานการผลิตไว้ได้อย่างดีเยี่ยม ตั้งแต่การคัดสรรวัสดุพรีเมียม ไปจนถึงการเลือกใช้ฮาร์ดแวร์ที่ผลิตขึ้นเป็นพิเศษ ทุกชิ้นล้วนผ่านการตรวจสอบคุณภาพอย่างพิถีพิถัน ผ่านมือช่างฝีมือที่มีประสบการณ์ยาวนาน เพื่อสร้างสรรค์ผลงานที่มีความสมบูรณ์แบบในทุกรายละเอียด

ความหลากหลาย

YSL เข้าใจดีว่า ผู้หญิงยุคใหม่ต้องการกระเป๋าที่ครอบคลุมทุกความต้องการ  ทั้งกระเป๋าถือ กระเป๋าสะพาย และกระเป๋าคลัตช์ แต่ละรุ่นล้วนได้รับการออกแบบให้แมตช์ได้ง่ายกับทุกลุค ตั้งแต่วันสบาย ๆ ไปจนถึงโอกาสพิเศษ 

การลงทุนที่คุ้มค่า

ด้วยชื่อเสียงอันยาวนานและคุณภาพที่การันตี กระเป๋า YSL จึงเป็นที่ต้องการอย่างยิ่ง ทั้งกระเป๋ามือหนึ่งและมือสอง โดยเฉพาะรุ่นคลาสสิกและรุ่นลิมิเต็ดที่มีมูลค่าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง บางรุ่นสามารถทำกำไรได้ถึง 20-30% ในระยะเวลาเพียงไม่กี่ปี นับเป็นการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนทั้งในแง่ความสวยงามและมูลค่

กระเป๋า YSL รุ่นไหนดี ? แนะนำ 5 กระเป๋า YSL ยอดนิยม

ในบรรดาคอลเลกชันมากมายของ Yves Saint Laurent มีกระเป๋า 5 รุ่นที่ได้รับการยกย่องว่าเป็น Must-Have Item สำหรับสาว ๆ ที่หลงใหลในความหรูหราร่วมสมัย ซึ่งแต่ละรุ่นล้วนมีเอกลักษณ์และเสน่ห์เฉพาะตัวที่ไม่เหมือนใคร มาดูกันว่ากระเป๋า YSL ยอดนิยมตลอดกาล มีรุ่นใดบ้าง 

YSL Solferino Small Satchel in Box

เรียบหรู มีระดับ แต่แฝงความโมเดิร์น Solferino Small Satchel คือคำตอบของสาว ๆ ที่ต้องการกระเป๋าที่ดูคลาสสิกแต่ไม่จำเจ โดดเด่นด้วยทรงเหลี่ยมที่ดูทันสมัย ประดับด้วยตัวล็อกโลโก้ YSL ด้านหน้า มาในขนาดที่กำลังดี และการดีไซน์ที่คำนึงถึงฟังก์ชันการใช้งาน ทำให้กระเป๋าใบนี้เหมาะกับทั้งลุคทำงานและลุคลำลอง

 

YSL Kate Chain Wallet

หากพูดถึงกระเป๋าคลัตช์ที่ดูหรูหราและใช้งานง่าย Kate Chain Wallet คือหนึ่งในตัวเลือกที่ดีที่สุด ด้วยดีไซน์ที่เรียบหรู โดดเด่นด้วยโลโก้ YSL ที่เป็นซิกเนเจอร์ มาพร้อมสายโซ่ที่สามารถถอดเก็บได้ ภายในออกแบบมาอย่างประณีต มีครบทั้งช่องใส่บัตรและซิปใส่เหรียญ ทำให้สามารถจัดระเบียบของใช้จำเป็นได้อย่างสะดวก เหมาะสำหรับค่ำคืนสุดพิเศษหรือโอกาสที่ต้องการความเรียบหรู

YSL Kaia Satchel

สำหรับสาว ๆ ที่มองหากระเป๋าใบกะทัดรัดแต่จุใจ Kaia Satchel คือคำตอบที่ลงตัว ด้วยทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่ดูเรียบง่ายและมีเสน่ห์ พร้อมช่องเก็บของที่จัดสรรมาอย่างลงตัวทำให้สามารถใส่ของใช้จำเป็นได้ครบครัน ซึ่งถึงแม้จะมีขนาดกะทัดรัด แต่ด้วยการออกแบบที่คำนึงถึงการใช้งานจริง ทำให้กระเป๋าใบนี้กลายเป็น Perfect Everyday Bag สำหรับสาวยุคใหม่

YSL Envelope Chain Wallet

Envelope Chain Wallet คือหนึ่งในกระเป๋า YSL ยอดนิยมที่ไม่มีวันตกเทรนด์ โดดเด่นด้วยดีไซน์ทรง Envelope ที่เรียบหรูและโลโก้ YSL ที่เป็นจุดเด่น ความพิเศษของรุ่นนี้อยู่ที่ความยืดหยุ่นในการใช้งาน สามารถใช้เป็นทั้งคลัตช์สำหรับปาร์ตี้ หรือกระเป๋าสะพายสำหรับวันสบาย ๆ จึงเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่ากับการลงทุนเป็นอย่างยิ่ง

 

YSL Le 5 à 7 Hobo Bag

สาว ๆ ที่ชื่นชอบลุคสตรีตแต่ยังคงหลงใหลในความหรูหรา Le 5 à 7 Hobo Bag คือตัวเลือกที่ใช่ ด้วยกระเป๋าทรง Hobo ที่ได้รับการตีความใหม่ให้ดูทันสมัย มาพร้อมสายสะพายที่ปรับระดับได้ตามต้องการ ดีไซน์ที่เรียบง่ายแต่มีเอกลักษณ์นี้ ทำให้แมตช์ได้ง่ายกับทุกลุค ตอบโจทย์การใช้งานในทุกวัน 

กระเป๋า YSL ยอดนิยมแต่ละรุ่นที่กล่าวมา ล้วนเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์และจุดเด่นเฉพาะตัว การเลือกรุ่นที่ใช่จึงขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์และความชอบส่วนตัว แต่ไม่ว่าจะเลือกรุ่นไหน คุณก็จะได้กระเป๋าที่ผสานความหรูหรา ความร่วมสมัย และคุณภาพระดับพรีเมียมเข้าด้วยกันอย่างลงตัว ตอบโจทย์ทั้งแฟชั่นและฟังก์ชัน อีกทั้งยังเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าในระยะยาว

สำหรับใครที่อยากเป็นเจ้าของกระเป๋า YSL ราคาดี สามารถเลือกซื้อได้ที่ BRANDNAME VOYAGE ร้านกระเป๋าแบรนด์เนมมือสอง คัดสรรคุณภาพ การันตีของแท้ 100% ตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญ 

เลือกชมสินค้าได้แล้ววันนี้ที่เว็บไซต์ หรือเข้ามาเยี่ยมชมที่หน้าร้านทั้ง 2 สาขาหลักของเรา ได้แก่ เซ็นทรัลพระราม 9, ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต และบริการรับซื้อที่เชียงใหม่ หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

• LINE: @brandnamevoyage
• Tel: 095-916-7171 (สำหรับผู้ที่สนใจซื้อสินค้า)
• LINE: @voyagepurchase
• Tel: 095-505-2229 (สำหรับผู้ที่สนใจฝากขายสินค้า)

 

ข้อมูลอ้างอิง:

1. These Classic Saint Laurent Bags Are A Shortcut To Elegant Style. สืบค้นวันที่ 8 พฤศจิกายน 2567 จาก https://www.vogue.co.uk/article/best-saint-laurent-bags 
2. The 10 Best YSL Bags Celebs Are Shopping. สืบค้นวันที่ 8 พฤศจิกายน 2567 จาก https://www.marieclaire.com/fashion/best-ysl-bags/ 

ถ้าพูดถึงแบรนด์แฟชั่นที่มาแรงแซงทุกโค้งในช่วงหลายปีที่ผ่านมา Balenciaga คงเป็นหนึ่งในชื่อที่ต้องนึกถึง ด้วยดีไซน์สุดล้ำที่ผสมผสานความคลาสสิกเข้ากับความร่วมสมัยได้อย่างลงตัว Balenciaga ได้สร้างปรากฏการณ์ในวงการแฟชั่นครั้งแล้วครั้งเล่า และนี่ก็คือ 3 กระเป๋า Balenciaga รุ่นฮิตที่ผู้หญิงตัวป็อปต้องมีติดตู้

Balenciaga City Bag

Balenciaga City Bag ที่รู้จักในชื่อ Lariat หรือ Motorcycle Bag ออกแบบโดย Nicolas Ghesquière เป็นกระเป๋าสไตล์สตรีตที่โดดเด่นด้วยดีไซน์แบบวินเทจ ใช้หนังคุณภาพสูง ที่มีดีไซน์เป็นเอกลักษณ์ มาพร้อมหมุดโลหะและซิปที่เน้นความดิบ แต่ยังคงไว้ซึ่งความคลาสสิกและลุคที่ดูแข็งแกร่ง มีหูจับหนังที่ออกแบบมาให้ถือได้สะดวก อีกทั้งยังมีสายสะพายสำหรับใช้ในวันที่ต้องการลุคที่ผ่อนคลายมากขึ้น

เหตุผลที่ทำให้เป็นไอเทมอมตะ

กระเป๋า Balenciaga City Bag สำหรับผู้หญิง เปิดตัวครั้งแรกในปี 2000 และกลายเป็นสัญลักษณ์ของแบรนด์ตั้งแต่นั้นมา ความเรียบง่ายที่มีสไตล์เข้ากับเสื้อผ้าได้หลากหลาย มีความจุที่เหมาะกับการใช้งานในชีวิตประจำวัน จึงกลายเป็นกระเป๋าที่สาว ๆ ทั่วโลกหลงรักและถือว่าเป็นไอเทมที่ไม่มีวันตกยุค แม้จะเริ่มผลิตเพียง 25 ใบแรกแต่ก็ได้การตอบรับอย่างล้นหลาม จนต้องเพิ่มการผลิตอย่างต่อเนื่อง

ขนาดและสีที่มีให้เลือก

เหตุผลที่ทำให้ Balenciaga City Bag กลายเป็นรุ่นฮิต ส่วนหนึ่งเป็นเพราะมีหลายขนาดให้เลือกสรร ตั้งแต่ไซซ์คลาสสิกที่กว้างขวาง ไปจนถึงไซซ์ Mini พร้อมเฉดสีให้เลือกมากมาย เช่น สีดำ สีเทา และสีน้ำเงินเข้ม เหมาะกับการใช้งานทุกวันและเข้ากับสไตล์การแต่งตัวที่หลากหลายสไตล์ 

Balenciaga Hourglass Bag

สำหรับกระเป๋า Balenciaga รุ่น Hourglass Bag ถือเป็นอีกรุ่นฮิตที่มีดีไซน์เป็นเอกลักษณ์ ด้วยโครงสร้างโค้งงอคล้ายทรงนาฬิกาทราย และออกแบบฐานของกระเป๋าในรูปแบบโค้งพระจันทร์เสี้ยวที่มีการอ้างอิงถึงเดรสรัดรูปเอวบาสก์ที่เป็นเอกลักษณ์ของ คริสโตบาล บาเลนเซียกา (Cristobal Balenciaga) มาพร้อมกับโลโก้ตัว “B” ที่สะดุดตาด้านหน้า ถือได้ว่าเป็นการผสมผสานสไตล์วินเทจและทันสมัยได้อย่างลงตัว

เหตุผลที่ทำให้เป็นไอเทมอมตะ

เปิดตัวครั้งแรกในปี 2019 โดยกระเป๋า Balenciaga รุ่น Hourglass Bag กลายเป็น Wishlist ของผู้หญิงทุกกลุ่ม ทุกวัย เพราะสร้างความแตกต่างจากกระเป๋าอื่นของ Balenciaga ด้วยดีไซน์รูปทรงเฉพาะและการออกแบบที่อ้างอิงสไตล์วินเทจ ทำให้เป็นที่ต้องการและได้รับการยกย่องว่าเป็นกระเป๋าแฟชั่นไอเทมแห่งยุค

ขนาดและสีที่มีให้เลือก

Balenciaga Hourglass Bag มีให้เลือกหลากหลายขนาดตั้งแต่ไซซ์ XS ไปจนถึงขนาดใหญ่ และมีหลายสีให้เลือก เช่น สีดำ สีขาว สีชมพู สีส้ม รวมไปถึงการผสมผสานสีสไตล์โฮโลแกรม บนลวดลายหนังที่แตกต่าง เพื่อให้สามารถเลือกใช้งานได้ทั้งในลุคประจำวันและโอกาสพิเศษ

Balenciaga Le Cagole Shoulder Bag

Le Cagole Shoulder Bag เปิดตัวครั้งแรกในช่วงก่อนฤดูใบไม้ร่วงปี 2021 เป็นกระเป๋าที่มาพร้อมกับสไตล์ที่โดดเด่นและกลิ่นอายของยุค Y2K โครงสร้างกระเป๋าเป็นทรงครึ่งวงกลมคล้ายครัวซองต์หรือพระจันทร์เสี้ยวในบางมุมมอง มีการตัดเย็บจากหนังลูกวัวที่นุ่มสบาย ตกแต่งด้วยองค์ประกอบที่สื่อถึงความเป็น Balenciaga รุ่นฮิตอย่างแท้จริง เช่น หมุดโลหะ 

เหตุผลที่ทำให้เป็นไอเทมอมตะ

ดีไซน์ที่เกิดมาจากแรงบันดาลใจจากยุค 2000 และผสมผสานกับลุคสตรีตแฟชั่นสไตล์ Balenciaga ทำให้กลายเป็นไอเทมที่ทันสมัย แต่ยังคงกลิ่นอายความร็อกเอาไว้อย่างโดดเด่น ส่งผลให้ Le Cagole กลายเป็นกระเป๋า Balenciaga ที่ได้รับความนิยมในหมู่ผู้หญิงรุ่นใหม่อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะกลุ่ม Gen Z ที่ชื่นชอบลุคแฟชั่นที่มีความย้อนยุคแต่ยังทันสมัยและแตกต่าง

ขนาดและสีที่มีให้เลือก

Le Cagole Shoulder Bag มีขนาดให้เลือกหลากหลาย ทั้งไซซ์ Mini ไปจนถึงไซซ์ปกติที่สามารถใส่ของจำเป็นได้อย่างพอดี นอกจากนี้ยังมีเฉดสีที่หลากหลายเพื่อตอบโจทย์ทุกสไตล์ ตั้งแต่สีคลาสสิกอย่างสีดำและสีขาว ไปจนถึงสีสันที่สดใส สะดุดตา เช่น สีม่วง สีฟ้าพาสเทล สีเหลือง และสีส้มสดใส ทำให้สามารถเลือกใช้ได้ตามอารมณ์และลุคในแต่ละวัน

ไม่ว่าคุณจะเป็นสาวสไตล์ไหน Balenciaga ก็มีกระเป๋าที่ตอบโจทย์ทุกลุค ทั้ง 3 รุ่นนี้ล้วนเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า ด้วยดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์และคุณภาพระดับพรีเมียม รับรองว่าคุณจะได้กระเป๋าที่ไม่เพียงแต่สวยงาม แต่ยังเป็นไอเทมที่บ่งบอกถึงรสนิยมที่โดดเด่นของคุณอีกด้วย

 

 

สนใจกระเป๋า Balenciaga นึกถึง BRANDNAME VOYAGE แหล่งรวมกระเป๋าแบรนด์เนมมือสองมากมายหลายรุ่น ให้คุณเลือกช็อปได้แบบจุใจ สินค้าทุกชิ้นผ่านการตรวจสอบแล้วโดยผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ในวงการแบรนด์เนมมาอย่างยาวนาน มั่นใจได้ในคุณภาพและความแท้ เลือกชมสินค้าได้แล้ววันนี้ที่เว็บไซต์ หรือเข้ามาที่หน้าร้านทั้ง 2 สาขาหลักของเรา ได้แก่ เซ็นทรัลพระราม 9, ฟิวเจอร์พาร์ครังสิต และเชียงใหม่ (รับซื้ออย่างเดียว) หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

• LINE: @brandnamevoyage
• Tel: 095-916-7171 (สำหรับผู้ที่สนใจซื้อสินค้า)
• LINE: @voyagepurchase
• Tel: 095-505-2229 (สำหรับผู้ที่สนใจฝากขายสินค้า)

 

ข้อมูลอ้างอิง

1. 1. History of the Hero: The Balenciaga City bag. สืบค้นเมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2567 จาก https://www.vogue.co.uk/fashion/article/balenciaga-hourglass-bag 
   2. Balenciaga’s Hourglass Bag Is Both Trendy And Timeless Thanks To Its Rich History. สืบค้นเมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2567 จาก https://graziamagazine.com/us/articles/balenciagas-hourglass-bag-is-both-trendy-and-timeless-thanks-to-its-rich-history/ 
   3. Balenciaga Has a Brand New, Celeb-Approved It Bag. สืบค้นเมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2567 จาก https://www.vogue.com/article/le-cagole-balenciaga-bag-dua-lipa-julia-fox-bella-hadid 

ในโลกแฟชั่นระดับไฮเอนด์ Gucci ถือเป็นหนึ่งในแบรนด์ที่ได้รับความนิยมสูงสุด แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ายิ่งนิยมเท่าไร โอกาสที่จะมี ‘สินค้าปลอม’ ก็ยิ่งมากเท่านั้น ด้วยเหตุนี้ หลายคนลังเลที่จะซื้อไอเทม Gucci เพราะกลัวว่าจะโดนหลอก เสียเงินไปแล้วได้ของปลอมกลับมา ดังนั้น สำหรับใครที่อยากช็อปอย่างสบายใจ วิธีเช็กไอเทม Gucci แท้จึงเป็นสิ่งที่ควรรู้ไว้ติดตัว

1. สังเกตคุณภาพโดยรวมของสินค้า

ถ้าถ้ามว่ากระเป๋ากุชชี่แท้ดูยังไง อันดับแรกและเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดในการแยกแยะระหว่างของแท้และของปลอมคือ การตรวจสอบคุณภาพของไอเทมชิ้นดังกล่าว โดยมีวิธีดังนี้

• วัสดุคุณภาพสูง
  Gucci ใช้วัสดุที่มีคุณภาพสูง ทั้งหนังแท้ ผ้า และโลหะ หากรู้สึกว่าวัสดุนั้นบางเกินไปหรือมีความหยาบ ให้ระวังเพราะนั่นอาจเป็นสัญญาณของสินค้าปลอม
• การเย็บ
  การเย็บของ Gucci จะเรียบร้อยและสม่ำเสมอ โดยไม่มีด้ายหลุดหรือรอยเย็บที่ไม่เรียบ การเย็บที่ไม่เรียบร้อยมักจะพบในสินค้าปลอม
• น้ำหนัก
  สินค้า Gucci มักจะมีน้ำหนักที่รู้สึกได้ว่าหนักแน่นและมั่นคง โดยเฉพาะสินค้าที่มีการใช้โลหะ หากสินค้ารู้สึกเบาหวิวผิดปกติ นั่นเป็นอีกหนึ่งสัญญาณของสินค้าปลอม

2. ตรวจสอบรายละเอียดเฉพาะของแบรนด์

การตรวจสอบรายละเอียดเล็ก ๆ ของสินค้า Gucci คืออีกหนึ่งเช็กไอเทม Gucci แท้ ที่ทำได้ไม่ยาก และได้รับความนิยมเช่นกัน 

• โลโก้ GG
  สำหรับคำถามยอดฮิตว่า ‘เสื้อ Gucci แท้ ดูยังไง ?’ วิธีที่ง่ายที่สุดคือให้ดูที่โลโก้ GG ของ Gucci เพราะของแท้จะมีลักษณะเฉพาะ โดย G ทั้งสองตัวจะหันเข้าหากัน การตรวจสอบโลโก้ที่ชัดเจนและมีรายละเอียดสมบูรณ์จะช่วยแยกสินค้าปลอมออกจากของแท้ได้
• ซิป
  Gucci มักใช้ซิปที่มีความทนทานและมักจะมีการประทับตรา Gucci หรือโลโก้ GG บนหัวซิป หากซิปมีลักษณะบอบบาง หรือไม่มีโลโก้ ให้ระวังว่านี่อาจเป็นของปลอม
• ป้ายหนัง (Leather Tag)
  สินค้า Gucci แท้มักจะมีป้ายหนังที่ประทับโลโก้ Gucci ชัดเจน บนป้ายหนังนี้จะมีการสลักคำว่า “Gucci” และ “Made in Italy” อย่างคมชัด จึงควรตรวจสอบการเย็บและการประทับตราให้ละเอียด

3. ตรวจสอบรหัสสินค้าและซีเรียลนัมเบอร์

การตรวจสอบรหัสสินค้าและซีเรียลนัมเบอร์ เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการตรวจสอบความแท้ของสินค้า Gucci

• รหัสสินค้า
  สินค้า Gucci ทุกชิ้นจะมีรหัสสินค้าที่ประกอบด้วยตัวเลข 6-8 หลัก ซึ่งสามารถตรวจสอบได้จากเว็บ เช็กเลขกระเป๋า Gucci ทางการว่าตรงกับสินค้าที่คุณซื้อหรือไม่
• ซีเรียลนัมเบอร์
  ซีเรียลนัมเบอร์มักจะอยู่บนป้ายหนังด้านในของสินค้า ตัวเลขจะมีลักษณะเรียบเนียนและเป็นระเบียบ หากพบว่าซีเรียลนัมเบอร์เบลอ หรือมีการสลักไม่ชัดเจน นั่นอาจเป็นสินค้าปลอม

4. สังเกตบรรจุภัณฑ์และอุปกรณ์เสริม

• กล่อง
  กล่องของ Gucci มักจะมีโลโก้ชัดเจนและมีความแข็งแรง หากกล่องดูบาง หรือมีลักษณะบอบบาง นั่นอาจเป็นสัญญาณของสินค้าปลอม
• ถุงผ้า
  ถุงผ้าของ Gucci จะทำจากผ้าที่มีคุณภาพดีและมีโลโก้ Gucci ปักหรือพิมพ์ไว้อย่างชัดเจน
• ใบรับรองความแท้
  Gucci มักจะมีใบรับรองความแท้ที่มาพร้อมสินค้า ซึ่งมีรายละเอียดของสินค้าและโลโก้ที่ชัดเจน หากไม่มีใบรับรอง หรือใบรับรองมีลักษณะผิดปกติ อาจเป็นสินค้าปลอม
• การ์ดดูแลรักษาสินค้า
  การ์ดดูแลรักษาสินค้า มักจะมีคำแนะนำเกี่ยวกับการทำความสะอาดและการดูแลสินค้าของ Gucci ซึ่งมักจะใช้กระดาษคุณภาพดี

5. ใช้เทคโนโลยีช่วยตรวจสอบ

Gucci ได้นำเทคโนโลยีมาใช้ในการช่วยป้องกันสินค้าปลอม โดยสามารถเช็กไอเทม Gucci แท้ ได้ด้วยวิธีดังนี้

• NFC Tag :
  สินค้า Gucci บางรุ่นมี NFC Tag ที่สามารถสแกนได้ด้วยสมาร์ตโฟนเพื่อตรวจสอบความแท้ หากสแกนแล้วไม่ได้รับข้อมูลเกี่ยวกับสินค้า อาจเป็นของปลอม
• QR Code :
  QR Code ที่ติดมากับสินค้าสามารถสแกนเพื่อตรวจสอบความแท้ได้ QR Code ของ Gucci จะพาคุณไปยังเว็บเช็กเลขกระเป๋า Gucci ทางการหรือแอปพลิเคชันเพื่อตรวจสอบสินค้า

6. สังเกตราคา

• ราคาที่ถูกเกินจริงมักเป็นสัญญาณเตือนว่าอาจเป็นสินค้าปลอม
  หากพบสินค้าราคาถูกกว่าราคาตลาดมาก ๆ ควรตั้งข้อสงสัย เพราะสินค้า Gucci ของแท้จะมีราคาที่สม่ำเสมอในตลาด
• เปรียบเทียบราคากับเว็บไซต์ทางการของ Gucci หรือตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับการรับรอง
  ควรตรวจสอบราคาสินค้าจากเว็บไซต์ทางการของ Gucci หรือตัวแทนจำหน่ายที่มีการรับรอง เพื่อให้มั่นใจว่าราคาสอดคล้องกับสินค้าที่แท้จริง

 

ถ้าอยากช็อปกระเป๋า Gucci รุ่นฮิตอย่างสบายใจ มั่นใจได้ว่าของแท้ 100% อีกทั้งราคายังยุติธรรม ต้องที่ BRANDNAME VOYAGE ศูนย์กลางในการแลกเปลี่ยนสินค้าแบรนด์เนมทุกประเภท ซื้อขายกระเป๋าแบรนด์มือสองจบในที่เดียว จดทะเบียนบริษัทอย่างถูกต้อง พร้อมให้บริการด้วยความจริงใจและเข้าใจที่สุด มีความเชี่ยวชาญสินค้าแบรนด์เนมอันดับ 1 ในราคาที่เป็นธรรมสำหรับทุกท่านอย่างแท้จริง

เลือกชมสินค้าได้แล้ววันนี้ที่เว็บไซต์ หรือเข้ามาเยี่ยมชมที่หน้าร้านทั้ง 2 สาขาหลักของเรา ได้แก่ เซ็นทรัลพระราม 9, ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต และบริการรับซื้อที่เชียงใหม่ หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

• LINE: @brandnamevoyage
• Tel: 095-916-7171 (สำหรับผู้ที่สนใจซื้อสินค้า)
• LINE: @voyagepurchase
• Tel: 095-505-2229 (สำหรับผู้ที่สนใจฝากขายสินค้า)

 

ข้อมูลอ้างอิง:

1. How to authenticate Gucci. สืบค้นวันที่ 12 พฤศจิกายน 2567 จาก https://www.gucci.com/us/en/st/nfc-tag-experience?srsltid=AfmBOoo3t3u_ILBUy3VHspuZkx4dMFDRUrhKVEPw59n3AZqBYNpkClFk

หากพูดถึงนิยามของคำว่าแฟชั่น หลายคนน่าจะนึกถึงเทรนด์ที่มักมาไวไปไว เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา จึงมีเพียงไม่กี่แบรนด์เท่านั้นที่สามารถยืนหยัดอยู่ในตลาดได้อย่างสง่างามท่ามกลางกระแสนิยม ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ “กระเป๋าโกยาร์ด” (Goyard) แบรนด์สุดคลาสสิกสัญชาติฝรั่งเศส ที่มีประวัติยาวนานกว่า 200 ปี

Goyard ไม่เคยโฆษณา ไม่มีการขายออนไลน์ และไม่เคยให้สัมภาษณ์ที่ไหน แต่กลับเป็นที่หมายปองของเหล่าแฟชั่นนิสต้าทั่วโลก นั่นเป็นเพราะสไตล์การออกแบบที่นอกจากจะเรียบหรู วัสดุที่ใช้ยังมีคุณภาพสูง อีกทั้งดีไซน์ยังสวย เป็นเอกลักษณ์ ไม่มีใครเหมือนนั่นเอง จึงไม่แปลกที่หลาย ๆ คนจะมองหารุ่นฮิตของแบรนด์นี้มาไว้ในครอบครอง Goyard สีไหนแพง สีไหนหายาก บอกเลยว่าไม่เกินใจเหล่าแฟนพันธุ์แท้แน่นอน !

7 รุ่นยอดนิยมของกระเป๋าโกยาร์ด ครองใจทั้งนักสะสมและนักลงทุน

1. Saint Louis Tote ตำนานแห่งความคลาสสิก

Saint Louis Tote คือไอคอนิกไอเทมที่สร้างชื่อให้แก่แบรนด์กระเป๋าโกยาร์ด ผลิตจากผ้าแคนวาสเคลือบที่มีน้ำหนักเบาและทนทาน มาพร้อมกระเป๋าใบเล็ก (Pochette) ที่สามารถถอดแยกใช้งานได้ โดยความพิเศษของ Saint Louis อยู่ที่การใช้งานที่หลากหลาย ด้วยดีไซน์ทรงโทตที่เรียบง่ายแต่หรูหรา ทำให้เหมาะสำหรับทั้งการใช้งานในชีวิตประจำวันและโอกาสพิเศษ

หากถามว่า Saint Louis Tote ของ Goyard สีไหนหายากที่สุดนั้น นักสะสมและนักลงทุนส่วนใหญ่จะนิยมลงทุนกับใบที่ไม่ใช่สีเบสิก เช่น สีส้ม สีแดง สีฟ้า เพราะเป็นสีที่มีมูลค่าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่วน Goyard สีไหนแพงสุดอาจบอกได้ยาก เพราะขึ้นอยู่กับความนิยมของสีแต่ละช่วงนั่นเอง

ราคามือหนึ่ง : เริ่มต้นประมาณ 51,364 บาท

ราคามือสองสภาพดี : เริ่มต้นประมาณ 49,900 บาท

2. Anjou Reversible Tote ใบเดียวได้ถึงสองลุค

Anjou Reversible Tote คือนวัตกรรมการออกแบบที่ตอบโจทย์ผู้ใช้งานยุคใหม่ ภายใต้คอนเซปต์ “สองด้าน สองสไตล์” กล่าวคือ กระเป๋ารุ่นนี้สามารถกลับด้านใช้งานได้ โดยด้านนอกจะเป็นลาย Goyardine อันเป็นเอกลักษณ์ ส่วนด้านในเป็นหนังเรียบ ๆ สีเดียวกัน ทำให้ผู้ใช้สามารถปรับเปลี่ยนลุคได้ตามโอกาสการใช้งาน

ราคามือหนึ่ง : เริ่มต้นประมาณ 92,000 บาท

ราคามือสองสภาพดี : สอบถามเพิ่มเติมกับร้านขายแบรนด์เนมมือสองที่น่าเชื่อถือ

3. Goyard Boeing เพื่อนคู่ใจของนักเดินทาง

Boeing ออกแบบมาเป็นการเฉพาะสำหรับนักเดินทาง ด้วยขนาดที่พอเหมาะสำหรับการเป็นกระเป๋าถือขึ้นเครื่อง (Carry on) โดยจุดเด่นของ Boeing จะอยู่ที่การรักษาสภาพได้ดีแม้ผ่านการใช้งานหนัก เพราะใช้วัสดุที่ทนทานเป็นพิเศษ และมีการเสริมความแข็งแรงในจุดสำคัญ ทำให้กระเป๋าโกยาร์ดรุ่นนี้ได้รับความนิยมจากนักเดินทางระดับไฮเอนด์ และมีมูลค่าในตลาดมือสองสูง ตลอดจนเป็นที่ต้องการของนักสะสม

ราคามือหนึ่ง : สอบถามเพิ่มเติมกับทาง Official Shop

ราคามือสองสภาพดี : สอบถามเพิ่มเติมกับร้านขายแบรนด์เนมมือสองที่น่าเชื่อถือ

4. Artois MM การผสานระหว่างความคสาสสิกและความทนทาน

Artois MM เกิดจากการผสมผสานจุดเด่นของ Saint Louis และ Boeing เข้าด้วยกัน ได้แก่ ความคลาสสิกและความทนทาน มาพร้อมซิปปิดด้านบนเพื่อความปลอดภัยของสัมภาระ และก้นกระเป๋าที่เสริมความแข็งแรงเป็นพิเศษ ด้วยการออกแบบที่ตอบโจทย์การใช้งานจริง Artois MM จึงเป็นกระเป๋าโกยาร์ดรุ่นที่มีอัตราการเติบโตของมูลค่าสูง โดยเฉพาะในตลาดมือสอง

ราคามือหนึ่ง : สอบถามเพิ่มเติมกับทาง Official Shop

ราคามือสองสภาพดี : สอบถามเพิ่มเติมกับร้านขายแบรนด์เนมมือสองที่น่าเชื่อถือ

5. Goyard Belvedere กะทัดรัดแต่จุใจ

Belvedere คือคำตอบสำหรับผู้ที่ต้องการกระเป๋าขนาดกะทัดรัดที่ยังคงความจุเหลือเฟือ ด้วยการจัดสรรพื้นที่ภายในโดยแบ่งเป็นช่องใหญ่ 1 ช่อง ช่องเล็ก 2 ช่อง และช่องยาวอีก 1 ช่อง ทำให้สามารถใส่ของใช้จำเป็นได้ครบถ้วน แม้จะมีขนาดเล็กกว่ารุ่นอื่น ๆ ซึ่งความนิยมของ Belvedere นั้นเพิ่งจะมาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้เอง โดยเฉพาะในกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบกระเป๋าขนาดกะทัดรัด ส่วน Goyard สีไหนหายากที่สุด สำหรับรุ่นนี้ก็ต้องแน่นอนว่าเป็นสีเทาสุดลิมิเต็ด

ราคามือหนึ่ง : เริ่มต้นที่ 85,000 บาท

ราคามือสองสภาพดี : สอบถามเพิ่มเติมกับร้านขายแบรนด์เนมมือสองที่น่าเชื่อถือ

6. Goyard Cap Vert Bag สไตล์สุดชิคสำหรับแฟชั่นนิสต้ายุคใหม่

กระเป๋าทรงกะทัดรัดที่ได้รับความนิยมอย่างมากในกลุ่มคนรุ่นใหม่ ด้วยดีไซน์แบบมินิมัลที่สามารถใช้ได้ทั้งแบบครอสบอดีและคล้องไหล่ สายสะพายปรับระดับได้ เหมาะกับการใช้งานได้หลากหลายโอกาส แม้จะมีขนาดเล็กแต่ก็สามารถใส่ของใช้จำเป็นได้อย่างครบครัน  นอกจากนี้ ด้วยความที่เป็นทรงที่ค่อนข้างคลาสสิก ทำให้ Cap Vert เป็นที่ต้องการอย่างมากในตลาดมือสอง ทั้งยังมีมูลค่าที่สูงขึ้นเรื่อย ๆ หากถามว่า Goyard สีไหนแพงสุด หายากสุดสำหรับรุ่นนี้ ก็บอกเลยว่า ทุกสี !

ราคามือหนึ่ง : เริ่มต้นประมาณ 92,500 บาท

ราคามือสองสภาพดี : เริ่มต้นประมาณ 83,500 บาท

7. Goyard Senat Pouch ความหรูหราที่มาพร้อมความอเนกประสงค์

Senat Pouch โดดเด่นที่การใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ โดยสามารถใช้เป็นทั้งกระเป๋าเอกสาร กระเป๋าใส่เครื่องสำอาง หรือคลัตช์ออกงานก็ดูดี มีให้เลือกหลายขนาดตั้งแต่ Mini ไปจนถึง Large และด้วยราคาเริ่มต้นที่ต่ำกว่ารุ่นอื่น ๆ ทำให้ Senat Pouch ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการเริ่มสะสมกระเป๋าโกยาร์ด

ราคามือหนึ่ง : สอบถามเพิ่มเติมกับทาง Official Shop

ราคามือสองสภาพดี : เริ่มต้นประมาณ 29,900 บาท

 

ไม่ว่าคุณจะซื้อกระเป๋าโกยาร์ดมาใช้เอง หรือลงทุนเพื่อเก็งกำไรในอนาคต อย่างน้อย 1 ใน 7 ของรุ่นข้างต้นนี้ถือเป็นไอเทมที่คุณต้องมี หากคุณกำลังมองหากระเป๋าแบรนด์เนมโกยาร์ดมือสอง คุณภาพเยี่ยม หรือต้องการขายกระเป๋าแบรนด์เนมในราคาที่เหมาะสม BRANDNAME VOYAGE ยินดีให้คำปรึกษาและบริการด้วยความเชี่ยวชาญและความใส่ใจ เราเป็นแหล่งรวมกระเป๋าแบรนด์เนมมือสองมากมายหลายรุ่น ให้คุณเลือกช็อปได้แบบจุใจ สินค้าทุกชิ้นผ่านการตรวจสอบแล้วโดยผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ในวงการแบรนด์เนมมาอย่างยาวนาน มั่นใจได้ว่าของแท้ 100%

เลือกชมสินค้าได้แล้ววันนี้ที่เว็บไซต์ หรือเข้ามาที่หน้าร้าน ได้แก่ เซ็นทรัลพระราม 9, ฟิวเจอร์พาร์ครังสิต และเชียงใหม่ (รับซื้ออย่างเดียว) หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

• LINE: @brandnamevoyage
• Tel: 095-916-7171 (สำหรับผู้ที่สนใจซื้อสินค้า)
• LINE: @voyagepurchase
• Tel: 095-505-2229 (สำหรับผู้ที่สนใจฝากขายสินค้า)

 

ข้อมูลอ้างอิง

1. Your Guide to the Top 5 Goyard Bags. สืบค้นเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2567 จาก https://www.sothebys.com/en/articles/your-guide-to-the-top-5-goyard-bags. 
2. The 10 Best Goyard Bags and What to Know Before Buying. สืบค้นเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2567 จาก https://www.whowhatwear.com/best-goyard-bags.