Posted on

หนังคาเวียร์คืออะไร ? ไขความลับวัสดุสุดหรูที่ครองใจสายแฟ

ทำความรู้จักหนังคาเวียร์ ทำไมถึงเป็นที่ต้องการในกลุ่มคนรักแบรนด์เนม

หากเปรียบเสื้อผ้าเป็นภาษาของแฟชั่น กระเป๋าอาจเป็นเสมือนบทกวีที่สะท้อนตัวตน และวัสดุที่ใช้ก็คือน้ำหมึกที่ช่วยเติมเต็มความหมายของบทกวีนั้น โดยหนึ่งในวัสดุที่ได้รับความชื่นชอบจากแฟชั่นนิสต้าทั่วโลก ได้แก่ “หนังคาเวียร์” (Caviar Leather) ซึ่งแตกต่างจากหนังชนิดอื่นด้วยพื้นผิวเม็ดเล็กละเอียดดุจเม็ดคาเวียร์ที่เรียงตัวแน่น ช่วยสร้างทั้งความงดงามที่น่าหลงใหลและคุณสมบัติความแข็งแรงที่ไม่ธรรมดา ทำให้กระเป๋าหนังคาเวียร์ทุกใบที่สะพายอยู่บนบ่าสื่อถึงรสนิยมอันเหนือระดับ

หนังคาเวียร์คืออะไร ?

หนังคาเวียร์ คือ หนังลูกวัวแท้ที่ผ่านการเคลือบผิวและอัดลายเม็ดเล็ก ๆ คล้ายเม็ดคาเวียร์ เนื้อสัมผัสมีความนูน ละเอียด และให้ความรู้สึกพรีเมียม แตกต่างจากหนังเรียบที่อาจเกิดรอยขีดข่วนง่าย ความพิเศษของหนังชนิดนี้คือสามารถผสานทั้งความหรูหราและความคงทนไว้ในวัสดุเดียวกัน

หลายทศวรรษที่ผ่านมา หนังคาเวียร์ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในวัสดุที่ทนทานที่สุดสำหรับกระเป๋าแบรนด์เนม ดังนั้น หากเห็นวัสดุนี้ ไม่ต้องตั้งคำถามเลยว่าหนังคาเวียร์ทนไหม เพราะคำตอบคือทนแน่นอน โดยนอกจากจะช่วยป้องกันรอยขีดข่วนจากการใช้งานประจำวันแล้ว ยังสามารถคงความสวยงามไว้ได้อย่างยาวนาน กระเป๋าที่ทำจากหนังคาเวียร์จึงมักถูกเลือกให้เป็น “ใบแรก” ของใครหลายคนที่เริ่มต้นก้าวเข้าสู่โลกของกระเป๋าแบรนด์เนม

Fun Fact : หนังคาเวียร์ คือเอกลักษณ์ที่ทำให้กระเป๋าแบรนด์เนมรุ่นไอคอนิกอย่าง Chanel Classic Flap และ Chanel Boy ยังคงได้รับความนิยมสูงสุดมาจนถึงปัจจุบัน

ทำไมหนังคาเวียร์ถึงได้รับความนิยม ?

ดีไซน์สวยหรูคลาสสิก

ลายเม็ดละเอียดเป็นดีไซน์ที่สะกดสายตาและไม่ซ้ำใคร ให้ความรู้สึกหรูหราแบบไม่ต้องตะโกนดัง ทั้งยังเข้ากับทุกสไตล์การแต่งตัว ไม่ว่าจะเป็นลุคทางการที่ต้องการความสุภาพ หรือสไตล์ Casual ในวันสบาย ๆ หนังคาเวียร์จะช่วยยกระดับภาพลักษณ์ของผู้ถือให้ดูโดดเด่นและสง่างามได้ทุกเมื่อ

ทนทานต่อการใช้งานประจำวัน

พื้นผิวแบบเม็ดช่วยลดความชัดเจนของรอยขีดข่วนที่อาจเกิดขึ้นได้จากการใช้งาน ไม่ว่าจะวางกระเป๋าไว้บนโต๊ะ ทำกิจกรรมกลางแจ้ง หรือใช้งานในชีวิตประจำวัน กระเป๋าที่ทำจากหนังคาเวียร์ก็จะยังคงรูปลักษณ์ที่สวยงามเอาไว้เสมอ

คงรูปได้ดีแม้ใช้งานบ่อย

หนังคาเวียร์มีความแข็งแรงและยืดหยุ่นในตัวเองสูง จึงช่วยรักษาทรงของกระเป๋าไม่ให้เสียรูปหรือหย่อนคล้อยง่ายแม้ใช้งานบ่อยหรือใส่ของจำนวนมาก ทำให้กระเป๋าดูใหม่อยู่เสมอ และยังคงเสน่ห์ความโก้ได้อย่างไร้ที่ติ

มูลค่าการลงทุนสูง

หลายคนมักตั้งคำถามว่ากระเป๋าหนังคาเวียร์ดีไหม คำตอบคือดีมาก เพราะนอกจากจะตอบโจทย์ด้านความทนทานแล้ว ยังเป็นวัสดุที่ได้รับความนิยมสูงในตลาดรีเซลด้วย กล่าวคือ กระเป๋าหนังคาเวียร์มักขายต่อได้ในราคาที่น่าพึงพอใจ โดยเฉพาะกระเป๋าหนังคาเวียร์รุ่นฮิต จึงนับเป็นการลงทุนที่ให้ทั้งความสุข การใช้งาน และความมั่นใจในคุณค่า

หนังคาเวียร์มีกี่แบบ ?

แม้จะเรียกรวมกันว่าหนังคาเวียร์ แต่จริง ๆ แล้วสามารถแบ่งตามความละเอียดของเม็ดได้หลายประเภท ซึ่งแต่ละประเภทสามารถสะท้อนบุคลิกและสไตล์ที่แตกต่างกัน ดังนี้

หนังคาเวียร์แบบเม็ดใหญ่ ทำให้กระเป๋าดูเด่น สะดุดตา

1. หนังคาเวียร์แบบเม็ดใหญ่ (Large Grain Caviar)

หนังคาเวียร์แบบเม็ดใหญ่มีลวดลายที่ชัดเจนและเด่นสะดุดตา ทำให้พื้นผิวหนังดูโดดเด่นมากยิ่งขึ้น และยังมีความแข็งแรง เหมาะสำหรับการใช้งานในทุก ๆ วัน ตอบโจทย์สาว ๆ ที่ชื่นชอบการแสดงออกทางแฟชั่น

หนังคาเวียร์แบบเม็ดเล็ก สื่อถึงความหรูหราแบบคลาสสิก

2. หนังคาเวียร์แบบเม็ดเล็ก (Small Grain Caviar)

หากมองหาความหรูหราในรูปแบบที่ดูซอฟต์ละมุนโดนใจสายหวาน หนังคาเวียร์เม็ดเล็กคือคำตอบที่สมบูรณ์แบบ โดยเม็ดที่ละเอียดและมีขนาดเล็กจะช่วยให้พื้นผิวหนังดูเรียบเนียนและเงางาม ทั้งยังสะท้อนความหรูหราและความคลาสสิกแบบไม่ต้องกลัวตกยุค เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการกระเป๋าที่ใช้ได้ทุกโอกาส ดูดีตลอดกาล

กระเป๋าหนังคาเวียร์แบบเม็ดกลาง แมตช์ได้กับทุกสไตล์

3. หนังคาเวียร์แบบเม็ดกลาง (Medium Grain Caviar)

หนังคาเวียร์แบบเม็ดกลางเป็นทางเลือกที่ลงตัวระหว่างความแข็งแรงของเม็ดใหญ่และความนุ่มนวลของเม็ดเล็ก ทำให้ได้ความสมดุลทั้งในด้านการใช้งานที่ทนทานและความสวยงาม เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการออกแบบที่ดูดี ไม่จัดเต็มหรือดูเบาเกินไป

กระเป๋าหนังคาเวียร์รุ่นฮิต ที่ครองใจเหล่าแฟชั่นนิสต้า

เมื่อพูดถึงกระเป๋าหนังคาเวียร์รุ่นฮิต ย่อมต้องมีชื่อ Chanel ขึ้นมาเป็นอันดับแรก เพราะหนังคาเวียร์คือซิกเนเจอร์ที่สร้างชื่อเสียงระดับโลก และเป็นหนึ่งในวัสดุที่ทำให้กระเป๋า Chanel ของแท้กลายเป็นไอคอนที่ใคร ๆ ก็ใฝ่ฝัน

กระเป๋าหนังคาเวียร์สะท้อนภาพลักษณ์ที่หรูหราของผู้ถือ

Chanel Classic Flap

ไอคอนิกที่สืบทอดจากยุคของ Coco Chanel ดีไซน์เหนือกาลเวลา โดดเด่นด้วยโครงสร้างที่หรูหราและฟังก์ชันที่ใช้งานง่าย ยิ่งเมื่อทำจากหนังคาเวียร์ก็ยิ่งเพิ่มความทนทานให้ใช้งานได้ทุกวันโดยไม่เสียทรง ทั้งรูปลักษณ์ที่ดูพรีเมียมและคุณสมบัติเหล่านี้ทำให้ Classic Flap คือหนึ่งในกระเป๋าที่ถูกยกให้เป็น Must-Have ของนักสะสมทั่วโลก อีกทั้งยังเป็นกระเป๋าที่มีมูลค่าขายต่อสูงที่สุดในตลาดรีเซล

Chanel Boy กระเป๋าหนังคาเวียร์รุ่นฮิตตลอดกาลของแบรนด์

Chanel Boy

หลังจากเปิดตัวในปี 2011 Chanel Boy ก็กลายเป็นอีกหนึ่งรุ่นที่สร้างกระแสนิยมอย่างรวดเร็วในหมู่คนรักแฟชั่น ด้วยดีไซน์ทรงเหลี่ยมที่ดูแข็งแรง ทนทาน ตัดกับฮาร์ดแวร์สีทองหรือเงินที่มีความโมเดิร์น ช่วยเสริมให้ตัวกระเป๋ามีเสน่ห์เฉพาะตัวที่ทั้งเท่และหรูหราในเวลาเดียวกัน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการกระเป๋าที่สะท้อนความมั่นใจและคาแรกเตอร์ที่ไม่ธรรมดา

Chanel WOC กระเป๋าหนังคาเวียร์ที่ได้รับความนิยมในหมู่คนรักแบรนด์เนม

Chanel Wallet on Chain (WOC)

กระเป๋าใบจิ๋วที่ถือว่าเป็น Entry-Level ของ Chanel แต่กลับได้รับความนิยมสูงไม่แพ้กระเป๋าหนังคาเวียร์รุ่นฮิตอย่างสองคอลเลกชันด้านบน โดย WOC สามารถใช้งานได้ทั้งในชีวิตประจำวันและโอกาสพิเศษ ดีไซน์กะทัดรัดแต่จุของได้มากเกินคาด เป็นที่ชื่นชอบของกลุ่มแฟชั่นนิสต้ารุ่นใหม่ที่มองหากระเป๋าที่พกพาง่ายและเหมาะสำหรับทุกโอกาส

วิธีทำความสะอาดหนังคาเวียร์อย่างถูกต้อง

แม้หนังคาเวียร์จะขึ้นชื่อเรื่องความทนทาน แต่การดูแลรักษาที่เหมาะสมก็ยังสำคัญ เพื่อคงความงดงามและยืดอายุการใช้งาน

  • ใช้ผ้านุ่มเช็ดเบา ๆ หลังใช้งาน เพื่อลดการสะสมของฝุ่นหรือสิ่งสกปรก
  • เก็บในถุงผ้า (Dust Bag) เมื่อไม่ได้ใช้งาน เพื่อป้องกันรอยขีดข่วน
  • หลีกเลี่ยงการสัมผัสน้ำหรือความชื้น หากเปียกให้ใช้ผ้าแห้งซับทันที และห้ามใช้ไดร์เป่าลมร้อน
  • ใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลหนังโดยเฉพาะ โดยควรเลือกสูตรอ่อนโยนที่ออกแบบมาสำหรับหนังแท้เท่านั้น

สำหรับผู้ที่กำลังมองหาการลงทุนที่ทั้งคุ้มค่าและมั่นใจ BRANDNAME VOYAGE พร้อมให้บริการรับซื้อกระเป๋าแบรนด์ที่คัดสรรและตรวจสอบคุณภาพอย่างละเอียด เพื่อให้ทุกใบที่ส่งต่อยังคงคุณค่าและความงดงามดังเดิม ไม่ว่าจะเป็นการขายต่อเพื่อต่อยอดคุณค่า หรือเลือกซื้อกระเป๋ามือสองในราคาที่จับต้องได้มากกว่าในช็อป สามารถชมสินค้าได้ผ่านทางเว็บไซต์ หรือเข้ามาที่หน้าร้านได้ทุกสาขา ได้แก่

  • BRANDNAME VOYAGE – RAMA 9 (ตึก G Tower ชั้น B เชื่อมกับเซ็นทรัลพระราม 9)
  • BRANDNAME VOYAGE – RANGSIT (Future Park รังสิต ชั้น 1 โซน Robinson)
  • BRANDNAME VOYAGE – PHUKET (Robinson Lifestyle ถลาง ชั้น 1)
  • BRANDNAME VOYAGE – CHIANG MAI ถนนมงฟอร์ต อำเภอเมืองเชียงใหม่ (เฉพาะรับซื้อ)

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่

ข้อมูลอ้างอิง

  1. Handbag Dilemmas: Chanel Caviar or Lambskin?. สืบค้นเมื่อวันที่ 10 กันยายน 2568 จาก https://saclab.com/chanel-caviar-or-lambskin/.
  2. The Guide to Chanel Leathers and Materials. สืบค้นเมื่อวันที่ 10 กันยายน 2568 จาก https://madisonavenuecouture.com/blogs/news/the-best-chanel-leather-for-your-bag?srsltid=AfmBOoqufq2MngVLCC7Zb-X0pQHuIRihrG-k__Dld06GomCff0SjRsEE.
Posted on Leave a comment

Chanel Size Guide พร้อมวิธีเลือกขนาดให้เหมาะกับคุณ

Chanel Classic เลือกขนาดไหนดี บทความนี้มีคำตอบ

เปรียบเทียบกระเป๋าชาแนลคลาสสิกทุกขนาด

Chanel Classic Flap Bag ถือเป็นกระเป๋าไอคอนิกเหนือกาลเวลาที่ได้รับความนิยมสูงสุดจากสาว ๆ ทั่วโลก เพราะไม่ใช่เพียงแค่ความหรูหราในดีไซน์ แต่ยังเป็นกระเป๋าที่เหมาะทั้งสำหรับการใช้งานจริงและการลงทุน ด้วยความคลาสสิกที่ไม่มีวันตกเทรนด์ พร้อมดีไซน์ที่สามารถใช้งานได้ในหลากหลายโอกาส

หนึ่งในคำถามยอดนิยมจากผู้ที่กำลังตัดสินใจซื้อกระเป๋ารุ่นนี้ คือ Chanel Classic มีกี่ขนาด ? บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับขนาดทั้งหมดของ Chanel Classic Flap และความแตกต่างของแต่ละไซซ์ พร้อมแนะนำขนาดที่เหมาะกับสไตล์ของคุณ

เปรียบเทียบกระเป๋าชาแนล

 

Chanel Classic มีกี่แบบ กี่ขนาด ?

Chanel Classic Flap Bag รุ่นที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือแบบ Double Flap ซึ่งมีช่องด้านในสองชั้น พร้อมสายโซ่หนังอันเป็นเอกลักษณ์ โดยมีให้เลือกทั้งหมด 7 ขนาดหลัก ได้แก่

  • Extra Mini
  • Mini Square
  • Mini Rectangular
  • Small
  • Medium
  • Jumbo
  • Maxi

ขนาดของ Chanel Classic แต่ละใบออกแบบมาให้เหมาะกับการใช้งานที่หลากหลาย ตั้งแต่การเป็นกระเป๋าคู่ใจสำหรับถือไปงานสำคัญ ไปจนถึงรุ่นใหญ่ที่สามารถนำไปใช้งานในชีวิตประจำวันได้อย่างจุใจ

ขนาด Chanel Classic 10 นิ้ว หรือรุ่น Medium อยู่ที่เท่าไร

หนึ่งในรุ่นที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือ Chanel Classic Medium Flap Bag ซึ่งมีความกว้างโดยประมาณ 10 นิ้ว หรือ 25.5 เซนติเมตร จึงทำให้หลายคนนิยมเรียกสั้น ๆ ว่า Chanel Classic 10 นิ้ว

ขนาดโดยประมาณของ Chanel Classic 10

  • กว้าง : 25.5 ซม. (10 นิ้ว)
  • สูง : 16 ซม.
  • ลึก : 6.5 ซม.

ด้วยขนาดที่ลงตัว จึงสามารถใส่ของจำเป็นในชีวิตประจำวันได้ครบ เช่น กระเป๋าสตางค์ใบยาว โทรศัพท์มือถือ หรือเครื่องสำอางชิ้นเล็ก ๆ และยังคงดูหรูหรา ไม่เทอะทะ เหมาะกับทั้งลุคทางการและลุคแคชชวล

Chanel Classic Size Guide : ตารางเปรียบเทียบขนาด Chanel Classic Flap Bag

 

รุ่น ขนาด (ซม.) จุดเด่น
Extra Mini 17 x 10 x 5 ใบเล็กที่สุด เหมาะกับการใส่ของจิ๋ว ๆ เช่น บัตร ลิป
Mini Square 17 x 13 x 7 ขนาดกำลังพอดี ใช้งานง่าย เหมาะกับลุควันสบาย ๆ
Mini Rectangular 20 x 12 x 6 ใส่ของจำเป็นได้ครบ เช่น มือถือ กระเป๋าสตางค์
Small 23 x 14 x 6 ขนาดใหญ่ขึ้นเล็กน้อย สามารถใช้ได้ทั้งกลางวันและกลางคืน
Medium (10 นิ้ว) 25.5 x 16 x 6.5 ขนาดยอดนิยม ครอบคลุมทุกการใช้งาน
Jumbo 30 x 20 x 10 เหมาะสำหรับคนชอบพกของเยอะ ใช้งานได้คุ้ม แต่ยังคงไว้ซึ่งความหรูหรา
Maxi 34 x 23 x 10 ขนาดใหญ่สุด สามารถใส่เอกสารได้ เหมาะกับลุคทางการและวันทำงาน

การเลือกขนาดกระเป๋า Chanel Classic ให้เหมาะกับการใช้งาน

 

ซื้อกระเป๋าชาแนล คลาสสิก เลือกขนาดไหนดี ?

การเลือกขนาดของกระเป๋า Chanel Classic ที่เหมาะสมไม่เพียงช่วยให้ใช้งานสะดวก แต่ยังช่วยให้กระเป๋าเสริมบุคลิกได้อย่างลงตัว การเลือกให้ถูกขนาดจึงเป็นเรื่องสำคัญไม่แพ้การเลือกรุ่นหรือสีเลยทีเดียว โดยควรพิจารณาจากปัจจัยดังต่อไปนี้

ลักษณะการใช้งาน

ก่อนตัดสินใจซื้อ Chanel Classic ควรถามตัวเองก่อนว่า ต้องการที่จะใส่อะไรลงไปในกระเป๋าบ้าง

  • สำหรับคนที่พกของน้อย : เช่น มือถือ ลิปสติก บัตร และกระเป๋าสตางค์ใบเล็ก รุ่น Mini Square หรือ Mini Rectangular จะตอบโจทย์ ด้วยน้ำหนักที่เบา ขนาดกะทัดรัด สะพายง่าย และยังดูดีในทุกสถานการณ์
  • สำหรับคนที่ต้องการใช้เป็น Everyday Bag : หากคุณต้องพกของจำเป็นในแต่ละวัน เช่น สมุดบันทึก แว่นตา หรือกระเป๋าสตางค์ใบยาว รุ่น Medium (10 นิ้ว) หรือ Jumbo จะเหมาะสมกว่า เพราะมีความจุมากขึ้นโดยไม่เทอะทะจนเกินไป

เคล็ดลับเพิ่มเติม : รุ่น Medium เป็นรุ่นที่ใช้ได้ทุกสถานการณ์และได้รับความนิยมมากที่สุดในหมู่สาว ๆ ทั่วโลก เพราะเป็นรุ่นที่บาลานซ์ทั้งดีไซน์และการใช้งานได้อย่างลงตัว

รูปร่างและความสูง

  • สาวร่างเล็กหรือรูปร่างเล็กบาง : ควรหลีกเลี่ยงรุ่น Jumbo หรือ Maxi เพราะอาจทำให้ดูตัวเล็กลงไปอีก และกระเป๋าอาจใหญ่เกินสมดุลของรูปร่าง ให้เลือกรุ่น Mini, Small หรือ Medium ที่เสริมลุคได้ดีกว่า
  • สาวร่างสูง หรือรูปร่างสมส่วน : สามารถถือรุ่น Medium, Jumbo หรือ Maxi ได้อย่างมั่นใจ เพราะขนาดกระเป๋าจะสมดุลกับรูปร่าง และช่วยสร้างลุคที่ดูโดดเด่น

โอกาสในการใช้งาน

ในบางครั้ง ขนาดของกระเป๋าที่เหมาะสม ก็ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ในการใช้ ไม่ว่าจะเป็นงานทางการหรือวันสบาย ๆ

  • ใช้ในโอกาสทางการ : เช่น งานประชุม งานสัมมนา หรือดินเนอร์กลางคืน เลือกรุ่น Small หรือ Medium เพราะมีขนาดพอดี ใส่ของได้ครบ และดูสุภาพ
  • ใช้งานในชีวิตประจำวัน : เช่น ไปทำงาน ออกไปคาเฟ่ หรือท่องเที่ยว เลือก Medium หรือ Jumbo ที่มีพื้นที่เพียงพอและคล่องตัวสำหรับการใช้งานหลากหลาย
  • เดินทางต่างประเทศ หรือไปงานแฟชั่น : รุ่น Mini เหมาะอย่างยิ่ง เพราะน้ำหนักเบาและไม่กินพื้นที่ในกระเป๋าเดินทาง

หากคุณกำลังมองหากระเป๋า Chanel Classic ไม่ว่าจะเป็นรุ่น Mini, Medium หรือ Jumbo ในราคาที่เข้าถึงได้ พร้อมความมั่นใจว่าเป็นของแท้ 100% แนะนำให้เลือกซื้อจากร้านที่เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ด้านแบรนด์เนมโดยเฉพาะ โดย BRANDNAME VOYAGE คือศูนย์กลางสำหรับซื้อ-ขาย-ฝากขายกระเป๋าแบรนด์เนมแท้ ที่พร้อมให้บริการคุณด้วยทีมผู้เชี่ยวชาญที่เข้าใจสินค้าระดับไฮเอนด์อย่างแท้จริง เราคัดสรรเฉพาะกระเป๋าแท้ มีใบรับรองทุกใบ มี Chanel Classic Flap ให้เลือกหลากหลายขนาด เราพร้อมดูแลคุณด้วยความจริงใจและใส่ใจทุกดีเทล เลือกซื้อได้แล้ววันนี้ที่เว็บไซต์ หรือเข้ามาเยี่ยมชมสินค้าที่หน้าร้านทั้ง 2 สาขาหลัก ได้แก่ G Tower Rama 9 ชั้น B (ทางเชื่อมเซ็นทรัลพระราม 9) และ Future Park รังสิต ชั้น 1 โซน Robinson หรือติดต่อสอบถามเพิ่มเติมที่

 

ข้อมูลอ้างอิง

  1. The Ultimate Chanel Classic Flap Bag Size Guide: Find Your Perfect Fit. สืบค้นเมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2568 จาก https://www.xupes.com/blog/post/the-ultimate-chanel-classic-flap-bag-size-guide-find-your-perfect-fit-%7C-xupes
Posted on Leave a comment

กระเป๋า Chanel Classic ยังน่าเก็บสะสมอยู่ไหม ?

กระเป๋า Chanel Classic ถือเป็นหนึ่งในไอเทมที่สาวกแบรนด์เนมทั่วโลกต่างใฝ่ฝันอยากมีไว้ในครอบครอง ด้วยดีไซน์ที่มีเอกลักษณ์และความงามเหนือกาลเวลา ทำให้กระเป๋ารุ่นนี้ยังคงได้รับความนิยมไม่เสื่อมคลาย ไม่ว่าจะผ่านมากี่ทศวรรษก็ตาม แต่คำถามสำคัญคือ “Chanel Classic ยังน่าเก็บสะสมอยู่ไหม ?” บทความนี้จะพาคุณสำรวจเหตุผลต่าง ๆ ที่ทำให้กระเป๋ารุ่นนี้ยังคงเป็นที่สนใจ พร้อมตอบคำถามยอดฮิตว่า “Chanel Classic มีกี่แบบ” และมุมมองที่น่าสนใจเกี่ยวกับกระเป๋า Chanel Classic

ความโดดเด่นของ Chanel Classic ที่ไม่เคยเลือนหาย

ด้วยดีไซน์ที่เหนือกาลเวลาและความประณีตในการผลิตกระเป๋า Chanel Classic ยังคงเป็นสัญลักษณ์ของความหรูหราและความเป็นอมตะในวงการแฟชั่น ความลงตัวระหว่างศิลปะและการใช้งานทำให้กระเป๋ารุ่นนี้ครองใจผู้คนทุกยุคทุกสมัย

1. ดีไซน์ที่เหนือกาลเวลา

กระเป๋าชาแนลคลาสสิกได้รับการออกแบบโดย Gabrielle “Coco” Chanel และมีการปรับโฉมใหม่ในปี 1983 โดย Karl Lagerfeld ซึ่งเพิ่มความโดดเด่นด้วยโลโก้ CC Turn-Lock และฮาร์ดแวร์โลหะที่เป็นเอกลักษณ์ ความเรียบหรูของดีไซน์ช่วยให้กระเป๋ารุ่นนี้เหมาะกับทุกโอกาส ไม่ว่าจะเป็นงานทางการหรือวันสบาย ๆ

2. วัสดุคุณภาพสูง

กระเป๋าชาแนลคลาสสิกผลิตจากวัสดุหลากหลาย เช่น หนังแกะ (Lambskin) ที่ให้สัมผัสนุ่มหรูหรา และหนังคาเวียร์ (Caviar) ที่มีความทนทานต่อรอยขีดข่วน อีกทั้งยังมีตัวเลือกที่เป็นวัสดุอื่น ๆ เช่น ผ้า Tweed หรือหนังเอ็กโซติกที่หายาก ทำให้กระเป๋าแต่ละใบมีความโดดเด่นและมีเอกลักษณ์

3. ขนาดที่หลากหลาย

หากคุณสงสัยว่าขนาดของ “Chanel Classic มีกี่แบบ” คำตอบคือ กระเป๋ารุ่นนี้มีทั้งหมด 6 ขนาด ดังนี้

  • Mini Square Classic : ขนาด 17 x 13.5 x 8 เซนติเมตร (6.6 x 5.3 x 3.1 นิ้ว)
  • Mini Rectangular Classic : ขนาด 20 x 12 x 6 เซนติเมตร (7.8 x 4.7 x 2.3 นิ้ว)
  • Small Classic : ขนาด 23 x 14.5 x 6 เซนติเมตร (9 x 5 x 2.3 นิ้ว)
  • Medium Classic : ขนาด 25.5 x 15.5 x 6.5 เซนติเมตร (9.9 x 6 x 2.5 นิ้ว)
  • Jumbo Classic : ขนาด 30 x 19.5 x 10 เซนติเมตร (11.7 x 7.6 x 3.9 นิ้ว)
  • Maxi : ขนาด 33 x 23 x 10 เซนติเมตร (12.9 x 9 x 3.9 นิ้ว)​

ซึ่งชาแนลคลาสสิกแต่ละขนาดตอบโจทย์การใช้งานที่แตกต่างกัน โดยขนาด Mini และ Small เหมาะสำหรับวันสบาย ๆ หรือออกงานเล็ก ๆ ในขณะที่ Jumbo และ Maxi เหมาะสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน หรืองานที่ต้องการความจุ

เหตุผลที่ Chanel Classic น่าเก็บสะสม

1. มูลค่าที่เพิ่มขึ้นตามกาลเวลา

หนึ่งในเหตุผลที่ทำให้กระเป๋า Chanel Classic น่าสะสมคือมูลค่าที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ราคาของกระเป๋าในแต่ละปีมีการปรับเพิ่มขึ้นเสมอ โดยเฉพาะในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา มีการปรับราคาขึ้นถึง 2-3 ครั้งในปีเดียว ! เช่น รุ่น Medium Flap Bag ที่ในปี 2010 มีราคาประมาณ 120,000-140,000 บาท แต่ในปัจจุบันกลับมีราคาสูงถึงประมาณ 432,000 บาท

2. ความต้องการในตลาดมือสอง

กระเป๋า Chanel Classic เป็นที่ต้องการสูงในตลาดมือสอง (Resale Market) โดยเฉพาะขนาด Medium และ Small ที่เป็นขนาดยอดนิยม ซึ่งราคาขายต่อมักสูงกว่าราคาซื้อเดิมหากอยู่ในสภาพดี อีกทั้งยังมีการผลิตรุ่น Limited Edition ที่นักสะสมต้องการเป็นพิเศษอีกด้วย

3. ความหลากหลายของดีไซน์และสีสัน

นอกจากวัสดุที่หลากหลายแล้วกระเป๋า Chanel Classic ยังมีสีสันให้เลือกมากมาย ทั้งสีคลาสสิก เช่น ดำและเบจ หรือสีพิเศษในคอลเลกชันตามฤดูกาล เช่น สีชมพูพาสเทล สีฟ้าอ่อน หรือแม้กระทั่งสีเมทัลลิกที่เพิ่มความหรูหรา ให้แก่กลุ่มแฟนพันธุ์แท้ที่ต้องการเก็บไว้เป็นคอลเลกชัน

สรุปแล้ว ควรซื้อกระเป๋า Chanel Classic หรือไม่ ?

กระเป๋า Chanel Classic นับเป็นไอเทมที่เหล่าสาวกแบรนด์เนมหลายคนอยากมีไว้ครอบครองสักใบ ด้วยดีไซน์ของกระเป๋านั้นมีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นเหนือกาลเวลา ตกแต่งด้วยฮาร์ดแวร์โลหะสีทอง CC Turn-Lock โดยนักออกแบบแฟชั่นที่มีชื่อเสียงระดับโลก กระเป๋าชาแนลผลิตขึ้นจากวัสดุคุณภาพเยี่ยม ที่มีความหลากหลายทั้งผ้าและหนัง เเละมีถึง 6 ขนาดด้วยกัน ตั้งเเต่ไซส์ MINI จนไปถึงไซส์ MAXI เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่เก็บสะสมเเล้วมีเเต่กำไรเเน่นอน เพราะราคาใน Shop ของ Chanel เองมีการขยับราคาขึ้นทุกใบและในบางปีนั้นมีการขยับราคากระเป๋ารุ่นนี้ขึ้นถึง 3 ครั้งในปีเดียว ! จึงบอกได้เลยว่าการเก็บสะสมกระเป๋ารุ่นนี้นั้นได้ทั้งกำไรที่ได้สะพายและกำไรที่เป็นเงินสดแน่นอน

สนใจกระเป๋า Chanel Classic มือสองสภาพดี ราคาเป็นมิตร ต้องมาเลยที่ BRANDNAME VOYAGE ยินดีให้คำปรึกษาและบริการด้วยความเชี่ยวชาญและความใส่ใจ เราเป็นแหล่งรวมกระเป๋าแบรนด์เนมมือสองมากมายหลายรุ่น ให้คุณเลือกช็อปได้แบบจุใจ สินค้าทุกชิ้นผ่านการตรวจสอบแล้วโดยผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ในวงการแบรนด์เนมมาอย่างยาวนาน มั่นใจได้ว่าของแท้ 100%

เลือกชมสินค้าได้แล้ววันนี้ที่เว็บไซต์ หรือเข้ามาที่หน้าร้าน ได้แก่ เซ็นทรัลพระราม 9, ฟิวเจอร์พาร์ครังสิต และเชียงใหม่ (รับซื้ออย่างเดียว) หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

Posted on Leave a comment

BRANDNAME VOYAGE กับสินค้ามือสอง ?

BRANDNAME VOYAGE เชื่อว่าสินค้าแบรนด์เนมมือสองทุกชิ้นล้วนมีคุณค่า เพราะไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน คุณค่าของสิ่งเหล่านี้ก็ไม่เคยลดน้อยลงตามกาลเวลา ถือเป็น Timeless Items ที่ยังคงสามารถส่งต่อให้กับผู้คนมากมายที่ต้องการเป็นเจ้าของ เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ และเสริมสร้างความมั่นใจให้แก่ตัวเอง เราจึงอยากเป็นส่วนสำคัญ ในการผลักดันการแลกเปลี่ยนเพื่อส่งต่อความรัก คุณค่า และความมั่นใจ ในหมู่คนที่รักในสินค้าแบรนด์เนม

เราพร้อมในการสร้างทัศนคติที่ดีต่อสินค้ามือสองให้ผู้คนรับรู้และเกิดการปรับเปลี่ยนมุมมองและค่านิยมใหม่ๆที่มีต่อสินค้ามือสอง

BRANDNAME VOYAGE มุ่งมั่นที่จะสร้าง BRANDNAME COMMUNITY สำหรับสินค้ามือสองที่โปร่งใส น่าเชื่อถือ และมีความเป็นธรรมให้แก่ผู้ที่รักและชื่นชอบในสินค้าแบรนด์เนม

และด้วยความมุ่งมั่นนั้นเองเราจึงมีบริการด้านแบรนด์เนมอย่างครบวงจรและครอบคลุมความต้องการของคุณลูกค้า

เช่น การจำหน่ายสินค้าแบรนด์เนมของแท้ รับซื้อแบรนด์เนมให้ราคาสูง ฝากขายแบรนด์ขายออกไว สปากระเป๋าใบโปรดของท่าน

ซึ่งในแต่ละบริการเรายังมีการแบ่งประเภทอย่างหลากหลายแบบที่จะตอบโจทย์ให้แก่คุณลุกค้าตามความต้องการ เช่น รับซื้อแบรนด์เนมถึงหน้าร้านบ้าน รับซื้อแบรนด์เนมที่หน้าร้าน

ด้วยเหตุนี้ ปัจจุบันเราจึงได้รับความไว้วางใจที่มากขึ้นมาโดยตลอด จากการที่เราไม่หยุดศึกษาและเข้าใจความต้องการของลูกค้าทุกท่าน เพื่อส่งมอบ “ความเป็นที่สุด” ทั้งในเรื่องของสภาพสินค้า และราคาที่สมเหตุสมผล พร้อมผู้เชี่ยวชาญมากมายที่ยินดีให้บริการอย่างเต็มที่