Category: Uncategorized

ตั้งแต่ปี 2021 ที่ผ่านมา Louis Vuitton ได้ปฏิวัติแนวทางการตรวจสอบของลอกเลียนแบบ ด้วยการคิดค้นเทคโนโลยีสุดล้ำสมัยที่เรียกว่า ‘ไมโครชิป’ วันนี้เราจะพาสาวกกระเป๋าแบรนด์เนมมารู้จักกับเทคโนโลยีนี้ให้มากขึ้น เพื่ออัปเดตวิธีเช็กกระเป๋า Louis Vuitton แบบใหม่ล่าสุดไปพร้อมกัน ติดตามได้เลย

Date Code รหัสสำคัญที่เคยใช้ในการตรวจสอบกระเป๋า Louis Vuitton แท้

โดยปกติแล้ว ใครที่ชอบสะสมกระเป๋าหลุยส์ วิตตอง (Louis Vuitton) น่าจะคุ้นเคยกับ Date Code (DC) ซึ่งเป็นรหัสที่จะถูกปั๊มอยู่บนกระเป๋าหลุยส์ทุกใบ ในตำแหน่งที่ต่างกัน บางรุ่นอาจปั๊มติดอยู่บน Tag หนังขนาดเล็ก และเย็บซ่อนไว้ในกระเป๋า บางรุ่นอาจปั๊มอยู่บนผ้าที่เป็นซับในของกระเป๋า และบางรุ่นก็อาจปั๊มลงไปบนตัวกระเป๋าเลย ซึ่ง Date Code นี้ เป็นรหัสสำคัญที่บ่งบอกถึงรายละเอียดของกระเป๋าแต่ละใบ ว่าถูกผลิตขึ้นที่ไหน และผลิตขึ้นเมื่อไร เพื่อใช้ตรวจสอบว่าเป็นสินค้าแท้หรือเป็นสินค้าลอกเลียนแบบ โดย Date Code นี้ถูกนำมาใช้ตั้งแต่ช่วงปี 1980 ซึ่งนอกจากกระเป๋าถือแล้ว ยังนำไปใช้กับกระเป๋าสตางค์ เข็มขัด รองเท้า และสินค้าอื่น ๆ จากหลุยส์อีกด้วย

แต่อีกหนึ่งเรื่องที่คนรักกระเป๋าหลุยส์ต้องรู้ ก็คือ หากเป็นกระเป๋ารุ่นเก่า ๆ ที่ผลิตขึ้นก่อนปี 1980 จะไม่มี Date Code ระบุอยู่ ดังนั้นหากใครที่เป็นสายสะสมของวินเทจ อาจต้องใช้วิธีตรวจสอบกระเป๋า Louis Vuitton ด้วยรายละเอียดอื่น ๆ เพื่อยืนยันว่าเป็นของแท้ เช่น หนัง โลโก้ หรืออะไหล่

รู้จักไมโครชิป (Microchip) เทคโนโลยีใหม่ในการตรวจสอบกระเป๋า Louis Vuitton

สำหรับไมโครชิป ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่นำมาใช้ในการตรวจสอบกระเป๋า Louis Vuitton นี้ ทางหลุยส์ได้ทำการศึกษาและพัฒนามาตั้งแต่ปี 2019 จากนั้นจึงเริ่มนำมาใช้แทน Date Code ในปี 2021 ที่ผ่านมา ซึ่งเทคโนโลยีไมโครชิปเป็นการใช้ชิปขนาดเล็กที่เรียกว่า Small Radio Frequency Identification หรือ RFID ฝังลงไปในกระเป๋า Louis Vuitton ในตำแหน่งที่ไม่สามารถนำออกมาได้ และเราจะไม่รู้ด้วยว่าไมโครชิปนี้ถูกฝังอยู่ตรงไหน โดยไมโครชิปจะระบุรายละเอียดที่สำคัญดังนี้

• สถานที่ที่ผลิต
• รายละเอียดของกระเป๋า เช่น รุ่น และ ขนาด
• รหัสกระเป๋า
• วันที่กระเป๋าถูกจำหน่าย
• รายละเอียดของลูกค้าผู้ซื้อกระเป๋า
• ร้านค้าหรือเว็บไซต์ที่จำหน่ายกระเป๋า รวมถึงชื่อพนักงานที่เป็นผู้ขาย

ใครที่สามารถสแกนไมโครชิปเพื่อตรวจสอบกระเป๋า Louis Vuitton ได้บ้าง ?

การสแกนไมโครชิปเพื่อตรวจสอบกระเป๋า Louis Vuitton สามารถทำได้โดย SA (Sales Associate) หรือพนักงานขายเท่านั้น ด้วยแอปพลิเคชันที่พัฒนาขึ้นมาโดยเฉพาะ ซึ่งเมื่อสแกนแล้ว พนักงานจะสามารถเห็นข้อมูลทั้งหมดได้ แต่สิ่งที่ต้องรู้ก็คือ เราไม่สามารถนำกระเป๋าเดินเข้าช็อปไปให้พนักงานสแกนได้ เพราะการสแกนจะเกิดขึ้นในตอนที่เราต้องการคืนสินค้าเท่านั้น เพื่อเป็นการยืนยันว่าเรานำสินค้าใบเดิมที่ซื้อไปกลับมาคืนอย่างถูกต้อง

ข้อดีของไมโครชิป

เทคโนโลยีไมโครชิปที่ใช้ยืนยันความเป็นสินค้าแท้จาก Louis Vuitton มาพร้อมกับข้อดีดังนี้

• เป็นสิ่งที่ยากต่อการปลอมแปลง ทำให้สามารถแยกกระเป๋าแท้ออกจากกระเป๋าลอกเลียนแบบได้ง่ายยิ่งขึ้น
• สามารถเก็บข้อมูลสำคัญ ๆ ได้อย่างครบถ้วน ทั้งข้อมูลของผู้ซื้อและผู้ขาย
• เป็นวิธีเช็กกระเป๋า Louis Vuitton ที่สะดวกและรวดเร็ว ไม่ต้องตรวจสอบหลายจุด หลายขั้นตอน
• ช่วยเพิ่มความมั่นใจในการซื้อสินค้าได้มากขึ้น

 

นอกจากสาระน่ารู้ที่เรานำมาฝากกัน หากใครที่กำลังมองหาแหล่งรับซื้อ Louis Vuitton สามารถนำมาขายได้เลยที่ BRANDNAME VOYAGE เราคือร้านที่ให้บริการด้านสินค้าแบรนด์เนมอย่างครบวงจร โดยหน้าร้านของเรามีการจดทะเบียนบริษัทอย่างถูกต้อง พร้อมให้บริการรับซื้อผ่านช่องทางที่หลากหลายตามความสะดวกของลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นการรับซื้อที่หน้าร้าน การไปรับสินค้าที่บ้านของลูกค้า หรือจะเป็นการจัดส่งทางไปรษณีย์ ทั้งหมดนี้เราบริการให้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม

เลือกชมสินค้าได้แล้ววันนี้ที่เว็บไซต์ หรือเข้ามาที่หน้าร้านทั้ง 2 สาขาหลักของเรา ได้แก่ เซ็นทรัลพระราม 9, ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต และบริการรับซื้อที่เชียงใหม่ หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

• LINE: @brandnamevoyage
• Tel: 095-916-7171 (สำหรับผู้ที่สนใจซื้อสินค้า)
• LINE: @voyagepurchase
• Tel: 095-505-2229 (สำหรับผู้ที่สนใจฝากขายสินค้า)

 

ข้อมูลอ้างอิง:

1. The Louis Vuitton Microchip: Tech Meets Luxury. สืบค้นวันที่ 2 ตุลาคม 2567 จาก https://liyahsluxuries.com/blogs/liyahs-luxuries-blog/the-revolutionary-louis-vuitton-microchip-a-blend-of-technology-and-luxury#:~:text=To%20check%20the%20serial%20number,stitching%20or%20hidden%20in%20pockets.

หากใครที่มีกระเป๋าแบรนด์เนมใบโปรด และมักจะใช้กระเป๋าใบนั้นอยู่บ่อย ๆ เมื่อเวลาผ่านไป เราอาจพบว่ากระเป๋าใบสวยเริ่มมีคราบสกปรกในบางจุด แต่แน่นอนว่า กระเป๋าหลายรุ่นเป็นกระเป๋าที่ทำมาจากหนังชนิดพิเศษ จึงไม่สามารถทำความสะอาดด้วยวิธีทั่วไปได้ แล้วเราจะมีวิธีทำความสะอาดกระเป๋าแบรนด์เนมอย่างไร ให้ดูสวยเหมือนใหม่อยู่เสมอ เรามีเคล็ดลับมาฝาก

5 วิธีทำความสะอาดกระเป๋าแบรนด์ใบโปรดให้สวยเหมือนเข้าสปา

ทำความสะอาดคราบสกปรกภายนอก

เคล็ดลับดูแลกระเป๋าแบรนด์ด้วยตัวเอง อันดับแรกให้เริ่มจากการทำความสะอาดคราบสกปรกภายนอก โดยพิจารณาจากประเภทของหนัง เช่น หนังแกะ หนังวัว หนังจระเข้ หรือหนังอื่น ๆ เพื่อให้สามารถทำความสะอาดได้อย่างถูกต้อง โดยไม่เป็นการทำลายหนัง ซึ่งความแตกต่างในการดูแลหนังแต่ละประเภท มีอยู่ด้วยกันดังนี้

• หนังแกะ : ใช้ผ้าแห้งนุ่ม ๆ เช็ดทำความสะอาดเบา ๆ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดรอยขีดข่วน
• หนังวัว : ใช้ผ้าชุบน้ำบิดหมาด ๆ เช็ดคราบสกปรกออก จากนั้นใช้ผ้าแห้งเช็ดซ้ำอีกครั้ง และรอให้แห้งสนิท
• หนังจระเข้ : ใช้ผ้าแห้งหรือแปรงขนนุ่มเช็ดทำความสะอาดเท่านั้น หลีกเลี่ยงการใช้น้ำยาหรือครีมทำความสะอาดต่าง ๆ
• หนังแก้ว : ใช้ผ้าชุบน้ำหมาด ๆ เช็ดถูคราบออกเบา ๆ หลีกเลี่ยงการขัดแรง ๆ
• หนังสังเคราะห์ : ใช้ผ้าชุบน้ำสบู่ บิดหมาด ๆ เช็ดคราบสกปรกออก แล้วจึงใช้ผ้าแห้งเช็ดให้แห้งสนิท
• หนังกลับ : ใช้แปรงขนนุ่มค่อย ๆ ขัดคราบสกปรกออกอย่างเบามือ ไม่เช่นนั้นอาจทำให้หนังเสียหายได้

ทำความสะอาดคราบสกปรกภายใน

ด้านในของกระเป๋า เป็นอีกหนึ่งจุดที่หลายคนมักมองข้ามไป เพราะเป็นส่วนที่ยากต่อการมองเห็น และยังเป็นส่วนที่มีโอกาสจะสกปรกได้ง่ายที่สุด เพราะเราจำเป็นต้องใส่สิ่งของต่าง ๆ ทุกวัน โดยเฉพาะสาว ๆ ที่รักการแต่งหน้า และจำเป็นต้องพกพาลิปสติกแท่งโปรดติดตัวไปด้วย บางครั้งลิปสติกอาจเลอะกระเป๋าโดยไม่ได้ตั้งใจ แล้วเราจะมีวิธีทำความสะอาดกระเป๋าแบรนด์อย่างไร ? เคล็ดลับง่าย ๆ ก็คือ เริ่มจากการใช้ผ้าสะอาดหรือทิชชู เช็ดคราบลิปสติกส่วนใหญ่ออกให้ได้มากที่สุด จากนั้นนำผ้าไปชุบน้ำผสมสบู่ ค่อย ๆ ถูอีกครั้ง และใช้แปรงขนอ่อนขัดวนเบา ๆ จนกว่าคราบจะออก ซึ่งนอกจากรอยเลอะเหล่านี้ เราควรหมั่นนำสิ่งของต่าง ๆ ออกจากกระเป๋าทุกวัน เพื่อป้องกันไม่ให้มีสิ่งสกปรกสะสมอยู่ภายใน และกลายเป็นคราบฝังลึก

ทำความสะอาดหูจับกระเป๋า

อีกหนึ่งส่วนที่เราต้องให้ความสำคัญเป็นพิเศษ ในการดูแลรักษากระเป๋าแบรนด์เนม ก็คือส่วนของหูกระเป๋า เพราะเป็นส่วนที่เราจับบ่อยที่สุด และเป็นส่วนที่รับน้ำหนักมากที่สุดเช่นกัน ซึ่งหลายคนอาจเลือกใช้วิธีนำผ้าสวย ๆ มาพันไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้มือของเราไปสัมผัสกับหูกระเป๋าโดยตรง แต่นอกจากการป้องกันด้วยผ้าแล้ว เราก็ต้องไม่ลืมเช็ดทำความสะอาดหูกระเป๋าอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง โดยหลีกเลี่ยงการใช้แอลกอฮอล์หรือสารเคมีทำความสะอาดโดยตรง เพราะอาจทำให้หูกระเป๋าเสื่อมสภาพได้ และไม่ควรใส่ของที่มีน้ำหนักมากเกินไป เพราะอาจทำให้อายุการใช้งานของกระเป๋าสั้นลง

ตรวจเช็กสภาพของซิป

อีกหนึ่งเคล็ดลับดูแลกระเป๋าแบรนด์ที่หลายคนอาจไม่เคยรู้มาก่อน ก็คือเรื่องของซิป ที่ทำหน้าที่อย่างขันแข็งไม่แพ้กับส่วนอื่น ๆ โดยเราสามารถทำความสะอาดซิปได้ด้วยการรูดซิปให้เปิดออกจนสุด จากนั้นใช้ผ้าแห้งเช็ดสิ่งสกปรกต่าง ๆ ออกหนึ่งครั้ง ตามด้วยใช้ขี้ผึ้งหรือครีมทำความสะอาดหนัง ขัดถูตามซิปให้ทั่ว แล้วจึงเช็ดออกด้วยผ้าสะอาด เมื่อเสร็จเรียบร้อยแล้วจะสังเกตได้เลยว่าซิปจะดูเงางามขึ้น และยังรูดได้ง่ายขึ้นอีกด้วย

จัดเก็บกระเป๋าอย่างถูกวิธี

นอกจากวิธีทำความสะอาดกระเป๋าแบรนด์แล้ว การจัดเก็บกระเป๋าให้ถูกต้อง ก็สำคัญเช่นเดียวกัน เพราะหากเก็บรักษาไม่ถูกวิธี ก็อาจทำให้กระเป๋าใบสวยของเราได้รับความเสียหาย จนถึงขั้นไม่สามารถนำมาใช้งานได้อีกเลย ซึ่งการเก็บอย่างถูกต้อง ก็คือการนำกระเป๋าไปใส่ไว้ในถุงผ้า หรือกล่องที่ได้มาจากแบรนด์ หลังจากที่ทำความสะอาดเสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยควรวางกระเป๋าไว้ในชั้นที่มีอากาศถ่ายเท วางแยกให้ห่างกัน หลีกเลี่ยงความชื้นและแสงแดด เพื่อป้องกันไม่ให้หนังลอกหรือเสื่อมสภาพ เท่านี้กระเป๋าสุดรักของเราก็จะมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน แถมยังสามารถนำไปขายต่อได้ในราคาดีอีกด้วย

ด้วยเคล็ดลับเหล่านี้ จะช่วยให้กระเป๋าของคุณดูสวยงามอยู่เสมอ เสมือนเป็นกระเป๋าที่พึ่งซื้อมาใหม่ และหากใครที่กำลังมองหาร้านขายกระเป๋าแบรนด์เนมมือสองที่ไว้ใจได้ สามารถเลือกช็อปได้เลยที่ BRANDNAME VOYAGE เราคือร้านจำหน่ายกระเป๋าแบรนด์เนมมือสองที่รวมรุ่นยอดฮิตไว้มากมาย คัดสรรคุณภาพทุกใบ การันตีของแท้ 100% ตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญ

เลือกชมสินค้าได้แล้ววันนี้ที่เว็บไซต์ หรือเข้ามาที่หน้าร้านทั้ง 2 สาขาหลักของเรา ได้แก่ เซ็นทรัลพระราม 9, ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต และบริการรับซื้อที่เชียงใหม่ หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

• LINE: @brandnamevoyage
• Tel: 095-916-7171 (สำหรับผู้ที่สนใจซื้อสินค้า)
• LINE: @voyagepurchase
• Tel: 095-505-2229 (สำหรับผู้ที่สนใจฝากขายสินค้า)

 

ข้อมูลอ้างอิง:

1. How to Properly Clean Your Handbag to Keep it in Great Shape. สืบค้นวันที่ 2 ตุลาคม 2567 จาก https://www.byrdie.com/properly-take-care-of-your-handbag-455003

 

คำว่าแฟชั่น นอกจากจะเป็นเทรนด์การแต่งตัวที่มีเอกลักษณ์เฉพาะสำหรับแต่ละยุคสมัยแล้ว ยังเป็นส่วนสำคัญในการแสดงออกถึงตัวตนและรสนิยมของแต่ละคนด้วย ซึ่ง “กระเป๋าแบรนด์เนม” ก็ถือเป็นหนึ่งในไอเทมแฟชั่นเหนือกาลเวลา ที่ไม่ว่าจะผ่านไปนานแค่ไหน หลาย ๆ คนก็ใฝ่ฝันอยากจะครอบครอง แต่ด้วยราคาที่สูงลิ่ว ทำให้บางคนถึงกับต้องถอดใจ

แต่ช้าก่อน ! บางที การมีกระเป๋าแบรนด์เนมสักใบอาจไม่ใช่เรื่องไกลเกินเอื้อมอย่างที่คิด เพราะบทความนี้จะพาคุณไปเปิดกรุกระเป๋าแบรนด์เนมราคาไม่เกิน 50,000 บาท แต่สามารถอัปเกรดลุคของคุณให้ดูหรูหราและมีสไตล์ได้อย่างน่าทึ่งทีเดียว

ทำไมต้องลงทุนกับกระเป๋าแบรนด์เนม ?

คุณภาพที่เหนือกว่ากระเป๋าทั่วไป

กระเป๋าเหล่านี้มักผลิตจากวัสดุคุณภาพสูง เช่น หนังแท้ชั้นดี ทำให้มีความทนทาน สามารถใช้งานได้ยาวนาน ทั้งยังใช้ช่างฝีมือที่มีความเชี่ยวชาญในการผลิตกระเป๋า ส่งผลให้ได้งานที่ประณีต ละเอียด ไปจนถึงกระบวนการตรวจสอบคุณภาพ (QC) ที่เข้มงวดก่อนวางขาย ผู้บริโภคจึงมั่นใจได้ว่าสินค้าที่รับมอบมาจะมีคุณภาพและไร้ที่ติ

ดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์

ส่วนมากกระเป๋าแบรนด์เนมจะได้รับการออกแบบโดยดีไซเนอร์ชื่อดังระดับโลก ทำให้มีความโดดเด่น เป็นเอกลักษณ์ ไม่ซ้ำใคร และแม้จะมีการออกคอลเลกชันใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง แต่ผู้ที่เป็นเจ้าของกระเป๋ารุ่นเก่าก็ไม่ถือว่าตกยุค ซ้ำบางรุ่นยังถือเป็นงานศิลปะที่สามารถสะสมและมีมูลค่าเพิ่มขึ้นตามกาลเวลาอีกด้วย โดยเฉพาะกระเป๋าแบรนด์ผู้หญิง

นับเป็นการลงทุนระยะยาว

เนื่องจากกระเป๋ามีคุณภาพสูง ทำให้สามารถใช้งานได้นานหลายปี บางแบรนด์มีบริการดูแลและซ่อมแซมสินค้าให้กระเป๋าอยู่ในสภาพดีอยู่เสมอด้วย ยิ่งไปกว่านั้น กระเป๋าบางรุ่นยังเป็น Limited Edition ผลิตออกมาอย่างจำกัด หายาก จึงทำให้มีมูลค่าสูงขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป หากใครต้องการซื้อเก็บไว้เพื่อเก็งกำไรในอนาคตก็ถือเป็นไอเดียที่ดีทีเดียว

ส่งเสริมภาพลักษณ์ให้ดูดี ภูมิฐาน

การใช้กระเป๋าแบรนด์เนมสามารถเสริมสร้างความมั่นใจและบุคลิกภาพที่น่าเชื่อถือแก่ผู้ใช้ได้ โดยเฉพาะในโอกาสสำคัญหรือในการทำงาน ซึ่งไม่จำเป็นต้องเป็นรุ่นที่ราคาแพงเท่านั้น แม้จะเป็นกระเป๋าแบรนด์เนมราคาไม่เกิน 50,000 บาทก็ช่วยสะท้อนถึงรสนิยมอันหรูหราและความเป็นแฟชั่นนิสต้าได้ดีไม่แพ้กัน

รวมลิสต์ 5 กระเป๋าแบรนด์เนมราคาไม่เกิน 50,000 บาท

1. LOUIS VUITTON FÉLICIE POCHETTE

กระเป๋าทรงคลาสสิกที่ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ยุคสมัย ก็ไม่มีวันตกเทรนด์ ด้วยขนาดกะทัดรัดและการออกแบบที่เรียบง่ายทว่าแฝงไปด้วยความหรูหรา ทำให้เหมาะสำหรับทั้งการใช้งานในชีวิตประจำวันและโอกาสพิเศษ โดยวัสดุที่ใช้มีทั้งหนังแท้และผ้าแคนวาส ลายโมโนแกรม อันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ มั่นใจได้ว่าทนทาน ซื้อแล้วคุ้มไปอีกหลายปีแน่นอน

ราคาช็อป : ประมาณ 53,000 บาท

ราคามือสองสภาพดีที่ BRADNAME VOYAGE : ประมาณ 28,900 บาท

2. GUCCI DIONYSUS

กระเป๋าแบรนด์ราคาไม่แพงที่โดดเด่นด้วยดีไซน์ ซึ่งผสมผสานความคลาสสิกและความร่วมสมัยเข้ากันได้อย่างลงตัว ตัวกระเป๋าจะมีความหลากหลายทั้งในแง่ของขนาดและวัสดุ โดยเฉพาะรุ่นที่ทำจากผ้าแคนวาสลาย GG Supreme จะเป็นที่นิยมมาก จุดขายของรุ่นอยู่ที่ฮาร์ดแวร์โลหะรูปหัวเสือบริเวณฝากระเป๋า ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของคอลเลกชันนี้

ราคาช็อป : ประมาณ 37,500 บาท

ราคามือสองสภาพดีที่ BRADNAME VOYAGE : ประมาณ 28,900 บาท

3. PRADA RE-EDITION 2000 NYLON MINI-BAG

Prada รุ่นนี้ เป็นการนำกระเป๋ารุ่นคลาสสิกของแบรนด์จากยุค 2000 กลับมาทำใหม่ ด้วยดีไซน์ทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดกะทัดรัด และปรับวัสดุที่ใช้ให้เป็นผ้าไนลอน ซึ่งนอกจากจะมีความทนทานและดูแลรักษาง่ายแล้ว ยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ตอบโจทย์เทรนด์ความยั่งยืนของโลกอีกด้วย

ราคาช็อป : ประมาณ 48,000 บาท

ราคามือสองสภาพดีที่ BRADNAME VOYAGE : ประมาณ 24,900 บาท

4. YSL WOC

YSL WOC หรือ Wallet On Chain เป็นกระเป๋าอเนกประสงค์ที่สามารถใช้เป็นทั้งกระเป๋าสตางค์และกระเป๋าสะพายได้ แม้ขนาดจะดูกะทัดรัดแต่จุของได้มาก จะใช้ในชีวิตประจำวันก็เหมาะ หรือจะถือไปงานปาร์ตี้ก็สวยหรู โดยจุดเด่นของรุ่นนี้จะอยู่ที่โลโก้ YSL สีเงินหรือทองบนตัวกระเป๋า ที่ช่วยเสริมให้ดูโฉบเฉี่ยวและมีเอกลักษณ์มากขึ้น

ราคาช็อป : ประมาณ 45,999 บาท

ราคามือสองสภาพดีที่ BRADNAME VOYAGE : ประมาณ 34,900 บาท

5. CELINE AVA BAG

มาถึงกระเป๋าแบรนด์ผู้หญิงทรงครึ่งวงกลมสุดฮิต ที่สายแฟชั่นยุคนี้ต้องมีกันอย่างน้อยคนละใบ ด้วยดีไซน์ที่เรียบหรูแต่โดดเด่น ขนาดกำลังดี สายสะพายปรับได้ ทำให้เหมาะสำหรับการใช้งานในหลากหลายโอกาส นอกจากนี้ วัสดุที่ใช้ยังเป็นหนังแท้คุณภาพสูง ซึ่งนอกจากจะให้ความรู้สึกหรูหราเวลาสะพายแล้ว ยังมีความทนทาน ซื้อครั้งเดียวใช้ได้ยาว ๆ แน่นอน

ราคาช็อป : ประมาณ 61,000 บาท

ราคามือสองสภาพดีที่ BRADNAME VOYAGE : ประมาณ 42,900 บาท

BRANDNAME VOYAGE ร้านรับซื้อ-ขายกระเป๋าแบรนด์เนมมือสอง งบน้อยก็ช็อปได้

แม้จะมีงบจำกัดเพียง 50,000 บาท แต่คุณก็สามารถเป็นเจ้าของกระเป๋าจากแบรนด์ชั้นนำระดับโลกได้ ซึ่งการเลือกซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมนั้นไม่ใช่เพียงแค่การตามกระแสแฟชั่น แต่ยังเป็นการลงทุนในระยะยาว ด้วยคุณภาพที่เหนือกว่า ดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ และความคงทนต่อการใช้งาน ทำให้มั่นได้ใจในระดับหนึ่งว่ากระเป๋าแบรนด์เนมจะสามารถอยู่กับคุณไปได้อีกนาน หากได้รับการดูแลรักษาอย่างถูกต้อง

ถ้าคุณกำลังมองหากระเป๋าแบรนด์เนมราคาไม่แพงสักใบ เพื่ออัปเกรดลุคให้ดูเก๋ยิ่งขึ้น โดยไม่ต้องกลัวว่างบประมาณจะเป็นอุปสรรค ที่ BRANDNAME VOYAGE เราคือร้านจำหน่ายกระเป๋าแบรนด์เนมมือสองที่รวมรุ่นยอดฮิตไว้มากมาย คัดสรรคุณภาพทุกใบ การันตีของแท้ 100% ในราคาถูกกว่าช็อป 

เลือกชมสินค้าได้แล้ววันนี้ที่เว็บไซต์ หรือเข้ามาที่หน้าร้านทั้ง 2 สาขาหลักของเรา ได้แก่ เซ็นทรัลพระราม 9, ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต และบริการรับซื้อที่เชียงใหม่ หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

• LINE: @brandnamevoyage
• Tel: 095-916-7171 (สำหรับผู้ที่สนใจซื้อสินค้า)
• LINE: @voyagepurchase
• Tel: 095-5052229 (สำหรับผู้ที่สนใจฝากขายสินค้า)

 

ข้อมูลอ้างอิง:

1. What Does a Branded Bag Mean?. สืบค้นวันที่ 9 กันยายน 2567 จาก https://www.giftsandmerchandise.co.uk/guides/what-does-a-branded-bag-mean/.

ท่ามกลางโลกแฟชั่นที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว กระเป๋าแบรนด์เนมยังคงได้รับความนิยมอย่างไม่เสื่อมคลาย เพราะนอกจากการเป็นเครื่องประดับที่เสริมลุคให้สมบูรณ์แบบแล้ว อีกด้านหนึ่ง นี่คือการลงทุนที่ชาญฉลาดสำหรับผู้ที่มองหาความคุ้มค่าในระยะยาว ในปี 2024 นี้ เรามาดูกันว่ากระเป๋าแบรนด์เนมแบรนด์ไหนบ้างที่ยังคงน่าลงทุน พร้อมเหตุผลที่ทำให้พวกเขายังคงครองใจนักสะสมและนักลงทุนทั่วโลก อ่านเลย

Hermès : ราชินีแห่งการลงทุน

Hermès ยังคงครองบัลลังก์กระเป๋าแบรนด์เนมที่น่าลงทุนที่สุดในปี 2024 ด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนานกว่า 180 ปี แบรนด์นี้ไม่เคยทำให้ผิดหวังในด้านคุณภาพและความเป็นเอกลักษณ์ โดยเฉพาะกระเป๋ารุ่น Birkin และ Kelly ที่มีเงินอย่างเดียวซื้อไม่ได้ แต่ต้องเป็นลูกค้าคนพิเศษของทาง Hermès ด้วย ดังนั้น จำนวนในท้องตลาดจึงมีจำกัด ส่งผลให้ความต้องการในตลาดมือสองมีสูง โดยราคาขายต่อบางรุ่นสูงกว่าราคาซื้อจากร้านถึง 50-100% ตัวอย่างเช่น

• Birkin 25 : ยังคงเป็นขนาดที่ได้รับความนิยมสูงสุด ด้วยความอเนกประสงค์ที่สามารถใช้ได้ทั้งกลางวันและกลางคืน
• Kelly 28 : กำลังมาแรงในกลุ่มคนรุ่นใหม่ ด้วยดีไซน์คลาสสิกที่ปรับให้ทันสมัย 
• Constance : กระเป๋าสะพายขนาดกะทัดรัดที่กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ

ข้อควรพิจารณา : Hermès มีราคาเริ่มต้นที่สูงและเข้าถึงค่อนข้างยาก แต่ถ้ามีงบประมาณที่เพียงพอ นี่คือการลงทุนกระเป๋าแบรนด์เนมที่คุ้มค่าที่สุด 

Chanel : ความคลาสสิกที่ไม่มีวันตาย

ไม่ว่าจะปีไหน Chanel ยังคงรักษาตำแหน่งกระเป๋าแบรนด์เนมที่น่าลงทุนอันดับต้น ๆ ได้เสมอ ด้วยการผสมผสานความคลาสสิกเข้ากับการออกแบบร่วมสมัยได้อย่างลงตัว ส่งผลให้กระเป๋าแบรนด์นี้ยังคงเป็นที่นิยมอย่างไม่เสื่อมคลาย และมีมูลค่าเพิ่มขึ้นทุกปี โดยเฉพาะรุ่นยอดฮิตดังนี้

• Classic Flap Bag : ยังคงเป็น Icon ที่ไม่มีวันตกเทรนด์ โดยเฉพาะขนาด Medium และ Small
• Boy Bag : แม้จะไม่ใหม่ แต่ยังคงเป็นที่ต้องการในตลาดมือสอง โดยเฉพาะรุ่น Limited Edition
• 19 Bag : กระเป๋ารุ่นใหม่ที่กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ในกลุ่มคนรุ่นใหม่

นอกจากนี้ Chanel ยังเปิดตัวคอลเลกชันพิเศษที่ใช้วัสดุรีไซเคิล ตอบรับกระแสความยั่งยืน โดยไม่ลดทอนความหรูหราลงแม้แต่น้อย กระเป๋าจากคอลเลกชันนี้มีจำนวนจำกัด ทำให้เป็นที่ต้องการอย่างมากในหมู่นักสะสม

ข้อควรพิจารณา : ราคาที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องอาจทำให้การเข้าถึงยากขึ้น แต่ก็เป็นสัญญาณที่ดีสำหรับการลงทุนกระเป๋าแบรนด์เนมระยะยาว

Louis Vuitton : แบรนด์ที่ครองใจคนทั่วโลก

จากการเป็นผู้ผลิตหีบเดินทาง สู่การเป็นแบรนด์กระเป๋าอมตะที่ครองใจคนทั่วโลกอย่างไม่เสื่อมคลาย Louis Vuitton ใช้เวลาเกือบสองศตวรรษในการเขียนประวัติศาสตร์ จารึกสัญลักษณ์ LV ให้ถูกจดจำ และด้วยเหตุนี้ กระเป๋า Louis Vuitton ยังคงเป็นตัวเลือกที่น่าลงทุนในปัจจุบัน โดยเฉพาะรุ่นยอดนิยมดังนี้

• Neverfull : กระเป๋า Tote ที่ยังคงเป็นที่นิยมและรักษามูลค่าได้ดี โดยเฉพาะในรุ่น Limited Edition
• Speedy : อีกหนึ่งความคลาสสิกที่ไม่เคยตกเทรนด์ โดยเฉพาะคอลเลกชัน Bandoulière ที่มีสายสะพาย
• Capucines : กระเป๋าที่กำลังมาแรงในกลุ่มลูกค้าที่ชื่นชอบความหรูหราแบบ Understated ที่น้อยแต่มาก เรียบแต่โก้ หรูแบบไม่ต้องเยอะ

เรียกได้ว่า การลงทุนกระเป๋าแบรนด์เนม Louis Vuitton นอกจากจะได้ชิ้นงานที่มีคุณภาพสูงแล้ว ยังเป็นการลงทุนในแบรนด์ที่มีการพัฒนาอย่างไม่หยุดนิ่ง ทำให้มูลค่าของกระเป๋ามีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในอนาคต

ข้อควรพิจารณา : แม้ราคาจะปรับตัวสูงขึ้น แต่ยังถือว่าเข้าถึงได้ง่ายกว่า Hermès และ Chanel ทำให้เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีสำหรับนักลงทุนหน้าใหม่

Bottega Veneta : การกลับมาของตำนาน

ปฏิเสธไม่ได้ว่ามีช่วงหนึ่งที่ชื่อของ Bottega Veneta เหมือนจะถูกกลืนหายไปในสายธารแห่งโลกแฟชั่น ทว่า ด้วยการรีแบรนด์อย่างชาญฉลาด จึงทำให้ Bottega Veneta เป็นตำนานที่สามารถหวนคืนมาทวงบัลลังก์ได้อีกครั้ง โดยเฉพาะในช่วงนี้ที่กำลังมาแรงในฐานะแบรนด์ที่น่าลงทุน ด้วยการออกแบบที่เรียบหรูแต่โดดเด่น เปี่ยมเอกลักษณ์ด้วยลวดลายตาราง และคุณภาพงานฝีมือระดับสูง ทำให้รุ่นยอดฮิตดังต่อไปนี้เป็นกระเป๋าแบรนด์เนมที่น่าลงทุนในปี 2024 

• The Pouch : กระเป๋าคลัทช์ที่กลายเป็นไอคอนใหม่ของแบรนด์ มีแนวโน้มที่จะรักษามูลค่าได้ดีในอนาคต
• Cassette : กระเป๋าสะพายที่โดดเด่นด้วยลายถักขนาดใหญ่ เป็นที่นิยมในกลุ่มคนรุ่นใหม่
• Jodie : กระเป๋าทรงโค้งมนที่กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ

นอกจากนั้น Bottega Veneta ยังเปิดตัวคอลเลกชันพิเศษที่ผลิตในจำนวนจำกัด โดยร่วมมือกับศิลปินท้องถิ่นจากทั่วโลก สะท้อนถึงความเป็นสากลและการให้ความสำคัญกับวัฒนธรรมที่หลากหลาย กระเป๋าจากคอลเลกชันนี้ไม่เพียงแต่สวยงามเท่านั้น แต่ยังมีเรื่องราวและคุณค่าทางวัฒนธรรม ทำให้เป็นที่ต้องการอย่างมากในหมู่นักสะสม

ข้อควรพิจารณา : แม้จะยังไม่มีประวัติการรักษามูลค่าในระยะยาวเท่ากับแบรนด์อื่น ๆ แต่กำลังเป็นที่จับตามองในวงการแฟชั่นและการลงทุน

Dior : ความหวานซ่อนเปรี้ยวที่ทรงเสน่ห์

ด้วยการผสมผสานความหวานแบบคลาสสิกเข้ากับความเปรี้ยวร่วมสมัยได้อย่างลงตัว จึงทำให้  Dior ยังคงเป็นกระเป๋าแบรนด์เนมที่น่าลงทุนในทุกยุค ทุกสมัย โดยเฉพาะบรรดารุ่นยอดฮิตดังต่อไปนี้

• Lady Dior : กระเป๋าไอคอนที่ยังคงเป็นที่ต้องการสูง โดยเฉพาะในรุ่น Mini และ Medium
• Saddle Bag : หลังจากการ Relaunch ที่ประสบความสำเร็จ กระเป๋าทรงอานม้านี้ยังคงเป็นที่นิยมในกลุ่มแฟชั่นนิสต้า
• Book Tote : กระเป๋า Tote ที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะรุ่นที่มีลวดลายเฉพาะ

นอกจากนั้น Dior ยังเปิดตัวโครงการ “Dior Sustainability” ที่เน้นการใช้วัสดุรีไซเคิลและการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยไม่ลดทอนความหรูหราลง กระเป๋าจากโครงการนี้ไม่เพียงแต่สวยงาม แต่ยังสะท้อนถึงความรับผิดชอบต่อสังคม ทำให้เป็นที่ต้องการในหมู่ผู้บริโภคที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม

เรียกได้ว่าการลงทุนกระเป๋าแบรนด์เนม Dior เป็นการลงทุนในความหรูหราที่มีความร่วมสมัย และด้วยกลยุทธ์การตลาดที่เน้นนวัตกรรมและความยั่งยืน ทำให้มูลค่าของกระเป๋ามีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในอนาคต

ข้อควรพิจารณา : แม้ราคาจะปรับตัวสูงขึ้น แต่ยังถือว่าเข้าถึงได้ง่ายกว่า Hermès และ Chanel ทำให้เป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุน

BRANDNAME VOYAGE รวมกระเป๋าแบรนด์เนมรุ่นฮิต แบรนด์ดังซื้อขายครบในที่เดียว

เพราะการซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมคือการลงทุนรูปแบบหนึ่ง และสำหรับใครที่อยากนำกระเป๋าที่มีมาแลกเปลี่ยนเป็นเงิน หรืออยากจับจองกระเป๋าในราคาคุ้มค่า แนะนำที่ BRANDNAME VOYAGE ศูนย์กลางการแลกเปลี่ยนสินค้าแบรนด์เนมทุกประเภท ซื้อขายกระเป๋าแบรนด์มือสองจบในที่เดียว พร้อมให้บริการด้วยความจริงใจและเข้าใจที่สุด มีความเชี่ยวชาญในสินค้าแบรนด์เนมอันดับ 1 ในราคาที่เป็นธรรมสำหรับทุกท่านอย่างแท้จริง โดยตอนนี้ BRANDNAME VOYAGE มีทั้งหมด 2 สาขาหลัก ได้แก่ เซ็นทรัลพระราม 9, ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต และบริการรับซื้อที่เชียงใหม่ สามารถเลือกไปใช้บริการได้ตามสะดวก หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ช่องทางการติดต่อดังนี้

• LINE: @brandnamevoyage
• Tel: 095-916-7171 (สำหรับผู้ที่สนใจซื้อสินค้า)
• LINE: @voyagepurchase
• Tel: 095-5052229 (สำหรับผู้ที่สนใจฝากขายสินค้า)

 

ข้อมูลอ้างอิง:

1. 1. Get Your Bag: These Are the Handbags With the Highest Resale Values. สืบค้นวันที่ 9 กันยายน 2567 จาก https://www.vogue.com/article/bags-with-the-best-resale-value
   2. 35 designer handbags that will stand the test of time.  สืบค้นวันที่ 9 กันยายน 2567 จาก https://www.harpersbazaar.com/uk/fashion/what-to-wear/g32573921/best-designer-handbags/

 

ปฏิเสธไม่ได้ว่า กระเป๋าแบรนด์เนมคือกระเป๋าในฝันของใครหลาย ๆ คน ด้วยดีไซน์ที่สวย และความคุ้มค่าที่เหนือกว่าราคา แต่แน่นอนว่า การจะลงทุนซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมสักใบ ก็ต้องอาศัยการตัดสินใจอย่างถี่ถ้วน บทความนี้มาพร้อมกับคู่มือในการเลือกซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมใบแรก เพื่อให้คุณเป็นเจ้าของกระเป๋าที่ใช่ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ และใช้งานได้คุ้มค่า

5 เคล็ดลับสู่การเป็นเจ้าของกระเป๋าแบรนด์เนมใบแรก

สำรวจความต้องการในการซื้อกันก่อน

ก่อนที่เราจะซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมสักใบ อันดับแรกให้เราลองสำรวจความต้องการของตัวเอง ว่าเราอยากซื้อกระเป๋าใบนี้เพื่ออะไร

ต้องการซื้อเป็นกระเป๋าคู่ใจ พกติดตัวไปด้วยทุกที่

ต้องการซื้อเพื่อเสริมภาพลักษณ์ให้ดูดีในวันพิเศษ

ต้องการซื้อเพื่อเก็บสะสมไว้เก็งกำไรในอนาคต

เพราะกระเป๋าแต่ละใบ ก็ตอบโจทย์วัตถุประสงค์ที่แตกต่างกัน การที่เราเข้าใจความต้องการของตัวเอง ก็จะช่วยให้เราเลือกซื้อกระเป๋าที่ลงตัว และใช้งานได้อย่างยาวนาน

กำหนดงบประมาณที่เหมาะสม

อีกหนึ่งวิธีเลือกซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมใบแรกที่สำคัญ ก็คือการกำหนดงบประมาณที่เหมาะสม เพราะนอกจากจะช่วยให้เราซื้อได้ในราคาที่คุ้มค่าแล้ว ยังช่วยประหยัดเวลาในการตามหากระเป๋า เพราะเมื่อเรากำหนดงบประมาณไว้อย่างชัดเจน ตัวเลือกก็จะแคบลง ทำให้เราไม่ต้องเสียเวลาไปกับการตามหากระเป๋าหลาย ๆ ใบ และยังช่วยให้เราขอคำแนะนำจากผู้ขายได้อย่างตรงจุดอีกด้วย

พิจารณาจากแบรนด์ที่ชอบ

เพราะแต่ละแบรนด์ล้วนมีเอกลักษณ์ที่แตกต่างกันไป ดังนั้น การซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมใบแรก แนะนำว่าให้เลือกจากแบรนด์ที่ชอบมากที่สุด เพื่อให้เราได้กระเป๋าที่ใช่ เป็นใบที่ชอบ และเหมาะกับความเป็นตัวตนของเราอย่างแท้จริง เช่น หากใครที่ชอบความเรียบหรู ดูคลาสสิก กระเป๋าจากแบรนด์ Chanel ก็ดูจะเป็นกระเป๋าที่ตอบโจทย์ แต่หากใครที่ชอบแต่งตัวสไตล์หวาน ๆ ก็อาจมองหากระเป๋าจากแบรนด์ Dior และหากใครที่ต้องการความเก๋ เหมาะจะเป็นกระเป๋าที่ใช้ได้แบบ Everyday Look กระเป๋าจากแบรนด์ Celine ก็อาจเป็นกระเป๋าที่ใช่สำหรับคุณ

เลือกรุ่นที่ใช่ สไตล์ที่เป็นเรา

นอกจากการเลือกแบรนด์ที่ชอบแล้ว การเลือกกระเป๋ารุ่นที่ใช่ ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่จะช่วยให้เราซื้อกระเป๋าได้ตอบโจทย์มากที่สุด โดยเฉพาะคนที่ต้องการซื้อเพื่อนำไปใช้จริง ซึ่งอันดับแรก ให้เราพิจารณาจากขนาดของกระเป๋ารุ่นนั้น ๆ ว่าเพียงพอต่อการใช้งานหรือไม่ เหมาะกับการสะพายขึ้นไหล่ หรือเน้นถือเพื่อความเก๋ และต้องไม่ลืมสำรวจดูว่า ช่องใส่ของต่าง ๆ มีมากน้อยแค่ไหน ที่สำคัญก็คือเรื่องของวัสดุ หากเป็นวัสดุที่มีความทนทาน ก็จะช่วยให้เราใช้งานได้อย่างอุ่นใจ แต่หากเป็นวัสดุที่ต้องใส่ใจกับการดูแล ก็อาจเหมาะกับการเก็บไว้ใช้ในวันสำคัญมากกว่า

เลือกซื้อจากร้านมือสอง เพื่อตัวเลือกที่หลากหลาย และราคาที่สบายกระเป๋า

สำหรับใครที่เป็นมือใหม่ ที่สนใจอยากเข้าสู่วงการแบรนด์เนม แต่ยังไม่รู้ว่าจะต้องเริ่มอย่างไร แนะนำว่าการเลือกซื้อจากร้านขายสินค้าแบรนด์เนมมือสองที่น่าเชื่อถือ ก็เป็นทางเลือกที่ดีไม่น้อย เพราะร้านมือสองมักจะมีสินค้ารุ่นยอดนิยมให้เลือกมากมาย ในราคาที่ย่อมเยากว่าการซื้อจากมือหนึ่ง บางครั้งเราอาจได้รุ่นวินเทจ หรือรุ่น Limited Edition ที่ไม่ได้มีวางจำหน่ายแล้ว หรือได้สีพิเศษเฉพาะฤดูกาลที่หาซื้อไม่ได้จากที่ไหน

BBRANDNAME VOYAGE สานฝันให้คุณเป็นเจ้าของกระเป๋าแบรนด์เนมใบแรกได้อย่างใจ

สานฝันสู่การเป็นเจ้าของกระเป๋าแบรนด์เนมใบแรก ที่ BRANDNAME VOYAGE เราคือร้านจำหน่ายกระเป๋าแบรนด์เนมมือสองที่รวมรุ่นยอดฮิตไว้มากมาย คัดสรรคุณภาพทุกใบ พร้อมบริการจากพนักงานของร้านที่ยินดีให้คำแนะนำในการเลือกซื้อกระเป๋าที่ตรงกับความต้องการ เพื่อให้คุณเลือกซื้อได้อย่างมั่นใจ และได้กระเป๋าที่เหมาะกับคุณที่สุด การันตีของแท้ 100% ตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญ เลือกชมสินค้าได้ที่เว็บไซต์ หรือหน้าร้านทั้ง 2 สาขาหลักของเรา ทั้งที่เซ็นทรัลพระราม 9, ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต และบริการรับซื้อที่เชียงใหม่

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่

• LINE: @brandnamevoyage
• Tel: 095-916-7171 (สำหรับผู้ที่สนใจซื้อสินค้า)
• LINE: @voyagepurchase
• Tel: 095-5052229 (สำหรับผู้ที่สนใจฝากขายสินค้า)

ข้อมูลอ้างอิง:

1. Luxury Bag 101: How to choose your first high-end handbag. สืบค้นวันที่ 9 กันยายน 2567 จาก https://saclab.com/luxury-bag-101-how-to-choose-your-first-high-end-handbag/
2. ข้อควรรู้ประกอบการเลือกซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมใบแรกให้ตัวเอง. สืบค้นวันที่ 9 กันยายน 2567 จาก https://www.vogue.co.th/fashion/article/ladygaga-venicefilmfestival2024-diorcouture

เพราะกระเป๋าไม่ได้เป็นแค่อุปกรณ์สำหรับใช้เพียงใส่ของอีกต่อไป แต่ยังเป็นไอเทมชิ้นสำคัญที่จะช่วยเสริมลุคของเหล่าสุภาพบุรุษให้ดูดี มีสไตล์มากขึ้นด้วย โดยในปี 2024 เราได้เห็นการผสมผสานระหว่างความคลาสสิกและนวัตกรรมใหม่ ๆ ในวงการแฟชั่นกระเป๋าแบรนด์เนมผู้ชาย แบรนด์ต่าง ๆ พยายามที่จะสร้างสรรค์กระเป๋าที่ตอบโจทย์ทั้งด้านฟังก์ชันการใช้งานพร้อม ๆ ไปกับความน่าจดจำ เพื่อให้ตรงกับไลฟ์สไตล์ของผู้ชายยุคใหม่ที่ต้องการความคล่องตัวและความเท่ในเวลาเดียวกัน ส่วนหนุ่ม ๆ คนไหนที่อยากได้กระเป๋าสักใบ แต่ยังตัดสินใจไม่ได้ บทความนี้จะมาป้ายยา 5 กระเป๋าแบรนด์เนมผู้ชายสไตล์ดี อัปเดต 2024 รับรองว่าถูกใจ ติดตามได้เลย

Louis Vuitton Keepall Bandoulière 55

เริ่มต้นด้วยไอคอนแห่งวงการกระเป๋าหรู Louis Vuitton Keepall Bandoulière 55 กระเป๋าเดินทางที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นระดับตำนานอย่างแท้จริง เพราะด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนานกว่า 90 ปี Keepall ยังคงครองใจสุภาพบุรุษรุ่นใหม่ได้อย่างไม่มีวันตกเทรนด์

ด้วยขนาดที่กำลังดี สามารถใช้เป็นกระเป๋าถือขึ้นเครื่องบินได้ กระเป๋าแฟชั่นแบรนด์เนมผู้ชาย Keepall Bandoulière 55 จึงเป็นตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบทั้งสำหรับใช้งานในชีวิตประจำวันไปจนถึงออกทริปเดินทางไกล นอกจากนี้ยังมาพร้อมสายสะพายที่สามารถถอดออกได้ เพิ่มความสะดวกสบายในการพกพาอีกด้วย

Bottega Veneta Cassette

ถ้าพูดถึงความเรียบหรูที่แฝงไปด้วยความโดดเด่น Bottega Veneta Cassette คือคำตอบที่สมบูรณ์แบบ กระเป๋าแบรนด์เนมผู้ชายทรงเหลี่ยมที่โดดเด่นด้วยเทคนิคการถักสานหนังแบบ Intrecciato อันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ ยังคงรักษาเสน่ห์ที่คลาสสิกไว้ได้อย่างยอดเยี่ยมในศักราช 2024

ความพิเศษของกระเป๋าแฟชั่นแบรนด์เนมผู้ชาย Bottega Veneta Cassette อยู่ที่ความอเนกประสงค์ในการใช้งาน ด้วยขนาดที่กำลังดี ไม่ใหญ่หรือเล็กจนเกินไป ทำให้สามารถใช้งานได้ทั้งในชีวิตประจำวันหรือในโอกาสพิเศษ สายสะพายที่ปรับความยาวได้ช่วยให้สะพายได้หลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นแบบครอสบอดี้หรือสะพายบ่า

Carl Friedrik Palissy Double Briefcase

สำหรับผู้ชายที่ต้องการกระเป๋าที่ตอบโจทย์ทั้งในเรื่องของสไตล์และการใช้งานในชีวิตประจำวัน Carl Friedrik Palissy Double Briefcase คือตัวเลือกที่ไม่ควรมองข้าม แบรนด์จากลอนดอนที่เน้นการผลิตกระเป๋าแบรนด์เนมผู้ชายจากหนังคุณภาพสูง ด้วยงานฝีมือที่ประณีต ได้นำเสนอกระเป๋าเอกสารที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้ชายยุคใหม่อย่างแท้จริง

กระเป๋าแฟชั่นแบรนด์เนมผู้ชาย Palissy Double Briefcase โดดเด่นด้วยการออกแบบที่เรียบง่ายแต่แฝงไปด้วยความหรูหรา ใช้หนังวัวชั้นดีจากอิตาลีที่ผ่านกระบวนการฟอกแบบพิเศษ ทำให้มีความนุ่มนวลและเงางามเป็นธรรมชาติ การตัดเย็บที่ประณีตทุกรายละเอียดสะท้อนให้เห็นถึงความใส่ใจในคุณภาพของแบรนด์

ด้วยโทนสีที่เรียบหรูอย่าง Cognac, Navy และ Black ทำให้ Palissy Double Briefcase สามารถเข้ากับทุกลุคการแต่งตัว ไม่ว่าจะเป็นชุดสูทที่เป็นทางการหรือชุดลำลองแบบ Smart Casual กระเป๋าใบนี้พร้อมที่จะเป็นเพื่อนคู่ใจในทุกโอกาส

Gucci GG Supreme Messenger Bag

Gucci คือแบรนด์แฟชั่นระดับโลกที่ไม่เคยหยุดนิ่งในการสร้างสรรค์ผลงานที่ล้ำสมัย สิ่งนี้สะท้อนผ่านการนำเสนอกระเป๋าแบรนด์เนมผู้ชาย GG Supreme Messenger Bag ที่ผสมผสานความคลาสสิกของแบรนด์เข้ากับดีไซน์ร่วมสมัยได้อย่างลงตัว กระเป๋าสะพายข้างใบนี้เป็นตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบสำหรับผู้ชายที่ต้องการความสะดวกสบายในการใช้งานประจำวัน แต่ยังคงความหรูหราและมีสไตล์

กระเป๋าแฟชั่นแบรนด์เนมผู้ชาย GG Supreme Messenger Bag โดดเด่นด้วยลวดลาย GG Canvas อันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ ที่ได้รับการปรับโฉมให้ทันสมัยยิ่งขึ้นด้วยเทคนิคการพิมพ์แบบใหม่ที่ให้ลวดลายคมชัดและทนทานมากขึ้น วัสดุที่ใช้เป็นผ้าแคนวาสที่ผ่านกระบวนการผลิตแบบยั่งยืน ลดการใช้ทรัพยากรและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

Prada Nylon and Saffiano Leather Backpack

ปิดท้ายด้วยกระเป๋าเป้สุดคลาสสิกจาก Prada ที่ได้รับการยกระดับให้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้ชายยุคใหม่มากยิ่งขึ้น Prada Nylon and Saffiano Leather Backpack ยังคงเป็นกระเป๋าแบรนด์เนมผู้ชายที่น่าจับจองในปี 2024 ด้วยการผสมผสานระหว่างความสปอร์ตของผ้าไนลอนและความหรูหราของหนัง Saffiano อันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์

ด้วยดีไซน์ที่เรียบง่ายแต่ดูดี กระเป๋าแบรนด์เนมผู้ชาย Prada Nylon and Saffiano Leather Backpack จึงเป็นกระเป๋าที่สามารถใช้ได้ในทุกโอกาส ไม่ว่าจะเป็นการไปทำงาน การออกกำลังกาย หรือแม้แต่การเดินทางท่องเที่ยว โทนสีที่เรียบหรูอย่าง Black, Navy และ Gray ช่วยให้กระเป๋าใบนี้สามารถเข้ากับทุกลุคการแต่งตัวได้อย่างลงตัว

BRANDNAME VOYAGE รวมกระเป๋าแบรนด์เนมผู้ชาย ซื้อขายครบในที่เดียว

หนุ่ม ๆ คนไหนอยากแวะไปแค่ร้านเดียวแล้วมีกระเป๋าแบรนด์เนมให้เลือกหลากหลาย แนะนำที่  BRANDNAME VOYAGE ศูนย์กลางในการแลกเปลี่ยนสินค้าแบรนด์เนมทุกประเภท พร้อมให้บริการด้วยความจริงใจและเข้าใจที่สุด พร้อมกับความเชี่ยวชาญในสินค้าแบรนด์เนมอันดับ 1 ในราคาที่เป็นธรรมสำหรับทุกท่านอย่างแท้จริง โดยตอนนี้ BRANDNAME VOYAGE มีทั้งหมด 3 สาขา ได้แก่ เซ็นทรัลพระราม 9, ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต และเชียงใหม่ สามารถเลือกไปใช้บริการได้ตามสะดวก สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ช่องทางการติดต่อดังนี้

• LINE: @brandnamevoyage
• Tel: 095-916-7171 (สำหรับผู้ที่สนใจซื้อสินค้า)
• LINE: @voyagepurchase
• Tel: 095-5052229 (สำหรับผู้ที่สนใจฝากขายสินค้า)

ข้อมูลอ้างอิง:

1. The Best Briefcases For Men, Rigorously Tested By A Daily Commuter. สืบค้นวันที่ 3 กันยายน 2567 จาก
   https://www.forbes.com/sites/forbes-personal-shopper/article/best-briefcases-for-men/

กระเป๋าแบรนด์เนมไม่ได้มีดีแค่สวย แต่ยังเป็นไอเทมที่ช่วยเสริมลุคโดยรวมของเราให้ดูภูมิฐาน น่าเชื่อถือมากขึ้น ตลอดจนสะท้อนถึงรสนิยมอันหรูหราได้อีกด้วย ดังนั้น จึงไม่แปลกที่ใคร ๆ ก็อยากมีกระเป๋าแบรนด์เนมเป็นของตัวเอง

หากคุณคือหนึ่งในคนเหล่านั้น และกำลังสนใจซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมมือสอง แต่ยังเป็นมือใหม่ หรือไม่แน่ใจว่ามีปัจจัยใดบ้างที่ต้องพิจารณา บทความนี้ขอชวนให้มารู้จักกับ 5 สิ่งสำคัญในการเลือกซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมมือสอง ที่จะช่วยให้คุณสามารถตัดสินใจซื้อได้อย่างคุ้มค่า ตรงกับความต้องการ และได้สินค้าของแท้แน่นอนแบบไม่ต้องกังวล !

5 สิ่งสำคัญที่ต้องพิจารณา ก่อนตัดสินใจซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมมือสอง

1. ความน่าเชื่อถือของร้าน

ปัจจัยแรกและเรียกได้ว่าเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุด คือ ความน่าเชื่อถือของร้านค้า เพราะก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าในตลาดกระเป๋าแบรนด์เนมมือสองนั้นมีทั้งร้านที่ไว้ใจได้ และร้านที่เอาเปรียบผู้บริโภคปะปนกันอยู่ ดังนั้น ควรเลือกร้านที่น่าเชื่อถือเพื่อลดความเสี่ยงที่จะได้รับสินค้าปลอม โดยควรพิจารณาจากปัจจัยต่อไปนี้

• เป็นร้านที่มีรีวิวจากผู้ใช้จริง โดยสามารถตรวจสอบได้ทั้งบนเว็บไซต์ของร้านเองและแพลตฟอร์มอื่น ๆ
• มีหน้าร้านจริง ซึ่งน่าเชื่อถือกว่าร้านที่ขายออนไลน์เพียงอย่างเดียว เพราะคุณสามารถเข้าไปดูสินค้าและพูดคุยกับเจ้าของร้านหรือพนักงานได้โดยตรง
• มีตัวตนชัดเจน เช่น มีการระบุที่อยู่ เบอร์โทร อีเมลไว้บนเว็บไซต์ รวมถึงมีการจดทะเบียนธุรกิจอย่างถูกต้อง
• มีบริการให้คำปรึกษา พนักงานมีความรู้เกี่ยวกับสินค้า สามารถแนะนำและตอบคำถามเกี่ยวกับกระเป๋าแต่ละรุ่นได้อย่างละเอียด

2. ศึกษาวิธีการดูสินค้าลอกเลียนแบบให้ดี

เนื่องจากกระเป๋าแบรนด์เนมเป็นสินค้าที่มีราคาสูง และในขณะเดียวกันก็เป็นที่ต้องการในตลาดมาก ส่งผลให้มีการผลิตสินค้าลอกเลียนแบบออกมาจำนวนไม่น้อยเลย เพื่อให้ผู้ที่ชื่นชอบสินค้าแบรนด์เนมได้ครอบครองกระเป๋าสุดหรูในราคาหลักร้อย-หลักพัน แต่แบบนั้นนอกจากจะเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์แล้ว คุณภาพและความสวยงามของกระเป๋าก็ไม่เหมือนกับของแท้ด้วย ดังนั้น หากอยากได้กระเป๋าแบรนด์เนมในราคาที่ถูกลง แนะนำให้ซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมมือสองดีกว่า และเพื่อให้แน่ใจว่าจะได้ของแท้จริง ๆ ควรตรวจสอบปัจจัยต่อไปนี้อย่างละเอียด

• วัสดุคุณภาพสูง หากเป็นกระเป๋าหนังแท้จะมีกลิ่นหนังที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ
• รายละเอียดการเย็บต้องประณีต เส้นด้ายเรียบสม่ำเสมอ ไม่มีรุ่ย
• ซิปและอุปกรณ์ตกแต่งต่าง ๆ ต้องเนี้ยบ ไม่เป็นสนิม และปั๊มโลโก้แบรนด์ชัดเจน
• ตรวจสอบ Serial Numbers ด้านในกระเป๋า

3. เลือกรุ่นที่ใช่ เพื่อโอกาสทำกำไรในอนาคต

การซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมไม่เพียงแต่เป็นการลงทุนในไอเทมแฟชั่นเท่านั้น แต่ยังเป็นการลงทุนทางการเงินที่ดีด้วย เพราะหากคุณเลือกซื้อรุ่นฮิต ๆ หรือรุ่นที่มีโอกาสทำกำไรในอนาคต ก็จะสามารถนำไปขายต่อได้ในราคาที่ดี ซึ่งรุ่นที่ได้รับความนิยมส่วนมากจะเป็นรุ่นคลาสสิก เช่น Chanel Classic Flap, Louis Vuitton Speedy และรุ่น Limited-Edition เช่น Miu Miu Women Camera Sling Bag แต่หากคิดจะขายต่อ อย่าลืมเก็บอุปกรณ์เสริมไว้ให้ครบชุดและมีสภาพดีอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นถุงผ้า การ์ด หรือใบเสร็จ เพราะกระเป๋าแบรนด์เนมมือสองที่มีอุปกรณ์เหล่านี้พ่วงมาด้วยจะมีมูลค่าสูงกว่าการมีแค่ตัวกระเป๋าอย่างเดียว

4. เลือกสไตล์ให้เหมาะกับตัวเอง

หากอยากซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมมือสองให้คุ้มค่าที่สุด แน่นอนว่าปัจจัยหลัก ๆ ก็คงหนีไม่พ้นการเลือกสินค้าที่เหมาะกับสไตล์ของตนเอง เพราะจะได้ช่วยเสริมความมั่นใจและทำให้คุณดูดีขึ้นแบบ 100% โดยอาจพิจารณาจากสไตล์การแต่งตัว ว่าคุณมีเสื้อผ้าแนวไหนเป็นส่วนใหญ่ บางคนอาจชอบสไตล์เรียบหรู บางคนก็อาจชอบใส่ชุดลำลองสบาย ๆ หรือบางคนก็มาแนวแฟชั่นนิสต้าตัวแม่ นอกจากนี้ ควรคำนึงถึงไลฟ์สไตล์และกิจกรรมที่ทำเป็นประจำด้วย เช่น หากคุณเป็นคนที่ชอบพกของเยอะเวลาออกจากบ้าน ก็อาจเลือกเป็นกระเป๋าทรงโทต (Tote Bag) ขนาดใหญ่ เพื่อให้สะดวกต่อการใช้ชีวิต

5. ศึกษาราคาในตลาด เพื่อความคุ้มค่า

สำหรับใครที่เป็นมือใหม่และต้องการซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมมือสอง แนะนำให้ศึกษาราคาในตลาดให้ดีก่อนตัดสินใจซื้อ เพื่อให้รู้ราคาขายของกระเป๋ารุ่นที่ต้องการคร่าว ๆ เมื่อไปซื้อจริงจะได้สามารถเปรียบเทียบราคาและตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาด โดยสามารถศึกษาราคาในตลาดได้ด้วยวิธีต่อไปนี้

• ตรวจสอบราคาขายปลีกของกระเป๋ารุ่นนั้น ๆ ณ ปัจจุบัน
• เปรียบเทียบราคาจากร้านขายกระเป๋าแบรนด์เนมมือสองหลาย ๆ แห่ง
• พิจารณาสภาพของกระเป๋า เช่น สภาพใหม่ สภาพดี สภาพตามการใช้งาน หรือมีตำหนิ
• เช็กว่ามีอุปกรณ์เสริม เช่น ถุงผ้า การ์ด กล่อง ครบหรือไม่ โดยหากมีครบก็จะราคาสูงกว่า
• หากเป็นกระเป๋ารุ่น Limited-Edition หรือรุ่นที่เลิกผลิตแล้วมักจะมีราคาสูงกว่าปกติ

ได้รู้วิธีเลือกซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมมือสองให้คุ้มค่ากันไปแล้ว สำหรับใครที่อยากจะเป็นเจ้าของกระเป๋าแบรนด์เนมมือสองสักใบ สามารถเลือกซื้อได้เลยที่ BRANDNAME VOYAGE ร้านกระเป๋าแบรนด์มือสองที่คัดสรรคุณภาพสินค้ามาแล้วทุกชิ้น การันตีของแท้ 100% ตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญ เลือกชมสินค้าได้แล้ววันนี้ที่เว็บไซต์ หรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่

• LINE: @brandnamevoyage
• Tel: 095-916-7171 (สำหรับผู้ที่สนใจซื้อสินค้า)
• LINE: @voyagepurchase
• Tel: 095-5052229 (สำหรับผู้ที่สนใจฝากขายสินค้า)

ข้อมูลอ้างอิง:

1. Your guide to choosing the perfect brand name. สืบค้นวันที่ 5 กันยายน 2567 จาก
   https://www.qualtrics.com/en-au/experience-management/brand/brand-name/.
2. 5 Things to Consider When Choosing a Brand Name. สืบค้นวันที่ 5 กันยายน 2567 จาก
   https://www.linkedin.com/pulse/5-things-consider-when-choosing-brand-name-strivegroup/.

“Dior” (ดิออร์) แบรนด์แฟชั่นชั้นนำระดับโลกที่มีชื่อเสียงด้านความหรูหรา แต่แฝงไปด้วยความอ่อนหวาน ละมุน สไตล์เจ้าหญิงและเจ้าชาย มาพร้อมคุณภาพและดีไซน์อันโดดเด่นไม่เหมือนใคร ทำให้กระเป๋า Dior เป็นหนึ่งในไอเทมยอดนิยมที่สายแฟชั่นทั่วโลกใฝ่ฝันอยากครอบครอง ซึ่งด้วยความนิยมอย่างแพร่หลายนี้ ประกอบกับราคาที่สูงลิ่ว จึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ในตลาดจะมีสินค้าปลอมแปลงออกมาจำนวนไม่น้อยเลย ดังนั้น สำหรับใครที่ต้องการลงทุนกับกระเป๋าแบรนด์นี้ เราจะมาแนะนำวิธีดูกระเป๋า Dior ของแท้โดยละเอียด เพื่อให้คุณมั่นใจว่าจะได้รับสินค้าคุณภาพตรงตามที่คาดหวัง !

6 วิธีดูกระเป๋า Dior ของแท้ รู้แล้วไม่ต้องกลัวเสี่ยงได้ของปลอม

1. รายละเอียดการตัดเย็บต้องเนี้ยบ ประณีตทุกจุด

ด้วยความที่เป็นแบรนด์เนมระดับโลกและมีราคาสูง ทำให้กระเป๋า Dior ของแท้ล้วนมีคุณภาพการผลิตชั้นเยี่ยม ซึ่งสะท้อนออกมาผ่านรายละเอียดการตัดเย็บที่ประณีตทุกจุด กล่าวคือ ตะเข็บต้องเรียบร้อย ไม่มีรุ่ย การเย็บก็ต้องสม่ำเสมอ ไม่มีด้ายเกินหรือปมด้ายที่ทำให้ดูไม่เนี้ยบ อย่างวิธีดู Lady Dior ของแท้ ซึ่งจะเป็นลาย Cannage Pattern อันเป็นซิกเนเจอร์ของแบรนด์ ก็ต้องสังเกตที่ลักษณะฝีเข็มซึ่งจะเล็กมากจนแทบไม่รู้สึกขรุขระเมื่อสัมผัส และที่สำคัญ สีของด้ายก็ต้องเป็นสีที่กลืนไปกับสีกระเป๋าด้วย

2. สังเกตป้ายหนังประทับตราแบรนด์

ป้ายหนังประทับตราแบรนด์ เป็นอีกหนึ่งจุดสำคัญที่สามารถเช็ก Dior แท้ได้ โดยทั่วไป ป้ายนี้จะอยู่ด้านในกระเป๋าตรงตำแหน่งที่สามารถมองเห็นชัดเจนแต่ไม่รบกวนการใช้งาน ลักษณะของป้ายมีความโค้งมนมากกว่าเหลี่ยม ตัวอักษรบนป้ายต้องคมชัด ไม่เบลอ มีความหนาและสีสว่างกว่าของปลอม อีกทั้งลักษณะการประทับก็ต้องลึกและสม่ำเสมอ

3. หูจับกระเป๋าจะโค้งนูนและตั้งตรง

สำหรับสาว ๆ คนไหนที่กำลังอยากรู้วิธีดู Lady Dior ของแท้ จุดสังเกตที่เช็กได้ง่ายที่สุดคือ หูกระเป๋าทรงกลมอันเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งจะตั้งตรง ไม่อ่อนหรือหย่อนแม้ในยามที่วางกระเป๋าไว้เฉย ๆ นอกจากนี้ ยังสามารถตรวจสอบจุดเชื่อมต่อระหว่างหูกระเป๋าและตัวกระเป๋าได้ว่าแน่นหนาหรือไม่ การตัดเย็บเรียบร้อยดีหรือเปล่า หากลองขยับแล้วดูโยกเยก อ่อนแอแปลก ๆ หรือมีด้ายหลุดรุ่ย ให้สันนิษฐานไว้เลยว่าเป็นของปลอม

4. อะไหล่ (Hardware) โลหะด้าน ตัวอักษรชื่อแบรนด์ต้องคมชัด

การตรวจสอบอะไหล่หรือ Hardware เป็นหนึ่งในวิธีดูกระเป๋า Dior ของแท้ที่แม่นยำที่สุด เพราะของแท้จะใช้อะไหล่โลหะคุณภาพสูง และมีลักษณะเฉพาะที่สังเกตได้ง่าย เช่น พื้นผิวโลหะเป็นแบบด้านมากกว่ามันวาว อาจจะออกเป็นสีเก่า ๆ เล็กน้อย แต่ก็ถือเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ Dior ที่ไม่เหมือนใคร ส่วนตัวอักษรชื่อแบรนด์ที่ปรากฏบนอะไหล่ก็ต้องมีความหนา คมชัด แสดงให้เห็นว่าปั๊มมาอย่างดี ในขณะที่ของปลอมตัวอักษรจะบางกว่า และอาจมีเบี้ยวบ้าง

5.Made in Italy หรือ Made in Spain เท่านั้น ไม่ Made in ที่อื่น

คุณสามารถเช็ก Dior แท้ได้ด้วยการดูจากแหล่งผลิต โดยกระเป๋า Dior จะผลิตในประเทศอิตาลีหรือสเปนเท่านั้น หากพบ Made in ประเทศอื่น นั่นแสดงว่าคุณเจอของปลอมเข้าให้แล้ว ดังนั้น ก่อนตัดสินใจซื้อ อย่าลืมตรวจสอบป้าย “Made in…” ด้านในกระเป๋าก่อน รวมถึงเช็กความเรียบร้อยของการเย็บป้ายด้วยว่าแน่นหนาหรือไม่ เพราะบางทีอาจมีของปลอมที่ใช้ป้าย Made in Italy หรือ Made in Spain ได้เหมือนกัน

6. เช็ก Serial Numbers หรือ Date Code ด้านในกระเป๋า

เรียกได้ว่าเป็นวิธีดูกระเป๋า Dior ของแท้ที่ไม่ว่ายุคสมัยไหนก็ยังใช้กันอยู่จริง ๆ สำหรับ Serial Numbers หรือ Date Code ซึ่งเป็นรหัสที่ระบุรายละเอียดเฉพาะของกระเป๋าแต่ละใบ มักจะอยู่ด้านในกระเป๋า สามารถเป็นได้ทั้งป้ายหนัง หรือจะประทับลงบนวัสดุกระเป๋าโดยตรงก็ได้ Serial Number หรือ Date Code นี้จะประกอบไปด้วยตัวเลข 2 หลัก ตัวอักษรภาษาอังกฤษ 2 ตัว และปิดท้ายด้วยตัวเลขอีก 4 หลัก โดยส่วนสำคัญคือเลข 4 หลักสุดท้ายนี้เองที่จะบอกถึงเดือนและปีที่ผลิต กล่าวคือ ตัวเลขในตำแหน่งที่ 1 และ 3 จะหมายถึง เดือน ในขณะที่ตำแหน่งที่ 2 และ 4 จะหมายถึง ปี ส่วนตัวอักษร 2 ตัวจะเป็นการระบุโรงงานผลิต อาทิ 33-MA-0243 หมายถึง ผลิตเมื่อเดือนเมษายน ปี 2023 ที่อิตาลี (MA คือโคดย่อของโรงงานที่อิตาลี)

แม้การตรวจสอบความแท้ของกระเป๋า Dior ต้องอาศัยความละเอียดและความรู้เกี่ยวกับแบรนด์ แต่ด้วยเทคนิคที่เรามาบอกต่อกับทุกคนในวันนี้ ก็ถือเป็นวิธีดูความแท้-ไม่แท้เบื้องต้นได้ อย่างไรก็ตาม ทางที่ปลอดภัยที่สุดคือการซื้อจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ และหากมีข้อสงสัย อย่าลังเลที่จะขอความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งที่ BRANDNAME VOYAGE เราเป็นแหล่งรวมสินค้าแบรนด์เนมมือสองมากมายหลายรุ่น ให้คุณเลือกช็อปได้แบบจุใจ พร้อมบริการเหนือระดับจากทีมงานมืออาชีพ ที่จะช่วยให้คำปรึกษาในทุกข้อสงสัย สินค้าทุกชิ้นผ่านการตรวจสอบแล้วโดยผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ในวงการแบรนด์เนมมาอย่างยาวนาน มั่นใจได้ว่าของแท้ 100%

เลือกชมสินค้าได้แล้ววันนี้ที่เว็บไซต์ หรือเข้ามาที่หน้าร้านทั้ง 3 สาขาของเรา ได้แก่ เซ็นทรัลพระราม 9, ฟิวเจอร์พาร์ครังสิต และเชียงใหม่ (รับซื้ออย่างเดียว) หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

• LINE: @brandnamevoyage
• Tel: 095-916-7171 (สำหรับผู้ที่สนใจซื้อสินค้า)
• LINE: @voyagepurchase
• Tel: 095-5052229 (สำหรับผู้ที่สนใจฝากขายสินค้า)

ข้อมูลอ้างอิง:

1. How to Authenticate a Christian Dior Bag?. สืบค้นวันที่ 5 กันยายน 2567 จาก
   https://www.codogirl.com/blogs/news/authenticate-dior-bag.

3 เหตุผลในการซื้อเเบรนเนมมือสอง มีข้อดียังไงบ้าง?
1. Budget คุณสามารถกำหนดบัทเจตในการเลือกซื้อสินค้าเเบรนด์เนมได้ นั้นหมายความว่าหากคุณกำหนดบัตเจทไว้ไม่เกินหนึ่งเเสนบาท เเต่ในช้อปราคาเกินเเสน หากคุณมาลองหาในตลาดแบรนด์เนมมือสอง จะเจอรุ่นที่คุณต้องการโดยสามารถซื้อได้ในราคาที่ถูกลง เเต่ยังคงคุณภาพที่ดีอยู่ การซื้อมือสองจึงได้รับความนิยมอย่างมากในยุคปัจจุบัน นับว่าเป็นการเปิดโอกาสให้กลุ่มคนที่ต้องการใช้สินค้าแบรนด์เนมด้วยเช่นกัน 

2. Quality เนื่องจากสินค้าเเบรนด์เนมแทบทั้งหมดถูกผลิตโดยผ่านกระบวนการอย่างมีคุณภาพ จึงทำให้สินค้ามีความทนทานเเละใช้งานได้ยาว การซื้อมือหนึ่งออกมาจากช้อปและผ่านการใช้งานไปแล้ว ก็ยังสามารถขายต่อในราคามือสอง ทำให้ในตลาดมือสองสามารถได้สินค้าที่มีคุณภาพในราคาที่ถูกลงได้ หรือสำหรับคนที่ซื้อมาเพื่อการลงทุน บางรุ่นขายต่อทำให้คุณได้กำไรได้ด้วยเช่นเดียวกัน 

3. Not Waste ยุคสมัยของเเฟชั่นได้เปลื่ยนแปลงไปตามกาลเวลาอยู่เสมอ ทำให้มีการผลิตรุ่นใหม่ๆอยู่ตลอด ผู้ที่ครองครองเเบรนด์เนมก็มีความต้องการเพิ่มขึ้นอยู่ตลอดเวลา เมื่อซื้อไปใหม่ไปแล้วใบเก่าก้จะเริ่มใช้งานลดลง นั้นเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ต้องมีตลาดมือสองมารองรับคนที่ต้องการขาย ในส่วนของคนที่ซื้อมือสองก็จะได้รับสินค้าคุณภาพดีใช้ต่อไป สินค้ารุ่นเก่าบางรุ่นอาจดูเก่าเเล้วสำหรับบางคน แต่สำหรับตลาดมือสองเเล้วนั้น สินค้าเก่า ๆ อาจขึ้นเป็นสินค้าน่าสะสมหรือบ้างเรียกว่า Vintage ในบางชิ้นไม่อาจประเมินค่าได้