Posted on Leave a comment

เช็กกระเป๋า Chanel แท้ใน 7 ขั้นตอน มือใหม่ก็เป็นเซียนได้ !

คู่มือเช็กกระเป๋า Chanel แท้ 7 ขั้นตอน

กระเป๋า Chanel ที่สุดแห่งความคลาสสิกในวงการแบรนด์เนม นอกจากจะเป็นไอเทมที่ช่วยเสริมลุคให้ดูดีขึ้นได้แล้ว ยังเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าในระยะยาวอีกด้วย ซึ่งแน่นอนว่า ทั้งคุณค่าทางดีไซน์ ความประณีตของงานฝีมือ และราคาที่เพิ่มขึ้นตามกาลเวลา ทำให้กระเป๋าแบรนด์เนมระดับไอคอนิกแบรนด์นี้ย่อมมีของปลอมที่เลียนแบบได้อย่างแนบเนียนเกิดขึ้นในตลาดมากมาย

สำหรับผู้ที่กำลังมองหากระเป๋าชาแนลมือสอง แต่ไม่มั่นใจว่าควรเช็กอย่างไรให้ได้สินค้าแท้ 100% มาดูวิธีเช็กกระเป๋า Chanel แท้ได้จาก 7 ข้อนี้ เพื่อให้การช็อปครั้งถัดไปของคุณไม่มีคำว่าพลาด !

วิธีเช็กกระเป๋า Chanel แท้ ลายต้องจัดเรียงกันอย่างสม่ำเสมอ

กระเป๋าชาแนลแท้ดูยังไง ? รวม 7 จุดสังเกตความแท้-ปลอม ที่มือใหม่ต้องรู้ก่อนช็อป

1. โลโก้ CC ต้องสมมาตรและมีรายละเอียดที่คมชัด

จุดดึงดูดสายตาจุดแรกที่ไม่อาจมองข้ามได้เลย คือ โลโก้ CC อันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ หากถามว่าชาแนลแท้ดูยังไง ให้เริ่มจากจุดนี้ได้เลย โดยตัว C ฝั่งขวาควรจะต้องทับตัว C ฝั่งซ้ายที่ด้านบน และตัว C ซ้ายจะทับ C ขวาที่ด้านล่าง พื้นผิวของโลโก้ควรเรียบเนียน ไม่มีรอยบิ่นหรือหล่อไม่สมบูรณ์ ในขณะที่ของปลอมจำนวนมากมักจะทำโลโก้เบี้ยว ตัดกันไม่พอดี หรือมีช่องว่างระหว่างตัว C ที่สังเกตได้ง่าย

2. ลวดลายเย็บควรเป็นไปตามมาตรฐานของ Chanel

โดยเฉพาะลายข้าวหลามตัด (Diamond Quilting) ที่ต้องจัดเรียงกันอย่างสม่ำเสมอ ต่อเนื่องกันทุกด้าน แม้แต่บริเวณที่เชื่อมต่อระหว่างฝาและตัวกระเป๋า ลายก็จะต้องเชื่อมต่อกันได้อย่างสมบูรณ์ หากคุณเจอกระเป๋าที่ลายเย็บไม่ตรง รอยตัดไม่พอดี หรือมีความเบี้ยวแม้แต่นิดเดียว ให้สงสัยไว้ก่อนว่าอาจไม่ใช่ของแท้ เพราะ Chanel ของแท้จะมีความละเอียดลออในการตัดเย็บทุกจุด

3. เลข Serial Number และ Code ภายในกระเป๋า

อีกหนึ่งจุดที่มือใหม่ไม่ควรพลาดคือ เลข Serial Number และ Code ที่ติดอยู่ภายในกระเป๋า Chanel โดยสติกเกอร์นี้จะมีหมายเลขเฉพาะ และต้องตรงกับการ์ดรับรอง (Authenticity Card) ที่มาพร้อมกับกระเป๋าด้วย แต่สำหรับ Chanel รุ่นใหม่ที่ผลิตหลังปี 2021 ทางแบรนด์ได้เปลี่ยนมาใช้เป็นแผ่นโลหะเล็ก ๆ พร้อมสลักเลข Serial แทนการใช้การ์ด

หากคุณสงสัยหรืออยากตรวจสอบความถูกต้องของเลขนี้ สามารถใช้เว็บเช็ก Serial Number Chanel ที่เชื่อถือได้ เช่น เว็บเช็กเลขกระเป๋า Chanel ของทางแบรนด์เอง หรือ REAL AUTHENTICATION เพื่อยืนยันความแท้ของกระเป๋า

4. อะไหล่ Chanel ของแท้จะใช้วัสดุคุณภาพสูง

วิธีเช็กกระเป๋า Chanel แท้ ต้องสังเกตอะไหล่อย่างละเอียด ไม่ว่าจะเป็นตัวล็อก CC Turnlock ห่วงสายสะพาย หรือซิป Chanel ล้วนต้องผลิตจากวัสดุคุณภาพสูง อย่างรุ่นวินเทจบางรุ่นจะใช้อะไหล่ที่เคลือบทองคำ 24K ในขณะที่รุ่นใหม่ส่วนมากจะใช้โลหะเกรดพรีเมียม พร้อมเคลือบแบบพิเศษที่ให้ความเงางามอย่างเป็นธรรมชาติ ในทางกลับกัน หากเป็นอะไหล่ของปลอมมักจะมีน้ำหนักเบา สีทองจัดจ้านเกินจริง หรือหมุนล็อกฝืด ไม่ลื่น หากจับดูแล้วรู้สึกหยาบหรือติดขัด นั่นอาจเป็นสัญญาณว่าคุณกำลังเจอกระเป๋า Chanel ปลอม

กระเป๋าในร้านขายแบรนด์เนมมือสอง ผ่านการเช็ก Serial Number Chanel แล้ว

5. Chanel ใช้วัสดุหนังแท้คุณภาพสูง

กระเป๋า Chanel แท้ทุกใบจะใช้หนังแท้ระดับไฮเอนด์ เช่น Lambskin (หนังแกะ) ที่มีผิวสัมผัสเนียนนุ่มราวกับกำมะหยี่ หรือ Caviar Leather (หนังลูกวัวลายเม็ด) ซึ่งมีความทนทานสูง พร้อมลวดลายเม็ดไข่ปลาที่ชัดเจน

หลายคนอาจมีคำถามว่า กระเป๋าชาแนลแท้ดูยังไงจากหนัง ? จริง ๆ แล้วไม่ยากเลย หากหนังดูมันจนเกินไป มีกลิ่นฉุนของพลาสติก หรือมีรอยย่นไม่เรียบเนียน นั่นอาจเป็นหนังเทียมจากของปลอม เพราะของแท้จะมีความรู้สึก “แน่น” ยามสัมผัส และให้กลิ่นหนังแท้ที่เป็นเอกลักษณ์ ต่างจากหนังปลอมโดยสิ้นเชิง

6. ภายในกระเป๋าจะมีคำว่า CHANEL และ MADE IN FRANCE/ITALY

ตัวอักษรจะต้องตรง เป๊ะ และเรียงกันอย่างมีระเบียบ นอกจากนี้ สีตัวอักษรยังต้องแมตช์กับอะไหล่ภายนอกด้วย เช่น หากอะไหล่เป็นทอง ตัวอักษรก็จะพิมพ์ด้วยสีทองเช่นกัน ในขณะที่ของปลอมมักจะพิมพ์เบลอ ตัวอักษรไม่เท่ากัน หรือหลุดลอกง่าย และมักพิมพ์ผิดพลาดในจุดเล็ก ๆ ที่ดูเผิน ๆ อาจไม่ทันสังเกต แต่เมื่อส่องดูจะเห็นถึงความต่างได้อย่างชัดเจน

7. ราคาและแหล่งที่มาของกระเป๋า

สุดท้ายนี้ การรู้แหล่งที่มาของกระเป๋าคือสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามอย่างเด็ดขาด ! หากคุณพบกระเป๋า Chanel ที่ราคาต่ำกว่าท้องตลาดมากเกินไป หรือขายผ่านช่องทางที่ไม่มีมาตรฐาน เช่น โพสต์ขายในกลุ่มส่วนตัวโดยไม่มีการรับประกัน ควรตั้งคำถามกับตัวเองทันทีว่าสิ่งที่เห็นเป็นของแท้หรือของปลอมกันแน่

ถ้าอยากมั่นใจ แนะนำให้เลือกซื้อกับร้านรับซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมมือสองที่มีชื่อเสียง ซึ่งมีผู้เชี่ยวชาญในการตรวจสอบ และสามารถออกใบรับประกันได้ หรือหากต้องการตรวจสอบเลข Serial Number เพิ่มเติม ก็สามารถเช็กโคด Chanel กระเป๋ามือสองใบนั้น ๆ ผ่านเว็บไซต์เพื่อเพิ่มความมั่นใจอีกระดับ

หากคุณเป็นหนึ่งในผู้ที่หลงใหลในความหรูหราและสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ของ Chanel ไม่ต้องกังวลเรื่องราคาเลย เพราะที่ BRANDNAME VOYAGE เรานำเสนอกระเป๋า Chanel ราคาเข้าถึงได้ ของแท้ 100% ให้คุณได้สัมผัสความหรูหราในราคาที่คุ้มค่า ทุกชิ้นล้วนผ่านการตรวจสอบแล้วโดยทีมงานมืออาชีพ ไม่ว่าจะเป็นกระเป๋า Chanel รุ่นยอดนิยม หรือสินค้าอื่น ๆ เช่น ต่างหูและเครื่องประดับจาก Chanel ที่คุณไม่ควรพลาด ติดต่อเราได้เลยวันนี้ที่ LINE: @brandnamevoyage หรือเข้ามาเยี่ยมชมสินค้าที่หน้าร้านทั้ง 2 สาขาหลัก ได้แก่ G Tower ชั้น B เซ็นทรัลพระราม 9 และ ฟิวเจอร์ปาร์ค รังสิต ชั้น 1 โซนโรบินสัน และบริการรับซื้อที่เชียงใหม่ เราพร้อมให้บริการที่ทำให้คุณมั่นใจในทุกการซื้อ-ขาย !

 

ข้อมูลอ้างอิง

  1. 10 Steps to Authenticating a Chanel Bag. สืบค้นเมื่อวันที่ 18 เมษายน 2568 จาก https://baghunter.com/blogs/insights/how-to-authenticate-a-chanel-bag.
  2. Chanel Bag Authentication: How To Tell If A Chanel Bag Is Authentic. สืบค้นเมื่อวันที่ 18 เมษายน 2568 จาก https://madisonavenuecouture.com/blogs/news/the-guide-to-authenticating-a-chanel-bag?srsltid=AfmBOoqTExC1gRGJmYjh72MLQauqnaV_OxmygXpDgCn_RrduH6ikhZCD.
Posted on Leave a comment

5 กระเป๋า Goyard รุ่นฮิต ไอเทมที่แฟชั่นนิสต้าไม่ควรพลาด !

แนะนำกระเป๋า Goyard 5 รุ่นที่ต้องมี

เมื่อพูดถึงแบรนด์เครื่องหนังสุดหรูที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายความคลาสสิกเหนือกาลเวลา หนึ่งในชื่อที่สายแฟชั่นทุกคนต้องรู้จักคือ Goyard แบรนด์เก่าแก่จากฝรั่งเศสที่ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 1853 โดดเด่นด้วยลายโมโนแกรม “Goyardine” อันเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งกลายเป็นสัญลักษณ์แห่งความหรูหราแบบไม่ตะโกน (Quiet Luxury) ที่เซเลบริตีและแฟชั่นนิสต้าทั่วโลกหลงรัก วันนี้เราจะพาทุกคนไปสำรวจว่ากระเป๋า Goyard มีรุ่นไหนฮิตบ้าง ตอบโจทย์ทั้งการใช้เอง เพิ่มลุคสวยแพงแบบ Effortless พร้อมทั้งยังสามารถขายต่อได้ราคาดีอีกด้วย!
ผู้หญิงลุคหรูถือกระเป๋า Goyard รุ่นฮิตในต่างประเทศ
กระเป๋า Goyard รุ่น Saint Louis Tote

1. Saint Louis Tote – กระเป๋าโท้ตที่ไอคอนิกที่สุด

ถ้าจะพูดถึงซิกเนเจอร์อันดับหนึ่งของ Goyard ก็ต้องยกให้รุ่น Saint Louis Tote เท่านั้น !

น้ำหนักเบา ใส่ของได้เยอะ ถือขึ้นเครื่องก็เริ่ด เดินเล่นในเมืองก็ดู Effortless Chic ที่สุด วัสดุหลักคือ Goyardine Canvas ผ้าใบเคลือบลายโมโนแกรมที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวแบบไม่ซ้ำแบรนด์ไหนในโลก ดีไซน์เปิดโล่ง ไม่มีซิป ทำให้ใช้งานง่าย หยิบของสะดวกสุด ๆ

แม้จะดู Casual แต่ความจริงแล้วกระเป๋ารุ่นนี้ของ Goyard ถือเป็น “กระเป๋าเรือธง” ที่เหล่าแฟชั่นนิสต้าทั่วโลกมีติดตู้ เพราะมันคือ “Everyday Luxury” ที่ใช้งานจริงได้ อีกทั้งราคาขายต่อในตลาดมือสองก็ดีงามไม่แพ้ Chanel Classic เลยทีเดียว
กระเป๋า Goyard รุ่น Anjou Tote

2. Anjou Tote – เวอร์ชันหนังแท้ของ Saint Louis

สำหรับคนที่ชอบกระเป๋า Goyard รุ่น Saint Louis แต่ต้องการยกระดับความหรูหราขึ้นอีกนิด Anjou Tote คือคำตอบที่ลงตัว ! รุ่นนี้มีความพิเศษตรงที่เป็น Reversible Bag หรือกระเป๋าที่สามารถกลับด้านได้ ด้านหนึ่งเป็นลายโมโนแกรม Goyardine อันเป็นเอกลักษณ์ ส่วนอีกด้านเป็นหนังลูกวัวเรียบหรู ให้คุณได้สนุกกับการมิกซ์แอนด์แมตช์ลุคได้อย่างเต็มที่

กระเป๋า Goyard รุ่น Anjou จึงเปรียบเสมือนการได้กระเป๋าสองใบในหนึ่งเดียว และนี่คือความคุ้มค่าแบบ Two-In-One ที่แท้จริง ! ด้านนอกหรูหราด้วยหนังแท้คุณภาพเยี่ยม เมื่อกลับด้านก็ได้ลุคคลาสสิกของ Goyard ที่ใครเห็นก็ต้องจำได้ พร้อมทั้งมาพร้อมกับความทนทานที่มากกว่า Saint Louis ด้วยการเสริมความแข็งแรงจากหนังแท้
กระเป๋า Goyard รุ่น Artois Tote

3. Artois Tote – โครงสร้างแข็งแรง ตอบโจทย์สาวสายทำงาน

ถ้าคิดว่ากระเป๋า Goyard รุ่น Saint Louis ดูไม่เป็นทรง หย่อนย้วยไปหน่อย หรือไม่ตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวัน ต้องลอง Artois Tote กระเป๋าทรงโท้ตที่มีโครงสร้างแข็งแรงกว่ามาก แถมยังมาพร้อมซิปปิดเพื่อความปลอดภัยของทรัพย์สินภายใน

จุดเด่นของ Goyard Artois รุ่นนี้อยู่ที่ก้นกระเป๋าที่เสริมด้วยหนังแท้แข็งแรง ช่วยให้กระเป๋าตั้งได้โดยไม่ล้ม ไม่ต้องกังวลเรื่องของหล่นกระจาย และที่สำคัญคือกระเป๋ารุ่นนี้มีซิปปิดด้านบน ซึ่งเป็นสิ่งที่หลายคนมองหาเมื่อต้องใช้กระเป๋าในเมืองใหญ่หรือที่สาธารณะ

สำหรับสาวออฟฟิศ Artois คือคำตอบที่สมบูรณ์แบบ โดยสามารถใส่แล็ปท็อป เอกสาร และอุปกรณ์ทำงานได้อย่างเป็นระเบียบ ขณะเดียวกันก็ยังคงความ Chic และความเป็น Luxury Bag ที่พร้อมพาคุณไปงานดินเนอร์หลังเลิกงานได้อย่างไม่ขัดเขิน
กระเป๋า Goyard รุ่น Saigon

4. Saigon – กระเป๋าสุดหรูพร้อมดีเทลไม้สุดคลาสสิก

ใครที่อยากได้ Goyard รุ่นพิเศษที่ดูมีความเอกซ์คลูซีฟไม่ซ้ำใคร Saigon Bag คือตัวเลือกที่ควรค่าแก่การลงทุนอย่างยิ่ง ! รุ่นนี้โดดเด่นด้วยดีไซน์ทรงกล่องสุดคลาสสิกที่ได้แรงบันดาลใจจากหีบเดินทางโบราณของ Goyard พร้อมดีเทลไม้ที่เป็นเอกลักษณ์

กระเป๋า Goyard รุ่น Saigon ถือเป็นหนึ่งในรุ่นที่สะท้อนรากเหง้าของ Goyard ในฐานะผู้ผลิตหีบเดินทางชั้นสูง (Luxury Trunk Maker) ได้อย่างชัดเจนที่สุด ด้วยการผสมผสานงานฝีมือชั้นเยี่ยมกับวัสดุคุณภาพสูง ทั้งไม้ หนัง และผ้าใบ Goyardine อันเป็นเอกลักษณ์

กระเป๋า Saigon มีให้เลือกหลายดีไซน์ ทั้งเวอร์ชันไม้เต็ม (Trunk Style) และไม้เฉพาะด้านหน้า ใครที่ชอบกลิ่นอายวินเทจและความประณีตของงานฝีมือ จะตกหลุมรักใบนี้แบบถอนตัวไม่ขึ้นแน่นอน
กระเป๋า Goyard รุ่น Belvedere

5. Belvedere – กระเป๋าสะพายข้างที่ Unisex สุด ๆ

สำหรับคนที่มองหากระเป๋าสะพายข้างที่ใช้ได้ทั้งชายและหญิง Belvedere Bag คือคำตอบที่ลงตัว รุ่นนี้เป็น Crossbody ทรง Messenger ขนาดกำลังดี ไม่เล็กไม่ใหญ่เกินไป มีช่องเก็บของหลายช่อง และใช้ได้ในทุกโอกาส

กระเป๋า Goyard รุ่น Belvedere ได้รับความนิยมอย่างมากในกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบกระเป๋าทรง Practical แต่ยังคงความ High-End โดยเฉพาะผู้ชายที่มองหากระเป๋า Messenger Bag แบรนด์หรูที่ไม่ดูเป็นผู้หญิงจนเกินไป ขณะเดียวกันสาว ๆ ก็สามารถสะพาย Belvedere เพื่อลุคสปอร์ตชิคได้อย่างลงตัวเช่นกัน

จุดเด่นของ Belvedere อยู่ที่ความสารพัดประโยชน์ โดยคุณสามารถใส่ของจำเป็นได้พอดี ไม่ว่าจะเป็นกระเป๋าสตางค์ โทรศัพท์มือถือ กุญแจ และของใช้จิปาถะอื่น ๆ โดยที่กระเป๋ายังคงรูปทรงสวยงาม ไม่บวมหรือดูเทอะทะ
กระเป๋า Goyard รุ่นพิเศษวางอยู่ในตู้กระจก

ทำไมกระเป๋า Goyard ถึงมีมูลค่าสูงในตลาดมือสอง ?

หลายคนอาจสงสัยว่า ทำไม Goyard ถึงได้เป็นแบรนด์ที่ “เงียบแต่เริด” แถมยังขายต่อได้ราคาดีตลอดปี ? คำตอบอยู่ที่องค์ประกอบเหล่านี้:

  • ความหายากและการเข้าถึงยาก
    Goyard ไม่มีเว็บไซต์ช็อปออนไลน์ ไม่มี e-commerce เปิดขายทั่วโลก ต้องซื้อที่หน้าร้านทางการเท่านั้น และในหลาย ๆ เมืองก็ยังไม่มีสาขาอีกด้วย ทำให้กระเป๋าของแบรนด์นี้ “หายาก” แบบตั้งใจ และยิ่งหายาก ก็ยิ่งน่าครอบครอง
  • ประวัติศาสตร์อันยาวนานและเทคนิคการผลิตแบบดั้งเดิม
    แบรนด์ก่อตั้งตั้งแต่ปี 1853 และยังคงใช้เทคนิคแบบดั้งเดิมในการผลิต เช่น การทอผ้าใบเคลือบเองทีละชั้น หรือการทำงานหนังด้วยช่างฝีมือระดับ Haute Maroquinerie ทุกใบคือ Craftsmanship ล้วน ๆ
  • การขึ้นราคาต่อเนื่องของแบรนด์
    เช่นเดียวกับ Hermès และ Chanel, Goyard แทบทุกรุ่นก็มีการปรับราคาขึ้นเรื่อย ๆ อย่างสม่ำเสมอ ใบที่ซื้อเมื่อ 5 ปีก่อน ราคาปัจจุบันอาจพุ่งขึ้นหลักหมื่น ดังนั้นจึงเป็น Luxury Investment ที่ใช่ไม่แพ้กระเป๋าแบรนด์ใหญ่
  • กระแสความนิยมจากเซเลบริตีระดับโลก
    ตั้งแต่ Meghan Markle, Victoria Beckham ไปจนถึง Kanye West และ Pharrell William ต่างก็มี Goyard คนละหลายใบ การที่แบรนด์ไม่ต้องโฆษณาแต่ยังมีเหล่า A-lister ถือเดินถนน มันบอกได้เลยว่า Goyard คือ “ความคูลแห่งยุค” ที่ไม่ต้องพยายาม

เมื่อได้รู้แล้วว่ากระเป๋า Goyard มีรุ่นไหนฮิตบ้าง สำหรับใครที่สนใจกระเป๋า Goyard ของแท้สภาพนางฟ้า ที่ร้านกระเป๋าแบรนด์มือสอง BRANDNAME VOYAGE เรามีผู้เชี่ยวชาญด้านการตรวจสอบความแท้ พร้อมคัดสรรเฉพาะสินค้าแบรนด์เนมของแท้ 100% มีบริการรับซื้อ ขาย และฝากขาย พร้อมให้คำแนะนำโดยผู้เชี่ยวชาญด้านแบรนด์เนมโดยเฉพาะ

เลือกชมสินค้าได้แล้ววันนี้ที่เว็บไซต์ หรือเข้ามาที่หน้าร้านทั้ง 2 สาขาหลักของเรา ได้แก่ เซ็นทรัลพระราม 9, ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต และบริการรับซื้อที่เชียงใหม่ หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

 

ข้อมูลอ้างอิง

  1. Your Guide to the Top 5 Goyard Bags. สืบค้นเมื่อวันที่ 17 เมษายน 2568 จาก https://www.sothebys.com/en/articles/your-guide-to-the-top-5-goyard-bags
Posted on Leave a comment

กระเป๋า Celine ของแท้ดูยังไง ? รู้วิธีเช็กโคดและเลือกซื้อ

กระเป๋า Celine ของแท้ดูยังไง เลือกซื้อมั่นใจไม่โดนหลอก

Celine เป็นแบรนด์หรูที่ได้รับความนิยมอย่างมาก การลอกเลียนแบบก็มีจำนวนเพิ่มขึ้นและมีความใกล้เคียงของแท้มากยิ่งขึ้น ดังนั้น ใครที่อยากเป็นเจ้าของกระเป๋า Celine และอยากรู้ว่ากระเป๋า Celine ของแท้ดูยังไง บทความนี้จะแนะนำวิธีตรวจสอบความแท้ของกระเป๋า Celine และการอ่านรหัส Serial Number สำหรับผู้ที่สนใจซื้อกระเป๋า Celine มือสอง

กระเป๋า Celine ของแท้ดูยังไง มีวิธีตรวจสอบหลายวิธี

1. ประวัติแบรนด์ Celine

Celine ก่อตั้งขึ้นในปี 1945 โดย Céline Vipiana และ Richard Vipiana เริ่มต้นจากการเป็นร้านรองเท้าสำหรับเด็กในปารีส ก่อนที่จะขยายธุรกิจสู่กระเป๋าหนังและเครื่องประดับในปี 1960 แบรนด์นี้ได้พัฒนาขึ้นเรื่อย ๆ จนกลายเป็นแบรนด์หรูระดับโลกที่เน้นความเรียบง่ายแต่หรูหรา

ปัจจุบัน Celine อยู่ภายใต้การบริหารของกลุ่ม LVMH และได้รับการยอมรับในด้านงานฝีมือที่ประณีต วัสดุคุณภาพสูง และการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ การรู้จักประวัติของแบรนด์จะช่วยให้คุณเข้าใจลักษณะเฉพาะของกระเป๋า Celine ซึ่งสะท้อนมรดกทางวัฒนธรรมและความประณีตของแบรนด์

2. กระเป๋า Celine ของแท้ดูยังไง: วิธีตรวจสอบกระเป๋า Celine ของแท้

กระเป๋าซีลีนแท้ดูยังไง มีหลายวิธีที่ควรพิจารณาดังนี้

ตรวจสอบคุณภาพวัสดุและงานฝีมือ

  • หนังคุณภาพสูง : กระเป๋า Celine แท้ใช้หนังคุณภาพเยี่ยม ให้สัมผัสนุ่มแต่แข็งแรง
  • การเย็บ : รอยเย็บต้องเรียบสม่ำเสมอ ไม่มีการหลุดลุ่ย
  • ขอบกระเป๋า : เรียบร้อย ไม่มีรอยกาวเลอะ
  • น้ำหนัก : กระเป๋าของแท้มีน้ำหนักพอเหมาะ ไม่เบาเกินไป

ตรวจสอบโลโก้และตราประทับ

  • โลโก้ Celine : ตัวอักษรต้องคมชัด สม่ำเสมอ และได้สัดส่วน
  • การสะกดชื่อ : ตรวจสอบการสะกดให้ถูกต้อง (ปัจจุบันตัด accent บน “é” ออก ในยุค Hedi Slimane)
  • ตราประทับ “Made in Italy” : ต้องชัดเจนและสม่ำเสมอ
  • ตราประทับหนัง : ต้องประทับลึกพอดี ไม่ตื้นหรือลึกเกินไป

ตรวจสอบฮาร์ดแวร์

  • วัสดุ : ฮาร์ดแวร์ของ Celine แท้ทำจากโลหะคุณภาพดี มีน้ำหนัก
  • การเคลือบ : เรียบสม่ำเสมอ ไม่ลอกง่าย
  • ซิป : เคลื่อนที่ได้อย่างลื่นไหล มักมีโลโก้ Celine กำกับ
  • ปุ่มและตัวล็อก : ทำงานได้อย่างแม่นยำและคงทน

ตรวจสอบซับใน

  • วัสดุ : ซับในต้องทำจากวัสดุคุณภาพดี เช่น หนังกลับหรือผ้า
  • การเย็บ : เย็บเรียบร้อย ไม่มีรอยด้ายหลุด
  • ป้ายแบรนด์ภายใน : ชัดเจน อักษรได้สัดส่วน
  • กระเป๋าซิปด้านใน : มีการเย็บอย่างประณีต

3. วิธีอ่าน Serial Number และ Date Code ของกระเป๋า Celine

การเช็กโคดกระเป๋า Celine เป็นวิธีสำคัญในการยืนยันความแท้ โดยมีวิธีการเช็กในตำแหน่งต่าง ๆ ดังนี้

ตำแหน่งของ Serial Number

การรู้ตำแหน่งของรหัสช่วยในการอ่าน Serial Number ของกระเป๋า Celine เพื่อตรวจสอบความแท้ของกระเป๋าได้ง่ายขึ้น

  • กระเป๋ารุ่นเก่า : มักอยู่บนป้ายหนังด้านในกระเป๋า
  • กระเป๋ารุ่นใหม่ : อาจอยู่ที่รอยพับซับในหรือกระเป๋าซิปเล็กด้านใน
  • บางรุ่นอาจมี Serial Number ประทับลงบนหนังโดยตรง

รูปแบบของ Date Code

การอ่าน Date Code ของกระเป๋า Celine มี 2 รูปแบบหลัก ดังนี้

  1. รูปแบบเก่า (ก่อนปี 2010)
    • ประกอบด้วยตัวเลข 2 ชุด เช่น S-GA-0123
    • ตัวอักษรแรกแสดงถึงปีที่ผลิต (S = 2006)
    • ตัวอักษรคู่ที่สองแสดงโรงงานที่ผลิต
    • ตัวเลขท้ายอาจเป็นเดือนที่ผลิตและลำดับการผลิต
  2. รูปแบบใหม่ (หลังปี 2010)
    • ประกอบด้วยตัวเลข 1-2 ตัวตามด้วยตัวอักษร 2 ตัว และตัวเลขอีก 4 ตัว เช่น 2-CE-1234
    • ตัวเลขแรกแสดงปีที่ผลิต (2 = 2012)
    • ตัวอักษรคู่กลางแสดงโรงงานที่ผลิต (CE = Italy)
    • ตัวเลข 4 ตัวสุดท้ายแสดงสัปดาห์ที่ผลิตและรุ่นของกระเป๋า

การอ่าน Date Code แบบละเอียด

การอ่าน Date Code ของกระเป๋า Celine ให้ละเอียดต้องเข้าใจความหมายของแต่ละส่วน ได้แก่

ตัวเลขปี

  • 1 = 2011, 2 = 2012, 3 = 2013, ฯลฯ
  • U = 2005, V = 2006, W = 2007, ฯลฯ (รูปแบบเก่ามาก)

รหัสโรงงาน

  • CE, FL, GA = Italy
  • DU, DT = France
  • SA = Spain

การอ่าน Serial Number ของกระเป๋า Celine อย่างถูกต้องจะช่วยให้ทราบทั้งปีที่ผลิตและสถานที่ผลิต

การเปลี่ยนแปลงของ Serial Number

นับตั้งแต่ Hedi Slimane เข้ามาเป็นครีเอทีฟไดเรกเตอร์ (Creative Director) ในปี 2018 รูปแบบของรหัสมีการเปลี่ยนแปลงไป เช่น

  • ลบ accent บนตัว é ออกจากชื่อแบรนด์
  • ปรับรูปแบบ Serial Number ให้มีความซับซ้อนมากขึ้น
  • เพิ่มเทคโนโลยี RFID ในบางรุ่น

การอัปเดตความรู้เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้จะช่วยให้การเช็กโคดกระเป๋า Celine มีความแม่นยำมากขึ้น

กระเป๋าซีลีนแท้ดูยังไง อาจตรวจสอบเบื้องต้นจากวัสดุ กระเป๋าแท้ใช้หนังคุณภาพเยี่ยมไ

4. ข้อควรระวังในการซื้อกระเป๋า Celine มือสอง

ราคาที่ต่ำเกินจริง

หากราคาดูเหมือนจะดีเกินจริง มักจะมีอะไรที่ไม่ชอบมาพากล กระเป๋า Celine ของแท้มีมูลค่าสูง แม้เป็นมือสองก็ยังคงราคาในระดับหนึ่ง ราคาที่ต่ำผิดปกติควรเป็นสัญญาณเตือนว่ากระเป๋าใบนั้นอาจเป็นของเลียนแบบ

การขอดูรูปถ่ายรายละเอียด

ขอให้ผู้ขายส่งรูปถ่ายที่ชัดเจนของกระเป๋าจากหลายมุม รวมถึงรายละเอียดต่าง ๆ เช่น

  • รูปละเอียดของโลโก้
  • รูปป้าย Serial Number ให้เห็นชัดเจน
  • รูปฮาร์ดแวร์และรายละเอียดการเย็บ
  • รูปภายในกระเป๋า

การตรวจสอบประวัติผู้ขาย

ตรวจสอบความน่าเชื่อถือของผู้ขาย โดยการอ่านรีวิวจากลูกค้าคนอื่น ๆ และสอบถามเกี่ยวกับประวัติของกระเป๋า (ซื้อเมื่อไหร่ มีใบเสร็จหรือไม่) และระวังบัญชีผู้ขายที่เพิ่งสร้างใหม่

การขอใบรับรอง

กระเป๋า Celine ของแท้มาพร้อมกับการ์ดรับประกันสินค้า, ถุงผ้าสำหรับเก็บกระเป๋า (Dust bag) และกล่องแบรนด์ Celine (ในกรณีซื้อใหม่) โดยแม้ว่าการซื้อมือสองอาจไม่มีอุปกรณ์เสริมครบ แต่การมีใบรับรองหรือใบเสร็จจะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือ

การสังเกตกลิ่น

กระเป๋าของแท้จะมีกลิ่นหนังแท้ ไม่มีกลิ่นพลาสติกหรือกลิ่นเคมีฉุน หากมีกลิ่นผิดปกติอาจเป็นสัญญาณของกระเป๋าปลอม

 

หากสนใจสินค้าแบรนด์ Celine สามารถเลือกซื้อกระเป๋า Celine มือสองของแท้คุณภาพดี ที่ BRANDNAME VOYAGE เรามีผู้เชี่ยวชาญด้านการตรวจสอบความแท้ พร้อมคัดสรรเฉพาะสินค้าแบรนด์เนมของแท้ 100% มีบริการรับซื้อ ขาย และฝากขาย พร้อมให้คำแนะนำโดยผู้เชี่ยวชาญด้านแบรนด์เนมโดยเฉพาะ

เลือกชมสินค้าได้แล้ววันนี้ที่เว็บไซต์ หรือเข้ามาที่หน้าร้านทั้ง 2 สาขาหลักของเรา ได้แก่ เซ็นทรัลพระราม 9, ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต และบริการรับซื้อที่เชียงใหม่ หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

ข้อมูลอ้างอิง

  1. How to Authenticate A Celine Handbag. สืบค้นเมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2568 จาก https://lovethatbagetc.com/blogs/the-preloved-pages/how-to-authenticate-a-celine-handbag
Posted on Leave a comment

เฉลยวิธีเช็ก Date Code กระเป๋าหลุยส์ สำหรับนักสะสมมือใหม่

How-to ตรวจสอบ Date Code ในกระเป๋า LV

หากจะกล่าวถึงแบรนด์กระเป๋าระดับโลก อันเป็นสัญลักษณ์แห่งความหรูหราและบ่งบอกถึงรสนิยมเหนือระดับ “Louis Vuitton” น่าจะเป็นชื่อแรก ๆ ที่หลายคนนึกถึง ทว่าด้วยความนิยมที่ไม่มีเสื่อมคลายตลอดเวลาที่ผ่านมานี้ ทำให้กระเป๋าหลุยส์ตกเป็นเป้าหมายของการทำสินค้าปลอมแปลงอยู่เสมอ ซึ่งแน่นอนว่าการตรวจสอบความแท้ของกระเป๋ากลายเป็นสิ่งที่ทำให้หลายคนกังวลใจเวลาซื้อกระเป๋ามือสอง แต่โชคดีที่เรายังมีตัวช่วยที่เรียกว่า “Date Code” หรือรหัสกระเป๋าหลุยส์ ซึ่งเป็นระบบที่ Louis Vuitton ใช้มาหลายทศวรรษเพื่อบันทึกสถานที่และช่วงเวลาที่กระเป๋าแต่ละใบได้รับการผลิตขึ้น

ผู้หญิงใช้กระเป๋าหลุยส์ที่ผ่านการตรวจสอบ Date Code LV แล้วโดยผู้เชี่ยวชาญ

ความสำคัญของ Date Code (DC) ในกระเป๋า Louis Vuitton

Date Code เปรียบเสมือนบัตรประจำตัวของกระเป๋าแต่ละใบ โดยเป็นชุดตัวอักษรและตัวเลขที่ Louis Vuitton ใช้เพื่อบ่งบอกถึงสถานที่และวันที่ผลิตของสินค้า แม้จะไม่ใช่หมายเลขซีเรียลหรือระบบลงทะเบียนแบบที่บางแบรนด์ใช้ แต่การเช็ก Date Code ของกระเป๋า LV ก็ถือเป็นข้อมูลที่มีประโยชน์ในการยืนยันความแท้ และช่วยประเมินมูลค่าของสินค้าในตลาดมือสองได้ ให้คุณเลือกซื้อกระเป๋า Louis Vuitton มือสองที่คุ้มค่าและมั่นใจได้มากยิ่งขึ้น

วิวัฒนาการของ Date Code ในกระเป๋า LV

  • ก่อนปี 1980 กระเป๋าที่ผลิตในช่วงนี้จะไม่มีการประทับ Date Code อย่างเป็นระบบ เนื่องจากยังไม่ได้มีมาตรฐานสำหรับรหัสการผลิต
  • ปี 1980-1989 เริ่มมีการใช้รหัสที่ประกอบด้วยตัวเลข 3 หรือ 4 หลัก เพื่อระบุเดือนและปีที่ผลิต เช่น 842 หมายถึงเดือนกุมภาพันธ์ ปี 1984
  • ปี 1990-2006 รูปแบบของ Date Code เปลี่ยนเป็นตัวอักษร 2 ตัว ตามด้วยตัวเลข 4 หลัก โดยตัวอักษรแสดงถึงสถานที่ผลิต และตัวเลขแสดงเดือนและปีที่ผลิต
  • ตั้งแต่ปี 2007 เป็นต้นไป รูปแบบยังคงเป็นตัวอักษร 2 ตัว ตามด้วยตัวเลข 4 หลัก แต่ตัวเลขแสดงถึงสัปดาห์และปีที่ผลิต

วิธีเช็ก Date Code ของกระเป๋าหลุยส์

กระเป๋าหลุยส์ที่ผลิตระหว่างปี 1990-2006

  • ตัวอักษร 2 ตัวแรก ระบุสถานที่ผลิต
  • ตัวเลข 4 หลัก ตัวเลขหลักที่ 1 และ 3 ระบุเดือนที่ผลิต ตัวเลขหลักที่ 2 และ 4 ระบุปีที่ผลิต
  • ตัวอย่างเช่น VI 0928 หมายถึง ผลิตในฝรั่งเศส (VI) เดือนกุมภาพันธ์ (02) ปี ค.ศ. 1998 (98)

กระเป๋าหลุยส์ที่ผลิตปี 2007 เป็นต้นมา

  • ตัวอักษร 2 ตัวแรก ระบุสถานที่ผลิต
  • ตัวเลข 4 หลัก ตัวเลขหลักที่ 1 และ 3 ระบุสัปดาห์ที่ผลิต ตัวเลขหลักที่ 2 และ 4 ระบุปีที่ผลิต
  • ตัวอย่างเช่น SP1029 หมายถึง ผลิตในฝรั่งเศส (SP) สัปดาห์ที่ 12 (12) ปี ค.ศ. 2009 (09)

เช็กเลข DC หลุยส์ ต้องรู้รหัสสถานที่ผลิต (Factory Code) ด้วย !

ตัวอักษร 2 ตัวแรกใน DC ของ Louis Vuitton มีความหมายถึงโรงงานที่ผลิตกระเป๋า ซึ่งกระจายอยู่ในหลายประเทศ โดยสามารถจำแนกได้ดังนี้

ฝรั่งเศส (France)

A0, A1, A2, AA, AN, AR, AS, AX, BA, BJ, BU, CT, DR, DU, ET, FL, GR, LW, MB, MS, MI, NO, RA, RI, SA, SD, SF, SL, SN, SP, SR, TA, TH, TJ, TN, TR, TS, VI

สหรัฐอเมริกา (USA)

FC, FH, LA, OS, SD

สเปน (Spain)

CA, CR, GI, LB, LM, LO, LW

อิตาลี (Italy)

BO, CE, FO, MA, NQ, PL, RC, RE, RO, ST, TD

สวิตเซอร์แลนด์ (Switzerland)

DI, FA

เยอรมนี (Germany)

LP

ผู้หญิงตรวจสอบว่ากระเป๋าที่ซื้อมามี DC Louis Vuitton หรือไม่

ข้อควรพิจารณาในการตรวจสอบ Date Code ในกระเป๋า LV

แม้ว่า Date Code จะเป็นองค์ประกอบสำคัญในการตรวจสอบความแท้ของกระเป๋า Louis Vuitton แต่ก็ยังมีข้อจำกัดที่ควรคำนึงถึง ดังนี้

  • กระเป๋าบางรุ่น โดยเฉพาะที่มีซับในเป็นหนังกลับหรือกำมะหยี่ อาจพบว่า Date Code จางหายไปตามกาลเวลา ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติ ไม่ควรรีบสรุปว่าเป็นของปลอม
  • ตำแหน่งของ Date Code Louis Vuitton อาจแตกต่างกันไปตามแต่ละรุ่นและแต่ละปี แม้กระทั่งกระเป๋ารุ่นเดียวกัน ก็อาจมีตำแหน่งของรหัสไม่ตรงกัน ขึ้นอยู่กับโรงงานที่ผลิต
  • ของปลอมก็อาจมี Date Code ได้เช่นกัน ! ดังนั้น การดูเพียงรหัสกระเป๋าหลุยส์อย่างเดียวไม่เพียงพอ ควรพิจารณาเพิ่มเติมจากคุณภาพของวัสดุ การเย็บ และรายละเอียดอื่น ๆ เช่น ลาย Monogram สีของซิป ซับใน หรือการจัดวางตัวอักษรร่วมด้วย

หากคุณกำลังมองหากระเป๋า Louis Vuitton สักใบเพื่อเติมเต็มลุคให้ดูหรูหราและมีสไตล์ แต่ยังต้องการความคุ้มค่าในงบประมาณที่เอื้อมถึง BRANDNAME VOYAGE เป็นร้านขายกระเป๋าแบรนด์เนมมือสองที่คัดสรรสินค้าระดับพรีเมียมมาเพื่อคนรักแบรนด์เนมโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นกระเป๋า LV สำหรับผู้ชายหรือผู้หญิง รวมไปถึงไอเทมอื่น ๆ อย่างเข็มขัด กำไล รองเท้า และสินค้าหายากที่ไม่ได้ผลิตแล้ว คุณสามารถเป็นเจ้าของสินค้าหรูเหล่านี้ได้ในราคาที่สมเหตุสมผล พร้อมการันตีความแท้ 100% โดยทีมผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ยาวนาน

นอกจากจะเป็นแหล่งรวมกระเป๋าแบรนด์เนมที่ตอบโจทย์นักสะสมแล้ว BRANDNAME VOYAGE ยังให้บริการรับซื้อ Louis Vuitton และฝากขายแบบครบวงจร หากคุณต้องการปล่อยกระเป๋าใบเก่าเพื่ออัปเกรดเป็นรุ่นใหม่ หรือต้องการเปลี่ยนไอเทมแบรนด์เนมเป็นเงินสด เราพร้อมให้ราคาที่เป็นธรรม ด้วยกระบวนการตรวจสอบที่โปร่งใส รวดเร็ว และสะดวกสบาย โดยมีทีมงานคอยให้คำปรึกษาในทุกขั้นตอน ไม่ว่าคุณจะเป็นนักสะสมมือใหม่หรือผู้ที่ต้องการลงทุนในสินค้า Luxury

เริ่มต้นประสบการณ์ช็อปปิงและซื้อขายแบรนด์เนมกับเราได้แล้ววันนี้ ทั้งทางออนไลน์และที่หน้าร้านของเราทั้ง 2 สาขาหลักที่ G Tower ชั้น B (ทางเชื่อมเซ็นทรัลพระราม 9) และ Future Park รังสิต ชั้น 1 โซน Robinson และบริการรับซื้อที่เชียงใหม่ หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

ข้อมูลอ้างอิง

  1. Louis Vuitton Product Code Authenticator. สืบค้นเมื่อวันที่ 17 เมษายน 2568 จาก https://www.lvcodecalc.com/.
Posted on Leave a comment

ขายขาดหรือฝากขายกระเป๋าแบรนด์เนม ทางเลือกไหนเหมาะกับคุณ

การฝากขายกระเป๋าแบรนด์เนม VS การขายขาด

ข้อดีของการฝากขายกระเป๋า Brandname
กระเป๋าแบรนด์เนมไม่ได้เป็นเพียงไอเทมที่ช่วยเสริมลุคการแต่งกายให้ดูงดงามและสมบูรณ์แบบมากขึ้นเท่านั้น แต่ยังเป็นสินทรัพย์ที่สามารถเปลี่ยนเป็นเงินสดได้ในเวลาที่ต้องการ ซึ่งเราสามารถปล่อยกระเป๋าได้ด้วย 2 วิธีหลัก ๆ คือ การขายขาด และ การฝากขาย หากใครที่สนใจปล่อยกระเป๋าแบรนด์เนมใบสวยเพื่อนำเงินที่ได้ไปต่อยอด แต่ไม่แน่ใจว่าจะเลือกวิธีไหนดี บทความนี้จะช่วยอธิบายความแตกต่างของการขายขาดและการฝากขายกระเป๋าแบรนด์เนม เพื่อให้คุณเลือกวิธีที่ตรงกับความต้องการมากที่สุด

การขายขาดกระเป๋าแบรนด์เนมคืออะไร ?

การขายขาดกระเป๋าแบรนด์เนม คือ การนำกระเป๋าไปขายให้ร้านรับซื้อแบรนด์เนมโดยตรงในลักษณะ “เปลี่ยนเป็นเงินสดทันที” ซึ่งหมายความว่า เมื่อเจ้าของกระเป๋านำสินค้ามาให้ประเมินราคาที่ร้าน และตกลงซื้อขายกันเรียบร้อยแล้ว ก็จะได้รับเงินสดหรือเงินโอนในวันนั้นทันที โดยร้านจะเป็นผู้รับไปดูแลเรื่องการขายต่อให้เองทั้งหมด

วิธีนี้ถือเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์สำหรับผู้ที่ต้องการเปลี่ยนกระเป๋าแบรนด์เนมเป็นเงินสดในเวลาสั้น ๆ หรือไม่สะดวกดูแลการขายเอง

ขั้นตอนการขายขาด

  1. เจ้าของกระเป๋านำสินค้าเข้ามาให้ร้านตรวจสอบสภาพ
  2. ร้านประเมินราคาตามรุ่น ความนิยม และสภาพสินค้า
  3. เมื่อตกลงราคา เจ้าของจะได้รับเงินทันที
  4. ร้านจะนำกระเป๋าไปทำความสะอาดเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับนำไปขายต่อ

ข้อดีของการขายขาด

  • ได้รับเงินทันทีหลังจากขาย
  • ไม่ต้องเสียเวลาหาลูกค้าเอง
  • ไม่ต้องติดตามสถานะการขาย
  • สะดวกรวดเร็ว จบการขายได้ทันที

เหมาะสำหรับ :

  • ผู้ที่ต้องการเงินด่วน เช่น เพื่อนำไปใช้ในกรณีฉุกเฉิน
  • ผู้ที่ไม่มีเวลา หรือไม่มีความเชี่ยวชาญในการขายสินค้าแบรนด์เนมด้วยตัวเอง
  • ผู้ที่ต้องการปล่อยสินค้าออกจากมือแบบเร่งด่วน

การฝากขายกระเป๋า Brandname คืออะไร ?

การฝากขายกระเป๋าแบรนด์เนม คือ การนำกระเป๋าไปฝากไว้กับร้านรับฝากขายแบรนด์เนม เพื่อให้ร้านเป็นผู้ดำเนินการขายต่อให้ทั้งหมด โดยร้านจะทำหน้าที่เสมือนตัวแทน ทั้งในการตั้งราคาตามกลไกตลาด ดูแลเรื่องการทำการตลาด รวมถึงรับผิดชอบในการติดต่อและปิดการขายกับลูกค้า เมื่อกระเป๋าขายได้แล้ว ร้านจะหักค่าบริการตามที่ตกลงไว้ ก่อนโอนเงินส่วนที่เหลือให้กับเจ้าของกระเป๋า
วิธีนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการจัดการขายเอง และต้องการให้มืออาชีพดูแลกระบวนการแทนทุกขั้นตอน

ขั้นตอนการฝากขายกระเป๋า

  1. เจ้าของกระเป๋านำสินค้ามาให้ร้านตรวจสอบสภาพ
  2. ร้านและเจ้าของตกลงราคาขาย โดยยึดตามราคาตลาด
  3. ร้านทำการตลาด โปรโมต และขายกระเป๋าผ่านช่องทางต่าง ๆ
  4. เมื่อกระเป๋าขายได้ ร้านจะหักค่าบริการ และโอนเงินส่วนที่เหลือให้เจ้าของ

ข้อดีของการฝากขายกระเป๋า

  • มีโอกาสได้ราคาสูงกว่าการขายขาด เพราะร้านไม่ต้องรับความเสี่ยง
  • ร้านมีฐานลูกค้าและทีมงานขายมืออาชีพ ทำให้ขายได้เร็วกว่าโพสต์เอง
  • ไม่ต้องจัดการหรือตอบลูกค้าเอง ร้านจะดูแลให้ครบทุกขั้นตอน
  • มีการทำการตลาดในหลายช่องทาง ช่วยเพิ่มโอกาสในการขาย

เหมาะสำหรับ :

  • ผู้ที่ต้องการขายกระเป๋าให้ได้ราคาสูงสุด
    ผู้ที่ไม่รีบใช้เงิน และต้องการให้ร้านดูแลทุกขั้นตอนของการขายแทน

ฝากขายกระเป๋าแบรนด์เนมดีกว่าขายเองอย่างไร

ฝากขายกระเป๋า VS ขายเอง แบบไหนดีกว่ากัน ?

นอกจากความแตกต่างระหว่างการขายขาดกับการฝากขายแล้ว สำหรับใครที่กำลังลังเลว่า เราควรขายกระเป๋าเองดีไหม และการฝากขายกระเป๋าดีกว่าขายเองอย่างไร ชวนมาทำความเข้าใจถึงจุดเด่นของการขายทั้ง 2 ประเภท ดังนี้

ขายเอง

  • สามารถกำหนดราคาได้เอง
  • เหมาะกับคนที่มีเวลาในการถ่ายรูป โพสต์ขาย และพูดคุยกับคนซื้อ
  • เหมาะกับคนที่มีความรู้เรื่องสินค้าแบรนด์เนม

ฝากขายกระเป๋า

  • ร้านเป็นผู้ดูแลทุกขั้นตอน ตั้งแต่โปรโมตจนถึงปิดการขาย
  • มีทีมงานมืออาชีพและฐานลูกค้าพร้อมซื้อ
  • เหมาะกับคนไม่มีเวลา หรือไม่ถนัดขายของเอง

ทำไมต้องฝากขายกระเป๋าแบรนด์เนมกับ BRANDNAME VOYAGE

หากต้องการขายกระเป๋าแบรนด์เนมให้ได้ราคาดี และไม่ต้องเสียเวลาจัดการเอง การฝากขายกับ BRANDNAME VOYAGE เป็นทางเลือกที่เหมาะสมที่สุด

ข้อดีของการฝากขายกับ BRANDNAME VOYAGE

  • ฐานลูกค้าขนาดใหญ่ ทำให้โอกาสขายออกไว
  • ร้านช่วยโปรโมตกระเป๋าผ่านช่องทางออนไลน์และแพลตฟอร์มต่าง ๆ
  • ระบบโปร่งใส อัปเดตสถานะการขายให้ลูกค้าทราบ
  • ได้รับเงินแน่นอน

สำหรับผู้ที่ต้องการฝากขายกระเป๋าแบรนด์เนม สามารถปรึกษาได้ที่ BRANDNAME VOYAGE ศูนย์กลางในการแลกเปลี่ยนและรับซื้อแบรนด์เนมทุกประเภท พร้อมให้บริการด้วยความจริงใจและเข้าใจที่สุด ด้วยความเชี่ยวชาญในสินค้าแบรนด์เนมอันดับ 1 เราการันตีในราคาที่เป็นธรรมสำหรับทุกท่านอย่างแท้จริง

โดยตอนนี้ BRANDNAME VOYAGE มีทั้งหมด 2 สาขาหลัก ได้แก่ เซ็นทรัลพระราม 9, ฟิวเจอร์ปาร์ครังสิต และบริการรับซื้ออย่างเดียวที่เชียงใหม่ สามารถเลือกไปใช้บริการได้ตามสะดวก หรือสอบถามได้เลยที่

ข้อมูลอ้างอิง

  1. How Does Luxury Handbag Trading and Consignment Work?. สืบค้นเมื่อวันที่ 17 เมษายน 2568 จาก https://shopluxuryinreach.com/kb/how-does-luxury-handbag-trading-and-consignment-work/#:~:text=Luxury%20handbag%20consignment%20refers%20to,selling%20process%20on%20their%20behalf.
Posted on Leave a comment

ไกด์การอ่าน Hermès Stamp เช็กของแท้ให้มั่นใจก่อนลงทุน

Hermès Stamp Guide คู่มือไม่ลับสำหรับนักสะสมของแบรนด์

คุณเคยสงสัยไหมว่าทำไมกระเป๋า Hermès ถึงได้รับความนิยมและมีมูลค่าสูงในตลาดแฟชั่นระดับโลก? หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้สินค้าจากแบรนด์หรูมีความพิเศษคือ ความเป็นของแท้ ซึ่งสามารถตรวจสอบได้จาก Hermès Stamp หรือตราประทับที่ปรากฏบนสินค้า การเรียนรู้วิธีอ่านและทำความเข้าใจ Hermès Stamp Guide จึงเป็นทักษะสำคัญที่จะช่วยให้นักสะสมสามารถแยกแยะสินค้าแท้จากของปลอม และปกป้องการลงทุนของคุณในไอเทมหรูที่มีมูลค่าสูง

กระเป๋าถือของแท้ ตรวจสอบด้วยการสังเกต Hermès Stamp

Hermès Stamp คืออะไร ? ทำไมต้องเช็กก่อนซื้อ ?

Hermès Stamp คือรหัสที่มีการออกแบบมาโดยเฉพาะเพื่อใช้ระบุข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับสินค้าหนังของแบรนด์ Hermès ไม่ว่าจะเป็นปีที่ผลิต สถานที่ผลิต หรือแม้กระทั่งรหัสของช่างฝีมือผู้สร้างสรรค์สินค้าชิ้นนั้น ๆ โดยเฉพาะสินค้ายอดนิยมอย่างกระเป๋ารุ่น Birkin, Kelly และ Constance ซึ่งถือเป็นสินค้าระดับไอคอนที่นักสะสมทั่วโลกรู้จักกันดี

เหตุผลที่ควรตรวจสอบ Hermès Stamp ก่อนตัดสินใจซื้อ เพราะตราประทับนี้สามารถบอกข้อมูลสำคัญที่ช่วยยืนยันว่า สินค้าชิ้นนี้ผ่านการผลิตจากโรงงานของ Hermès จริง ๆ ไม่ใช่สินค้าลอกเลียนแบบที่ถูกผลิตขึ้นโดยไม่ได้รับอนุญาต และในวงการแบรนด์เนมมือสอง Hermès Stamp ยังทำหน้าที่เป็นตัวช่วยสำคัญในการประเมินความน่าเชื่อถือของสินค้าอีกด้วย

เพราะสิ่งนี้ไม่เพียงแต่เป็นตัวระบุปีและที่มาของสินค้าเท่านั้น แต่ยังช่วยสร้างความมั่นใจให้ผู้ซื้อว่า สินค้าที่เลือกซื้อนั้นมีความถูกต้องตามมาตรฐาน และคงคุณค่าในการสะสมไปในระยะยาว นอกจากนี้ รหัสที่ประทับอยู่บนสินค้าจะทำให้ผู้ซื้อสามารถติดตามที่มาของกระเป๋า และตรวจสอบประวัติการดูแลรักษาของสินค้าชิ้นนั้นได้อย่างละเอียด ช่วยลดความเสี่ยงจากการถูกหลอกลวงในตลาดแบรนด์เนมมือสองได้เป็นอย่างดี

วิธีอ่าน Hermès Stamp เข้าใจรหัสและสัญลักษณ์

การอ่าน Hermès Stamp คือการทำความเข้าใจรูปแบบของรหัสและสัญลักษณ์ที่ปรากฏอยู่บนสินค้า ซึ่งจะประกอบไปด้วยปีที่ผลิต สถานที่ผลิต และรหัสของช่างฝีมือ พร้อมช่วยให้ผู้ซื้อสามารถตรวจสอบที่มาและความถูกต้องของกระเป๋าได้อย่างแม่นยำ โดยการอ่าน Hermès Stamp สามารถทำได้ง่าย ๆ ผ่านแนวทางต่อไปนี้

1. ตัวอักษร Date Stamp

เป็นรหัสหลักที่ Hermès Stamp Year ใช้สำหรับระบุปีที่ผลิตสินค้า โดยรหัสนี้จะใช้ตัวอักษรภาษาอังกฤษ และจะกำหนดลักษณะการวางไว้แตกต่างกันไปในแต่ละช่วงปี เช่น บางช่วงจะมีกรอบล้อมรอบ บางช่วงจะเป็นตัวอักษรเดี่ยว

2. รูปแบบกรอบของรหัส

ตัวอักษรใน Hermès Stamp อาจอยู่ภายในกรอบสี่เหลี่ยมหรือวงกลม หรืออาจไม่มีกรอบเลย ขึ้นอยู่กับช่วงปีที่ผลิต การสังเกตลักษณะนี้ช่วยยืนยันอายุของสินค้าได้เบื้องต้น

3. รหัสช่างฝีมือและโรงงาน

นอกจากรหัสปีแล้ว บางครั้งบน Hermès Stamp ยังประกอบด้วยตัวอักษรหรือตัวเลขเพิ่มเติม ซึ่งใช้ระบุรหัสช่างฝีมือหรือโรงงานผลิตที่ดูแลกระเป๋าใบนั้น ช่วยให้ตรวจสอบย้อนกลับได้ในกรณีที่ต้องส่งซ่อมหรือประเมินมูลค่า

รหัสปีผลิต Hermès Stamp Year บอกอะไรเกี่ยวกับสินค้า ?

Hermès Stamp มีบทบาทสำคัญในการระบุปีที่ผลิตสินค้า ซึ่งช่วยให้นักสะสมสามารถประเมินมูลค่าและความหายากของกระเป๋าได้อย่างแม่นยำ โดยลักษณะของรหัสปีจะแบ่งออกเป็นช่วงเวลา ดังนี้

  • ก่อนปี 1971 : สินค้าจาก Hermès ในช่วงนี้จะยังไม่มีการใช้รหัสปีบนสินค้า เพราะในสมัยนั้นแบรนด์ยังไม่ได้กำหนดมาตรฐานการประทับตราเพื่อระบุปีผลิตเหมือนในปัจจุบัน
  • ปี 1971-1996 : ช่วงนี้ Hermès เริ่มนำตัวอักษรภาษาอังกฤษ A-Z มาใช้บอกปีที่ผลิต โดยตัวอักษรจะอยู่ในลักษณะเดี่ยว ไม่มีกรอบ เช่น A หมายถึงปี 1971, B หมายถึงปี 1972 ไล่เรียงตามลำดับตัวอักษร
  • ปี 1997-2014 : Hermès มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบรหัส โดยเพิ่มกรอบสี่เหลี่ยมล้อมรอบตัวอักษร เช่น “[A]” หมายถึงปี 1997, “[B]” หมายถึงปี 1998 การเปลี่ยนรูปแบบนี้ช่วยลดโอกาสการปลอมแปลงและเพิ่มความง่ายในการตรวจสอบ
  • ปี 2015 เป็นต้นไป : รูปแบบรหัสเปลี่ยนไปอีกครั้ง โดยใช้ตัวอักษรสองตัว เช่น “AA” แทนปีผลิต แทนที่รูปแบบเก่าเพื่อให้รหัสมีความเฉพาะตัวมากขึ้น และลดความสับสนที่อาจเกิดจากการใช้ตัวอักษรซ้ำในช่วงปีก่อนหน้า

แน่นอนว่าการตรวจสอบ Hermès Stamp Year นอกจากช่วยระบุอายุของสินค้าแล้ว ยังส่งผลโดยตรงต่อมูลค่าในการซื้อขายในตลาดมือสองแบรนด์เนม เพราะยิ่งกระเป๋าอยู่ในช่วงปีหายาก หรือเป็นปีพิเศษ ราคาก็จะสูงตามความนิยมของนักสะสมทั่วโลก

ตำแหน่งของ Hermès Stamp ดูตรงไหนได้บ้าง ?

Stamp ของ Hermès ดูตรงไหน บอกพิกัดการสังเกตสัญลักษณ์

สำหรับคนที่สงสัยว่า Stamp ของ Hermès ดูตรงไหนได้บ้าง แนะนำให้ศึกษาเป็นรุ่น ๆ กันไป เพราะ Hermès Stamp จะประทับในตำแหน่งที่แตกต่างกันตามชนิดของสินค้า ซึ่งบางครั้งอาจต้องใช้ความละเอียดและแสงไฟช่วยในการมองหา เนื่องจากรอยประทับอาจมีขนาดเล็กหรือจางจากการใช้งาน ยกตัวอย่างเช่น

  • สำหรับกระเป๋ารุ่น Birkin และ Kelly : ตราประทับจะอยู่บริเวณด้านในของหูจับใกล้กับตะขอ ซึ่งถือเป็นจุดที่ปลอดภัยจากการเสียดสีและการสึกหรอ
  • สำหรับกระเป๋ารุ่นอื่น ๆ : อาจพบตราประทับที่บริเวณด้านในของฝาปิด หรือขอบด้านข้างของกระเป๋า ขึ้นอยู่กับการออกแบบของแต่ละรุ่นและช่วงเวลาการผลิต
  • เข็มขัดและเครื่องหนังขนาดเล็ก : ตราประทับมักจะอยู่ด้านในของสายหนังหรือด้านหลังของตัวผลิตภัณฑ์ เพื่อป้องกันการเลือนหายระหว่างใช้งาน

โดยตำแหน่งของตราประทับนี้ออกแบบมาให้สอดคล้องกับลักษณะของสินค้า เพื่อให้ข้อมูลสำคัญนี้ปลอดภัยจากความเสียหายและง่ายต่อการตรวจสอบสำหรับนักสะสมและผู้เชี่ยวชาญ

Hermès Stamp Guide คู่มือเช็กตราประทับเพื่อยืนยันของแท้

Hermès Stamp ไม่ใช่แค่เครื่องหมายธรรมดา แต่ถือเป็นด่านแรกที่ช่วยให้ผู้ซื้อสามารถมั่นใจได้ว่าสินค้าชิ้นนั้นเป็นของแท้หรือไม่ โดยการตรวจสอบที่ถูกต้องควรเริ่มต้นจากการเช็กความสอดคล้องระหว่างรหัสปีผลิตกับลักษณะของสินค้า เช่น สีหนัง รูปแบบฮาร์ดแวร์ และดีไซน์ของกระเป๋า

นอกจากนี้ยังควรใช้แหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ เช่น เว็บไซต์ของกลุ่มนักสะสม Hermès, คู่มือรหัสปีจาก Hermès Community หรือสอบถามผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ในวงการแบรนด์เนมมือสองโดยตรง เพื่อยืนยันว่ารหัสที่พบตรงกับข้อมูลจริง

ที่สำคัญควรตรวจสอบองค์ประกอบอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น ลายเย็บที่ต้องสม่ำเสมอ คุณภาพของหนังที่ต้องมีความเนียนแน่น กลิ่นหนังแท้ที่ไม่ฉุนสารเคมี รวมถึงฮาร์ดแวร์ที่ต้องมีความแข็งแรง น้ำหนักสมดุลกับตัวกระเป๋า ทุกจุดล้วนมีผลต่อการยืนยันว่ากระเป๋าใบนั้นเป็นของแท้หรือไม่

สำหรับผู้ที่เป็นนักสะสม Hermès และต้องการปล่อยสินค้ามือสอง ของแท้ มี Hermès Stamp รับรอง และมองหาร้านรับซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมที่ไว้ใจได้ BRANDNAME VOYAGE คือคำตอบ เพราะเราเป็นศูนย์กลางซื้อขายสินค้าแบรนด์เนมมือสองอันดับ 1 ที่ให้ทั้งราคายุติธรรม พร้อมบริการรับซื้อ ขาย และฝากขาย รวมถึงการให้คำแนะนำโดยผู้เชี่ยวชาญด้านแบรนด์เนมโดยเฉพาะ

เลือกชมสินค้าหรือติดต่อขายกระเป๋าแบรนด์แท้ได้แล้ววันนี้ที่เว็บไซต์ รวมถึงที่หน้าร้านทั้ง 2 สาขาหลักของเรา ได้แก่ เซ็นทรัลพระราม 9, ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต และบริการรับซื้อที่เชียงใหม่ หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

 

ข้อมูลอ้างอิง

  1. The Ultimate Guide to Hermès Date Stamps: History, Types, and Authentication. สืบค้นเมื่อวันที่ 15 เมษายน 2568 จาก https://www.xupes.com/blog/post/the-ultimate-guide-to-hermes-date-stamps-history-types-and-authentication#:~:text=Herm%C3%A8s%20date%20stamps%20are%20unique,used%20to%20create%20the%20piece.
Posted on Leave a comment

4 เหตุผลที่ Gucci Dionysus ขนาด Mini ครองใจสาว ๆ ทั่วโลก

เหตุผลที่ทำให้กระเป๋า Gucci Dionysus Mini ได้รับความนิยมมาก

หากพูดถึงกระเป๋าที่เป็นเอกลักษณ์และครองใจแฟชั่นนิสต้าทั่วโลก Gucci Dionysus รุ่นขนาดกระเป๋าไซซ์ Mini ถือเป็นอีกหนึ่งรุ่นที่ได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม ด้วยดีไซน์อันโดดเด่น ขนาดกะทัดรัด และความหรูหราที่สามารถใช้ได้ในทุกโอกาส บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับเสน่ห์ของ Gucci Dionysus Mini ที่ทำให้ใครหลายคนตกหลุมรัก

กระเป๋า Gucci Dionysus ขนาด Mini มาพร้อมสายสะพาย

จุดกำเนิดของ Gucci Dionysus

Gucci Dionysus เปิดตัวครั้งแรกในคอลเลกชัน Fall/Winter 2015 ภายใต้การออกแบบของ Alessandro Michele โดยได้รับแรงบันดาลใจจากเทพ Dionysus เทพเจ้าแห่งไวน์และความรื่นรมย์ในตำนานกรีก กระเป๋ารุ่นนี้จึงมีดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ โดยเฉพาะตัวล็อกรูปหัวเสือที่สื่อถึงความสง่างามและความแข็งแกร่ง

Alessandro Michele ครีเอทีฟไดเรกเตอร์ของ Gucci ในปี 2015 ได้นำเอากลิ่นอายของความคลาสสิกผสมผสานกับความทันสมัยและความกล้าทางศิลปะมาใช้ในการออกแบบ ตัวล็อกรูปหัวเสือสองหัวนั้นไม่เพียงแต่เป็นสัญลักษณ์ที่แสดงถึงเทพไดโอนีซุสเท่านั้น แต่ยังสื่อถึงการเปลี่ยนแปลงและการเกิดใหม่ของแบรนด์ Gucci อีกด้วย เพราะในตำนานกรีกเล่าไว้ว่า ไดโอนีซุสข้ามแม่น้ำไทกริสโดยนั่งบนหลังเสือที่เทพซุสส่งมา การออกแบบนี้จึงเต็มไปด้วยความหมายและเรื่องราวที่ลึกซึ้ง

หลังจากเปิดตัว กระเป๋ารุ่นนี้ได้กลายเป็นไอเทมที่ขายดีที่สุดรุ่นหนึ่งของ Gucci และได้รับการพัฒนาต่อจนเผยโฉมในหลากหลายขนาดและวัสดุ โดยเฉพาะกระเป๋า Gucci Dionysus ขนาด Mini ที่แม้ราคาค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับขนาด (ราคามือหนึ่งเริ่มต้น 43,000 บาท) แต่ก็มาพร้อมคุณภาพหาที่ติได้ยากและเป็นที่ต้องการของนักสะสม

ทำไมกระเป๋า Gucci Dionysus ขนาด Mini ถึงเป็นที่นิยม

ทำไมกระเป๋า Gucci Dionysus ขนาด Mini ถึงเป็นที่นิยม ?

1. ดีไซน์คลาสสิกและมีเอกลักษณ์

Gucci Dionysus Mini โดดเด่นด้วยดีไซน์ที่ผสมผสานระหว่างความคลาสสิกและความทันสมัยได้อย่างลงตัว ตัวล็อกรูปหัวเสือสองหัวที่ทำจากโลหะคุณภาพสูงเป็นจุดเด่นที่สะดุดตาและสร้างความจดจำได้ทันที ลายแบบดั้งเดิมของ Gucci ที่เรียกว่า “GG Supreme Canvas” ให้ความรู้สึกถึงความเป็น Gucci อย่างแท้จริง ขณะที่รุ่นที่ทำจากหนังก็ให้ลุคที่หรูหราและสง่างาม
นอกจากนี้ รูปทรงสี่เหลี่ยมที่มีความเรียบง่ายแต่ทันสมัย ทำให้กระเป๋าใบนี้ไม่ตกเทรนด์ แม้เวลาจะผ่านไปนานเท่าใดก็ตาม สายสะพายโซ่ที่สามารถปรับความยาวได้ช่วยเพิ่มความหลากหลายในการใช้งาน ไม่ว่าจะสะพายข้าง หรือสะพายไขว้ ทำให้กระเป๋าใบนี้สามารถปรับเปลี่ยนลุคได้หลากหลายตามโอกาส

2. ขนาดกะทัดรัดแต่จุของได้มากกว่าที่คิด

ขนาดกระเป๋า Gucci Dionysus Mini อยู่ที่ประมาณ 20 x 15 x 6 เซนติเมตร ซึ่งนับว่าเป็นไซซ์ที่กำลังพอดี ไม่เล็กหรือใหญ่จนเกินไป และด้วยการออกแบบภายในอย่างชาญฉลาด ทำให้กระเป๋าใบนี้สามารถจุของใช้จำเป็นในชีวิตประจำวันได้มากกว่าที่คาดคิด เช่น โทรศัพท์มือถือ กระเป๋าสตางค์ขนาดกลาง กุญแจ ลิปสติก และของใช้จิปาถะอื่น ๆ

3. แมตช์ง่าย ใช้ได้ทุกโอกาส

ความเป็นเอกลักษณ์อีกอย่างของ Gucci Dionysus Mini คือความหลากหลายในการใช้งาน กระเป๋าใบนี้สามารถแมตช์กับเครื่องแต่งกายได้หลากหลายสไตล์ ไม่ว่าจะเป็นชุดลำลองอย่างกางเกงยีนส์กับเสื้อยืด ชุดทำงาน หรือแม้แต่ชุดออกงานในโอกาสพิเศษ ทำให้กระเป๋า Dionysus Mini เป็นการลงทุนที่คุ้มค่า เนื่องจากสามารถใช้ได้ในหลายโอกาส แม้กระเป๋า Gucci Dionysus Mini จะมีราคาค่อนข้างสูงก็ตาม

4. วัสดุและงานฝีมือระดับพรีเมียม

Gucci เป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียงในเรื่องของคุณภาพและความพิถีพิถันในการผลิต Dionysus Mini ก็เช่นกัน กระเป๋ารุ่นนี้ผลิตจากวัสดุคุณภาพสูง ไม่ว่าจะเป็นรุ่น GG Supreme Canvas ที่ทำจากผ้าแคนวาสเคลือบที่ทนทานและดูแลรักษาง่าย หรือรุ่นที่ทำจากหนังแท้ที่นุ่มและให้สัมผัสที่หรูหรา
งานฝีมือที่ประณีตเห็นได้จากทุกรายละเอียด ตั้งแต่การเย็บที่เรียบร้อย การตัดเย็บที่พอดี ไปจนถึงความใส่ใจในส่วนประกอบต่าง ๆ เช่น ตัวล็อกโลหะ และสายโซ่ที่แข็งแรงทนทาน ความพิถีพิถันในการผลิตนี้ไม่เพียงแต่ทำให้กระเป๋ามีความสวยงาม แต่ยังช่วยให้กระเป๋ามีความทนทานและอายุการใช้งานที่ยาวนาน ทำให้กระเป๋า Gucci Dionysus Mini นั้นคุ้มค่าคุ้มราคาในระยะยาว

การดูแลรักษา Gucci Dionysus Mini ให้อยู่กับคุณไปนาน ๆ

  1. หลีกเลี่ยงการโดนน้ำและความชื้น เพื่อป้องกันการเสื่อมสภาพของหนังกลับ
  2. เก็บในถุงผ้าป้องกันฝุ่นเมื่อไม่ใช้งาน
  3. หลีกเลี่ยงการใส่ของที่มีน้ำหนักมากเกินไป เพื่อรักษารูปทรงของกระเป๋า
  4. ใช้ผ้าสะอาดเช็ดทำความสะอาดบริเวณโลหะและหนังเป็นประจำ

สำหรับใครที่มีกระเป๋า Gucci Dionysus Mini และอยากเปลี่ยนเป็นเงินสด ที่ BRANDNAME VOYAGE คือศูนย์กลางซื้อขายสินค้าแบรนด์เนมมือสองอันดับ 1 ยินดีรับซื้อ Gucci ทุกรุ่น ให้ราคายุติธรรม มีบริการรับซื้อ ขาย และฝากขาย พร้อมให้คำแนะนำโดยผู้เชี่ยวชาญด้านแบรนด์เนมโดยเฉพาะ
เลือกชมสินค้าได้แล้ววันนี้ที่เว็บไซต์ หรือเข้ามาที่หน้าร้านทั้ง 2 สาขาหลักของเรา ได้แก่ เซ็นทรัลพระราม 9, ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

ข้อมูลอ้างอิง
1.Dionysus. สืบค้นเมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2568 จาก https://www.gucci.com/th/th/st/capsule/dionysus-collection
2.Gucci Dionysus Review. สืบค้นเมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2568 จาก https://www.lmentsofstyle.com/blogfeed/gucci-dionysus-review

Posted on Leave a comment

กระเป๋า Balenciaga ของแท้ ดูยังไง ? เผย 5 วิธีเช็กก่อนซื้อ

รวม 5 วิธีดูกระเป๋า Balenciaga

Balenciaga เป็นหนึ่งในแบรนด์ลักชัวรีที่ได้รับความนิยมสูงสุดในโลกแฟชั่น โดยเฉพาะกระเป๋าที่มีดีไซน์ล้ำสมัยและความประณีตที่เป็นเอกลักษณ์ อย่างไรก็ตาม ความนิยมที่สูงขึ้นย่อมมาพร้อมกับสินค้าลอกเลียนแบบจำนวนมาก หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ต้องการลงทุนกับกระเป๋า Balenciaga มือสอง บทความนี้มาพร้อมกับ 5 วิธีดูกระเป๋า Balenciaga ของแท้ ฉบับอัปเดตล่าสุด ที่จะช่วยให้คุณซื้ออย่างมั่นใจมากขึ้น

วิธีดูกระเป๋า Balenciaga ของแท้

5 วิธีดูกระเป๋า Balenciaga ของแท้ อัปเดตล่าสุด

ตรวจสอบวัสดุและหนังของกระเป๋า

Balenciaga ใช้วัสดุหนังแท้คุณภาพสูงที่มีความนุ่มและยืดหยุ่นเมื่อสัมผัส ไม่แข็งกระด้างหรือมีความมันวาวผิดปกติ โดยหนังจะมีลวดลายที่เป็นธรรมชาติ แต่หากเป็นหนังลูกวัวจะมีพื้นผิวเรียบเนียนเป็นพิเศษ นอกจากนี้ กระเป๋าจะมีกลิ่นของหนังแท้ ไม่ใช่กลิ่นพลาสติกหรือสารเคมี และที่สำคัญก็คือ การเย็บและการตัดขอบหนังของ Balenciaga จะมีความประณีตและเรียบร้อย ไม่มีรอยเย็บที่ไม่สม่ำเสมอหรือขอบหนังที่หลุดลุ่ย

เช็กซิปและฮาร์ดแวร์ต่าง ๆ

การตรวจสอบฮาร์ดแวร์ เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยให้มั่นใจว่ากระเป๋า Balenciaga เป็นของแท้ ควรสังเกตคุณภาพของโลหะ ความลื่นของซิป และรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่บ่งบอกถึงงานผลิตระดับสูงของแบรนด์ โดยฮาร์ดแวร์ของ Balenciaga ต้องผลิตจากวัสดุที่แข็งแรง ซึ่งมักเป็นทองเหลืองแท้หรือโลหะรมดำ ขึ้นอยู่กับรุ่น และซิปต้องรูดได้อย่างลื่นไหล ไม่มีการสะดุดหรือฝืด และสีของฮาร์ดแวร์จะต้องกลมกลืนไปกับดีไซน์ของกระเป๋า โดยไม่มีรอยถลอกหรือหลุดลอก ซึ่งของปลอมมักใช้โลหะคุณภาพต่ำที่มีน้ำหนักเบาและสีซีดจาง

โลโก้ Balenciaga ต้องสมบูรณ์แบบ

โลโก้เป็นหนึ่งในจุดที่ปลอมแปลงได้ยาก เพราะ Balenciaga ใช้ฟอนต์ที่มีลักษณะเฉพาะ ตัวอักษรต้องเรียงตัวเป็นระเบียบ ชัดเจน ไม่มีรอยเบลอหรือผิดรูป โดยใช้ตัวพิมพ์ใหญ่ว่า BALENCIAGA หรืออาจเป็นตัวพิมพ์เล็ก balenciaga ในบางรุ่น นอกจากนี้ ขนาดของตัวอักษรและระยะห่างระหว่างตัวอักษรต้องสมมาตร ไม่ควรมีตัวสะกดผิด หรือใช้ฟอนต์ที่แตกต่างจากของแท้

กระเป๋า Balenciaga ของแท้ ดูยังไง

แท็กด้านในกระเป๋า

Balenciaga มีแท็กหนังด้านในที่ระบุรายละเอียดเกี่ยวกับกระเป๋า โดยแท็กนี้จะทำจากหนังแท้และมีการปั๊มนูนชื่อแบรนด์อย่างประณีต หากเป็นรุ่นเก่าจะมี “Made in Italy” หรือ “Balenciaga Paris” อยู่ใต้โลโก้ และหากเป็นรุ่นใหม่ อาจมี Serial Number ติดอยู่กับแท็กด้านใน

เช็ก Serial Number Balenciaga

Serial Number เป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบสำคัญที่สามารถช่วยตรวจสอบว่ากระเป๋า Balenciaga เป็นของแท้หรือไม่ โดยกระเป๋าทุกใบของ Balenciaga จะมี Serial Number ที่เป็นตัวเลขและตัวอักษรเรียงกัน โดยสามารถพบได้ที่ด้านหลังของแท็กด้านในกระเป๋า

  • ตำแหน่งของ Serial Number มักอยู่ที่ด้านหลังของแท็กหนังด้านในกระเป๋า หากเป็นรุ่นที่มีแผ่นโลหะติดอยู่ด้านหน้าแท็กหนัง หมายเลขนี้จะปรากฏอยู่ด้านหลังของแผ่นโลหะ
  • หมายเลขบนกระเป๋าของแท้จะมีการพิมพ์อย่างคมชัดและสม่ำเสมอ ไม่มีรอยเบลอ หรือหมึกเลือนจาง ซึ่งต่างจากของปลอมที่อาจมีรอยพิมพ์ไม่สมบูรณ์ หรือไม่สม่ำเสมอ
  • ตัวเลขและตัวอักษรต้องเรียงกันอย่างถูกต้อง ไม่มีตัวซ้ำผิดปกติ และต้องไม่มีช่องว่างหรือขนาดตัวอักษรที่ไม่เท่ากัน

เชื่อว่า 5 วิธีนี้จะช่วยให้คุณสามารถเลือกซื้อกระเป๋า Balenciaga มือสองได้อย่างมั่นใจมากขึ้น และสำหรับใครที่กำลังมองหาร้านขายกระเป๋า Balenciaga ของแท้ ที่ BRANDNAME VOYAGE เราคือร้านกระเป๋าแบรนด์เนมมือสอง คัดสรรคุณภาพ การันตีของแท้ 100% ตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญ เลือกชมสินค้าได้ที่เว็บไซต์ หรือหน้าร้านทั้ง 2 สาขาของเรา เซ็นทรัลพระราม 9 และฟิวเจอร์พาร์ครังสิต หรือติดต่อเราได้ที่

ข้อมูลอ้างอิง
1. 3 ACTIONABLE TIPS TO AUTHENTICATE BALENCIAGA ITEMS. สืบค้นเมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2568 จาก https://realauthentication.com/we-authenticate-balenciaga/

Posted on Leave a comment

ขายกระเป๋าแบรนด์เนมที่ไหนดี และทำอย่างไรให้ขายได้ราคาดี ?

เลือกขายกระเป๋าแบรนด์ที่ไหนดี พร้อมเทคนิคดูแลกระเป๋าให้ขายได้ราคาดี

การขายกระเป๋าแบรนด์เนมอาจเป็นเรื่องท้าทาย หากคุณไม่เลือกร้านรับซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมที่ดีพอ โดยปัญหาที่พบบ่อยคือการถูกกดราคา ได้รับเงินล่าช้า หรือแย่ที่สุดคือเจอร้านที่ไม่มีความน่าเชื่อถือ ซึ่งอาจส่งผลให้คุณไม่ได้รับเงินตามที่ตกลงไว้ การเลือกร้านรับซื้อที่มีมาตรฐานและเชื่อถือได้จึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้มั่นใจว่าคุณจะได้รับราคาที่เหมาะสมและบริการที่ปลอดภัย แล้วจะเลือกขายกระเป๋าแบรนด์เนมที่ไหนดีให้ได้ราคาที่เป็นธรรม มาหาคำตอบไปพร้อม ๆ กันเลย

เลือกร้านรับซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมที่ดีอย่างไร ให้ขายได้ราคาคุ้มค่า

วิธีเลือกร้านรับซื้อกระเป๋าแบรนด์เนม

หากคุณกำลังมองหาร้านรับซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมมือสองที่น่าเชื่อถือและให้ราคายุติธรรม มีหลายปัจจัยที่ควรพิจารณาเพื่อให้ได้ข้อตกลงที่ดีที่สุด ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็นดังนี้

1. ความน่าเชื่อถือของร้าน

การเลือกร้านที่มีความน่าเชื่อถือเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรก ร้านที่ดีควรมีประวัติการดำเนินธุรกิจที่โปร่งใสและได้รับความไว้วางใจจากลูกค้า โดยคุณสามารถตรวจสอบได้จาก

  • รีวิวจากลูกค้าจริงทั้งบนเว็บไซต์และแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย เช่น Facebook, Instagram หรือ Google Reviews
  • การจดทะเบียนบริษัทอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งคุณสามารถตรวจสอบได้จากเว็บไซต์กรมพัฒนาธุรกิจการค้า
  • ประสบการณ์ในวงการ ร้านรับซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมที่เปิดให้บริการมานานมักมีความเชี่ยวชาญและเครือข่ายที่กว้างขวาง

2. ราคาประเมินที่ยุติธรรม

ราคาที่ได้รับเป็นปัจจัยสำคัญที่จะตัดสินว่าคุณควรขายกระเป๋าแบรนด์มือสองที่ไหนดี วิธีการตรวจสอบว่าราคาที่ได้รับนั้นยุติธรรมหรือไม่ เช่น

  • เปรียบเทียบราคาจากหลายแหล่ง อย่างน้อย 3-4 ร้าน เพื่อให้เห็นช่วงราคาตลาด
  • ร้านที่มีมาตรฐานมักให้ราคาที่สมเหตุสมผล ไม่ต่ำจนเกินไปหรือสูงเกินจริง
  • ศึกษาราคาตลาดของกระเป๋ารุ่นเดียวกันในสภาพใกล้เคียงกันจากแพลตฟอร์มออนไลน์หรือตลาดมือสอง

3. ช่องทางการให้บริการ

ร้านที่มีช่องทางการให้บริการหลากหลายจะช่วยอำนวยความสะดวกให้คุณมากขึ้น ควรพิจารณาร้านที่มีลักษณะ ดังนี้

  • มีบริการรับซื้อทั้งหน้าร้านและช่องทางออนไลน์ เช่น เว็บไซต์ แอปพลิเคชัน หรือแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย
  • มีบริการประเมินราคาฟรีก่อนตัดสินใจขายกระเป๋าแบรนด์เนม เพื่อให้คุณสามารถเปรียบเทียบราคาได้โดยไม่มีข้อผูกมัด
  • มีบริการรับ-ส่งสินค้าถึงบ้านหรือจุดนัดพบที่สะดวก โดยเฉพาะสำหรับกระเป๋าที่มีมูลค่าสูง

4. การรับประกันและความปลอดภัยในการทำธุรกรรม

ความปลอดภัยในการทำธุรกรรม เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม ร้านรับซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมมือสองที่น่าเชื่อถือควรมีลักษณะที่ดี เช่น

  • ระบบรับซื้อที่โปร่งใส ไม่มีค่าธรรมเนียมแอบแฝงหรือเงื่อนไขที่ไม่ชัดเจน
  • มีเอกสารที่ระบุรายละเอียดการซื้อขายอย่างครบถ้วน รวมถึงราคา เงื่อนไข และระยะเวลาในการชำระเงิน
  • ช่องทางการชำระเงินที่ปลอดภัยและตรวจสอบได้ เช่น การโอนเงินผ่านบัญชีธนาคาร หรือการจ่ายเงินสดที่มีใบเสร็จรับเงินอย่างถูกต้อง

การดูแลกระเป๋าแบรนด์เนมให้ดีก่อนขายให้ร้านรับซื้อกระเป๋าแบรนด์เนม

วิธีดูแลกระเป๋าแบรนด์เนมให้ไม่เสื่อมราคา

การรักษาสภาพกระเป๋าให้ดูดีอยู่เสมอ เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้กระเป๋าแบรนด์เนมของคุณคงคุณค่า โดยกระเป๋าที่ได้รับการดูแลอย่างดีมักมีมูลค่าสูงกว่ากระเป๋าที่มีร่องรอยการใช้งานมาก ต่อไปนี้คือเคล็ดลับในการดูแลกระเป๋าให้คงความสวยงามและมูลค่า เพื่อให้ได้ราคาดีเมื่อนำไปขายที่ร้านรับซื้อกระเป๋าแบรนด์เนม

การเก็บรักษาอย่างถูกวิธี

  • เก็บในถุงผ้า : ควรเก็บกระเป๋าในถุงผ้าที่มาพร้อมกับกระเป๋า เพื่อป้องกันฝุ่นและรอยขีดข่วน
  • หลีกเลี่ยงการเก็บในกล่องแน่นเกินไป : การเก็บกระเป๋าในกล่องเป็นเวลานานอาจทำให้กระเป๋าเสียรูปทรงได้ ควรใส่กระดาษเยื่อหรือผ้านุ่มไว้ด้านในเพื่อรักษารูปทรง
  • จัดวางอย่างเหมาะสม : วางกระเป๋าบนชั้นวางที่สะอาดและแห้ง ไม่ควรวางซ้อนทับกันเพื่อป้องกันการเสียรูปทรง

การป้องกันความเสียหายจากสภาพแวดล้อม

  • หลีกเลี่ยงแสงแดดและความชื้น : แสงแดดสามารถทำให้สีของกระเป๋าซีดลง โดยเฉพาะกระเป๋าหนัง ส่วนความชื้นอาจทำให้เกิดเชื้อราและทำลายวัสดุของกระเป๋า
  • เก็บในที่อุณหภูมิเหมาะสม : อุณหภูมิที่ร้อนหรือเย็นเกินไปอาจทำให้วัสดุของกระเป๋าเสื่อมสภาพเร็วขึ้น ควรเก็บในที่ที่มีอากาศถ่ายเทได้ดี
  • ป้องกันการสัมผัสกับของเหลว : น้ำ น้ำหอม หรือเครื่องสำอางอาจทำให้เกิดคราบและทำลายวัสดุของกระเป๋า ควรระมัดระวังเป็นพิเศษ

การใช้งานอย่างระมัดระวัง

  • หลีกเลี่ยงการใส่ของหนักเกินไป : กระเป๋าที่รับน้ำหนักมากเกินไปอาจทำให้เกิดการยืดหรือเสียทรง โดยเฉพาะกระเป๋าที่ทำจากวัสดุที่มีความนุ่ม
  • ระวังการขีดข่วน : ควรระมัดระวังเมื่อวางกระเป๋าบนพื้นผิวที่อาจทำให้เกิดรอยขีดข่วน เช่น พื้นคอนกรีตหรือโต๊ะที่มีพื้นผิวหยาบ
  • ระมัดระวังการใช้งานอุปกรณ์ตกแต่ง : หัวเข็มขัด ซิป หรืออุปกรณ์โลหะต่าง ๆ ควรได้รับการดูแลไม่ให้เกิดรอยขีดข่วนหรือสึกหรอ

การทำความสะอาดอย่างถูกวิธี

ควรทำความสะอาดตามคำแนะนำของแบรนด์ โดยแต่ละแบรนด์อาจมีวิธีการทำความสะอาดที่แตกต่างกันตามวัสดุที่ใช้

  • ใช้ผ้านุ่มเช็ดฝุ่น : ควรใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์หรือผ้านุ่มเช็ดฝุ่นเป็นประจำ
  • ใช้น้ำยาทำความสะอาดที่เหมาะสม : ควรใช้น้ำยาทำความสะอาดที่เฉพาะเจาะจงกับวัสดุของกระเป๋า เช่น น้ำยาทำความสะอาดหนัง หรือน้ำยาทำความสะอาดผ้า
  • พิจารณาใช้บริการทำความสะอาดมืออาชีพ : สำหรับกระเป๋าที่มีมูลค่าสูงหรือต้องการการดูแลเป็นพิเศษ การใช้บริการทำความสะอาดหรือสปากระเป๋าจากผู้เชี่ยวชาญก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ เพื่อให้กระเป๋าแบรนด์ยังคงดูดีอยู่เสมอ

ขายกระเป๋าแบรนด์เนมที่ไหนดี ? หากคุณกำลังมองหาร้านรับฝากขายแบรนด์เนมที่เชื่อถือได้และให้ราคาที่ยุติธรรม BRANDNAME VOYAGE เป็นตัวเลือกที่คุณไม่ควรพลาด ศูนย์กลางซื้อขายที่รับซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมมือสองในราคาสูง พร้อมบริการฝากขายเพื่อช่วยให้คุณขายได้ง่ายขึ้น

เลือกชมสินค้าได้แล้ววันนี้ที่เว็บไซต์ หรือเข้ามาที่หน้าร้านทั้ง 2 สาขาหลักของเรา ได้แก่ เซ็นทรัลพระราม 9, ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

ข้อมูลอ้างอิง
1.How to Prepare Your Designer Handbags for Resale. สืบค้นเมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2568 จาก https://alittledelightful.com/how-to-prepare-your-designer-handbags-for-resale/

Posted on Leave a comment

เทียบขนาดกระเป๋า Celine Nano vs Micro รุ่นไหนเหมาะกับคุณ

ขนาดกระเป๋า Celine Nano, Micro และ Belt Bag ต่างกันอย่างไร

หากคุณกำลังมองหากระเป๋าที่ทั้งคลาสสิกและตอบโจทย์ทุกโอกาส Celine Luggage และ Celine Belt Bag คือตัวเลือกที่ไม่มีวันตกเทรนด์ ! แต่จะเลือกไซซ์ไหนดี ? ระหว่าง Nano ที่เล็กแต่จุของเกินคาด Micro ที่พอดีสำหรับวันยุ่ง ๆ หรือ Belt Bag ที่ดูเรียบหรูสุดคลาสสิก ? บทความนี้พามาเปรียบเทียบขนาดกระเป๋า Celine Nano, Micro และ Belt Bag มาดูกันว่ากระเป๋าแต่ละใบจะเปลี่ยนลุคของคุณได้ยังไง

เปรียบเทียบขนาดกระเป๋า Celine Nano, Micro และ Belt Bag

Celine Nano Luggage – ความเล็กที่เต็มไปด้วยสไตล์

กระเป๋า Celine Nano

Celine Nano Luggage เป็นไซซ์ที่เล็กที่สุดในตระกูล Luggage โดดเด่นด้วยดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ พร้อมสายสะพายยาวที่ช่วยให้สามารถสลับระหว่างสะพายข้างหรือครอสบอดี้ได้อย่างคล่องตัว
ขนาดกระเป๋า Celine Nano : 20 x 20 x 10 ซม.
เหมาะกับใคร :

  • คนที่ต้องการกระเป๋าขนาดกะทัดรัดแต่ยังสามารถจุของจำเป็น เช่น โทรศัพท์ กระเป๋าสตางค์ใบสั้น และลิปสติก
  • คนที่ชื่นชอบลุคมินิมอล และต้องการความคล่องตัวในชีวิตประจำวัน

กระเป๋า Celine Nano ราคาเริ่มต้น 8x,xxx บาท

Celine Micro Luggage – ขนาดที่ลงตัวสำหรับทุกวัน

 

กระเป๋า Celine Micro

Celine Micro Luggage เป็นไซซ์ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เพราะเป็นขนาดที่สามารถใช้งานได้จริง ในทุกโอกาส และมีพื้นที่เพียงพอสำหรับใส่ของใช้จำเป็น
ขนาดกระเป๋า Celine Micro : 26 x 26 x 14 ซม.
เหมาะกับใคร :

  • คนที่ต้องการกระเป๋าที่ไม่เล็กเกินไป แต่ก็ไม่ใหญ่จนเกินความจำเป็น
  • คนที่ต้องพกของมากกว่าปกติ เช่น สมุดโน้ต แท็บเล็ต หรือเครื่องสำอาง

กระเป๋า Celine Micro ราคาเริ่มต้น 1xxx,xxx บาท

Celine Belt Bag – กระเป๋าสุดหรูที่ไม่ควรพลาด

กระเป๋า Celine Belt Bag

Belt Bag ของ Celine เป็นอีกหนึ่งรุ่นยอดนิยมที่มีดีไซน์หรูหราและเรียบง่าย มีให้เลือกสองขนาด สามารถเลือกใช้ให้ตอบโจทย์กับไลฟ์สไตล์ได้
ขนาดกระเป๋า Celine Belt Bag Nano : 20 x 20 x 10 ซม.
ขนาดกระเป๋า Celine Belt Bag Micro : 24 x 24 x 13 ซม.
เหมาะกับใคร :

  • คนที่ต้องการกระเป๋าที่สามารถใช้ได้ทั้งลุคทางการและลุคแคชชวล
  • คนที่ชอบกระเป๋าที่มีสายสะพายถอดได้ เพื่อการใช้งานหลายรูปแบบ

กระเป๋า Celine Belt Bag Nano ราคาเริ่มต้น 7x,xxx บาท
กระเป๋า Celine Belt Bag Micro ราคาเริ่มต้น 9x,xxx บาท

เปรียบเทียบขนาดกระเป๋า Celine ใบไหนใส่อะไรได้บ้าง ?

Nano vs. Micro ต่างกันอย่างไร และกระเป๋าใบไหนที่เหมาะกับการใช้งานแต่ละแบบ

Celine Luggage และ Celine Belt Bag มีให้เลือกหลายขนาด แม้ว่าจะมีดีไซน์ที่คล้ายกัน แต่ขนาดที่แตกต่างกันส่งผลต่อการใช้งานและความคล่องตัว

Celine Nano Luggage และ Belt Bag Nano

  • กระเป๋าขนาดเล็กกะทัดรัด เหมาะสำหรับวันเบา ๆ
  • สามารถใส่ของจำเป็น เช่น โทรศัพท์มือถือ กระเป๋าสตางค์ใบเล็ก กุญแจบ้าน ลิปสติก และแว่นตา
  • สะพายครอสบอดี้ได้ ทำให้ใช้งานได้สะดวก
  • เหมาะสำหรับลุคมินิมอล ดูคล่องตัว และสามารถพกพาไปได้ทุกโอกาส

Celine Micro Luggage และ Belt Bag Micro

  • กระเป๋าขนาดกลางที่สามารถจุของได้มากขึ้น โดยยังคงให้ความรู้สึกไม่เทอะทะ
  • สามารถใส่ของที่มีขนาดใหญ่กว่า Nano ได้ เช่น แท็บเล็ตขนาดเล็ก สมุดโน้ต หรือกระเป๋าสตางค์ใบยาว
  • เหมาะสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน หรือแม้แต่การไปทำงาน เพราะมีพื้นที่พอสำหรับของใช้จำเป็น
  • สามารถใช้ได้ทั้งแบบถือและสะพายไหล่
    หากต้องการกระเป๋าที่เน้นความคล่องตัวและพกพาสะดวก Nano เป็นตัวเลือกที่เหมาะสม แต่ถ้าต้องการพื้นที่เพิ่มขึ้นสำหรับใส่ของใช้ในชีวิตประจำวัน Micro จะตอบโจทย์มากกว่า

กระเป๋า Celine Belt Bag Micro และ Nano ราคาเท่าไหร่

How to Style กระเป๋าแต่ละไซซ์ให้เสริมลุค

  • Nano Luggage – ใส่กับเสื้อยืด กางเกงยีนส์ หรือเดรสเรียบ ๆ เพื่อความชิค
  • Micro Luggage – เหมาะกับลุคที่ดูเป็นทางการ เช่น เบลเซอร์กับกางเกงสแลค หรือเดรสทำงาน
  • Belt Bag – แมตช์กับเสื้อผ้าสีโมโนโทน เช่น ขาว ดำ หรือเบจ เพื่อให้ได้ลุคที่ดูแพงและสมาร์ท

สำหรับสาว ๆ ที่ชอบกระเป๋า Celine และอยากได้กระเป๋าที่ตอบโจทย์ทั้งในด้านฟังก์ชันและสไตล์ แนะนำให้มาที่ BRANDNAME VOYAGE ศูนย์กลางสำหรับกระเป๋าแบรนด์เนมที่มีทั้ง Celine และแบรนด์ดังอื่น ๆ ให้เลือกสรรอีกมากมาย พร้อมบริการที่ดีที่สุด ด้วยความเชี่ยวชาญและราคาที่เป็นธรรม คุณสามารถหากระเป๋าที่ตรงใจได้ที่เว็บไซต์ หรือหน้าร้านทั้ง 2 สาขาของเรา เซ็นทรัลพระราม 9 และฟิวเจอร์พาร์ครังสิต หรือ ติดต่อเราได้ที่

ข้อมูลอ้างอิง
1.Celine Nano Luggage Review | What’s In My Bag. สืบค้นเมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2568 จาก https://www.catsdailyliving.com/celine-nano-luggage-review-whats-bag/
2.My Celine Handbag Collection & Mini Reviews. สืบค้นเมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2568 จาก https://fashionjackson.com/celine-handbag-reviews/