Author: PRIMAL analytics

---

หลายคนคงเคยประสบปัญหากระเป๋าแบรนด์เนมที่รักสีตก หรือเกิดรอยเปื้อนจากการเสียดสี และการเก็บไม่ถูกวิธี ที่นอกจากจะส่งผลต่อความสวยงามแล้ว ยังทำให้มูลค่าของกระเป๋าลดลง ซึ่งสำหรับผู้ที่ลงทุนในกระเป๋าแบรนด์เนม การเจอกระเป๋าดูดสีถือเป็นเรื่องน่ากังวลอย่างมาก ในบทความนี้เราจะมาแนะนำสาเหตุที่ทำให้กระเป๋าสีตก พร้อมวิธีป้องกันและแก้ไขอย่างถูกต้อง เพื่อให้คุณสามารถดูแลกระเป๋าให้คงสภาพสวยเหมือนใหม่ และรักษามูลค่าได้อย่างยาวนาน

กระเป๋าดูดสี เกิดจากอะไร ?

กระเป๋าดูดสี หรือกระเป๋าสีตก คือปัญหาที่เกิดขึ้นเมื่อวัสดุของกระเป๋า ดูดซับสีจากวัสดุอื่น ๆ ที่สัมผัสกับกระเป๋า เช่น เสื้อผ้าสีเข้มหรือพื้นผิวที่มีสี ซึ่งปัญหานี้มักพบได้ในกระเป๋าหนังเรียบหรือหนังนิ่ม ซึ่งมีความนุ่มและยืดหยุ่นมากกว่าหนังที่มีพื้นผิวแข็งกระด้าง แม้จะไม่ส่งผลต่อการใช้งานในแง่ของฟังก์ชัน แต่การดูดสีสามารถทำให้กระเป๋าดูสกปรก หรือสูญเสียความสวยงาม ซึ่งอาจลดมูลค่า และทำให้กระเป๋าดูไม่สวยเหมือนตอนที่ซื้อมา

สาเหตุที่ทำให้กระเป๋าแบรนด์เนมสีตก

วัสดุหนังบางชนิด

กระเป๋าหนังบางประเภท เช่น หนังเรียบ หนังนิ่ม หรือหนังฟอกสี มีคุณสมบัติในการดูดซับสีจากวัสดุที่สัมผัส ซึ่งรวมถึงการสัมผัสกับเสื้อผ้าสีเข้ม เช่น กางเกงยีนส์ หรือเสื้อผ้าสีดำ ทำให้เกิดการเปลี่ยนสีที่กระเป๋า

การเก็บกระเป๋าไม่เหมาะสม

การเก็บกระเป๋าที่ไม่ถูกต้อง อาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้กระเป๋าดูดสีได้ง่าย เช่น การเก็บกระเป๋าไว้ใกล้กับเสื้อผ้าสีเข้ม รวมถึงการเก็บกระเป๋าในที่ที่มีแสงแดดจัดหรือลมที่ร้อนแรง จนทำให้หนังของกระเป๋าเสื่อมสภาพ หรือดูดซับสีจากสิ่งแวดล้อมได้ง่ายขึ้น ดังนั้น การเก็บกระเป๋าในที่ที่เหมาะสม เช่น ในที่ที่ห่างไกลจากแสงแดด หรือที่ที่มีอากาศถ่ายเท และไม่วางกระเป๋าให้สัมผัสกับวัสดุสีเข้ม จะช่วยป้องกันปัญหานี้ได้

การใช้งานประจำวัน

การใช้งานประจำวัน เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้กระเป๋าแบรนด์เนมสีตกได้ง่าย โดยเฉพาะเมื่อกระเป๋าต้องสัมผัสกับเสื้อผ้าสีเข้มอยู่ตลอดเวลา ด้วยเหตุนี้ กระเป๋าที่ใช้ในชีวิตประจำวันมักจะต้องดูแลและใช้งานอย่างระมัดระวังมากขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้สีตก

กระเป๋าดูดสี แก้ยังไง ?

ทำความสะอาดเบื้องต้นด้วยผ้าชุบน้ำหมาด ๆ

การใช้ผ้าชุบน้ำหมาด ๆ เช็ดเบา ๆ บริเวณที่สีติด จะช่วยให้สีจางลงได้ โดยไม่ทำให้หนังของกระเป๋าเสียหาย แต่ควรระวังไม่ทำให้กระเป๋าเปียกเกินไป เพราะอาจทำให้หนังเสียหายหรือบวมขึ้นได้

ใช้น้ำยาทำความสะอาดหนัง

การใช้น้ำยาทำความสะอาดหนังที่เหมาะสมกับประเภทของกระเป๋า จะช่วยทำความสะอาดคราบสีโดยไม่ทำลายหนัง เนื่องจากน้ำยาทำความสะอาดเหล่านี้จะออกแบบมาเฉพาะสำหรับการดูแลหนังประเภทต่าง ๆ เช่น หนังเรียบ หนังนิ่ม หรือหนังฟอกสี น้ำยาทำความสะอาดจะช่วยขจัดคราบสกปรกและสีที่ดูดซับได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ฟื้นฟูหนังด้วยครีมบำรุง

หลังจากที่ทำความสะอาดแล้ว ควรใช้ครีมบำรุงหนังเพื่อช่วยคืนความชุ่มชื้นและฟื้นฟูสีเดิมของกระเป๋า การใช้ครีมบำรุงหนังจะช่วยให้หนังไม่แห้งและแตกหักจากการใช้งาน ช่วยให้กระเป๋าของคุณดูดีเหมือนใหม่ และยังคงความนุ่มนวลของวัสดุไว้

ใช้บริการทำความสะอาดจากผู้เชี่ยวชาญ

หากกระเป๋าของคุณมีคราบสีที่ติดยาก หรือเป็นกระเป๋าที่มีมูลค่าสูง การให้ผู้เชี่ยวชาญมาช่วยทำความสะอาดกระเป๋าแบรนด์เนม จะเป็นวิธีที่ปลอดภัยที่สุด เพราะผู้เชี่ยวชาญจะใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม และเทคนิคการทำความสะอาดที่ไม่ทำลายหนังหรือวัสดุอื่น ๆ เพื่อช่วยคืนความสวยงามให้กระเป๋าของคุณ

วิธีป้องกันไม่ให้กระเป๋าแบรนด์เนมสีตก

เก็บกระเป๋าในถุงผ้าหรือกล่องเก็บ

การเก็บกระเป๋าในถุงผ้าหรือกล่องที่มีการระบายอากาศได้ดี ช่วยป้องกันฝุ่นและสารเคมีจากสิ่งแวดล้อมที่อาจทำให้สีตกได้ นอกจากนี้ ถุงผ้ายังช่วยให้กระเป๋าของคุณปลอดภัยจากการสัมผัสกับวัสดุที่อาจทำให้สีตกหรือรอยขีดข่วนอีกด้วย

แยกกระเป๋าจากวัสดุสีเข้ม

หากคุณเก็บกระเป๋าไว้ในที่เดียวกับเสื้อผ้าสีเข้ม เช่น กางเกงยีนส์หรือกระเป๋าอื่น ๆ ที่มีสีเข้ม ก็อาจทำให้กระเป๋าของคุณดูดซับสีจากวัสดุเหล่านั้นได้ง่าย ๆ ดังนั้น การแยกกระเป๋าจากวัสดุสีเข้มจะช่วยลดการดูดสีและการเกิดคราบบนกระเป๋าได้อย่างมาก

หลีกเลี่ยงแสงแดดจัด

การเก็บกระเป๋าในที่ที่มีแสงแดดจัด อาจทำให้สีของกระเป๋าซีดจาง และเกิดการเสื่อมสภาพได้เร็ว ดังนั้น การเก็บกระเป๋าในที่มืด หรือที่มีแสงสว่างเพียงเล็กน้อย จะช่วยรักษาสีของกระเป๋าให้คงทน และไม่ถูกทำลายจากแสงแดด

ใช้ครีมหรือสเปรย์เคลือบหนัง

การใช้ครีมหรือสเปรย์เคลือบหนังที่มีคุณภาพ จะช่วยป้องกันไม่ให้สีตกและเพิ่มความทนทานให้แก่กระเป๋าได้ โดยครีมบำรุงหรือสเปรย์เคลือบหนังจะช่วยให้หนังของกระเป๋าคงความยืดหยุ่นและชุ่มชื้น พร้อมทั้งปกป้องจากคราบสกปรกและรอยขีดข่วนที่อาจเกิดขึ้นได้

นอกจากสาระความรู้เกี่ยวกับการป้องกันกระเป๋าแบรนด์เนมสีตกที่เรานำมาฝากกัน หากใครที่อยากดูแลรักษากระเป๋าใบโปรดให้สวยเหมือนใหม่อยู่เสมอ สามารถเข้ารับบริการสปากระเป๋าได้ที่ BRANDNAME VOYAGE เราพร้อมดูแลด้วยบริการระดับพรีเมียม ตั้งแต่การทำความสะอาด ขจัดคราบ ตลอดจนซ่อมแซมส่วนที่ชำรุด หรือหากใครที่ต้องการขายกระเป๋าแบรนด์เนมที่มี สามารถขายที่ BRANDNAME VOYAGE ได้เช่นกัน เราคือร้านกระเป๋าแบรนด์มือสองที่ให้บริการรับซื้อและฝากขายครบวงจร ด้วยการดูแลจากทีมงานมืออาชีพ

เปิดประสบการณ์ใหม่กับ BRANDNAME VOYAGE วันนี้ ทั้งทางออนไลน์และที่หน้าร้านทุกสาขา ได้แก่

• BRANDNAME VOYAGE – RAMA 9 (ตึก G Tower ชั้น B เชื่อมกับเซ็นทรัลพระราม 9)
• BRANDNAME VOYAGE – RANGSIT (Future Park รังสิต ชั้น 1 โซน Robinson)
• BRANDNAME VOYAGE – PHUKET (Robinson Lifestyle ถลาง ชั้น 1)
• และ BRANDNAME VOYAGE – CHIANG MAI ถนนมงฟอร์ต อำเภอเมืองเชียงใหม่ (เฉพาะรับซื้อ)

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่

• LINE: @brandnamevoyage
• Tel: 095-916-7171 (สำหรับผู้ที่สนใจซื้อสินค้า)
• LINE: @voyagepurchase
• Tel: 095-505-2229 (สำหรับผู้ที่สนใจฝากขายสินค้า)

ข้อมูลอ้างอิง

1. How to Remove Stains from Luxury Bags. สืบค้นเมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2568 จาก https://www.drbags.com/how-to-remove-stains-from-luxury-bags/

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับปัญหากระเป๋าดูดสี (FAQs)

Q : ทำไมกระเป๋าหนังถึงดูดสีจากเสื้อผ้าหรือวัสดุอื่น ๆ ?

A: กระเป๋าหนังที่มีความนุ่ม หรือผลิตจากหนังฟอก จะมีความสามารถในการดูดซับสีจากวัสดุที่สัมผัส เช่น เสื้อผ้าสีเข้ม หรือพื้นผิวที่มีสี สาเหตุนี้เกิดจากลักษณะของหนังที่มีรูพรุน ที่ช่วยให้สามารถดูดซับสีจากสิ่งแวดล้อมได้

Q : กระเป๋าแบรนด์เนมที่ดูดสี สามารถแก้ไขได้ด้วยวิธีใดบ้าง ?

A: สามารถแก้ไขได้หลายวิธี เช่น การเช็ดทำความสะอาดด้วยผ้าชุบน้ำหมาด ๆ จากนั้นใช้น้ำยาทำความสะอาดหนังที่เหมาะสมกับประเภทวัสดุของกระเป๋า และหลังจากทำความสะอาดแล้วควรใช้ครีมบำรุงหนังเพื่อฟื้นฟูสภาพของกระเป๋า หรือถ้ากระเป๋ามีมูลค่าสูง ควรพิจารณาใช้บริการทำความสะอาดจากผู้เชี่ยวชาญ

Q : การเก็บกระเป๋าในที่ที่มีแสงแดดจัด จะทำให้กระเป๋าดูดสีหรือไม่ ?

A: การเก็บกระเป๋าในที่ที่มีแสงแดดจัดอาจทำให้กระเป๋าหมองคล้ำ สีซีดจาง และหนังเสียหายเร็ว แต่กระเป๋าดูดสีส่วนใหญ่จะเกิดจากการสัมผัสกับวัสดุหรือเสื้อผ้าสีเข้มมากกว่าการสัมผัสแสงแดดโดยตรง

---

กระเป๋าหนังแบรนด์เนม นอกจากจะเป็นไอเทมที่สะท้อนรสนิยมอันหรูหราของผู้ใช้แล้ว ยังเป็นการลงทุนที่สามารถอยู่กับเราไปได้อีกยาวนาน แต่สิ่งที่อาจทำให้เจ้าของกระเป๋ารู้สึกไม่มั่นใจ คือ ปัญหากลิ่นอับของกระเป๋าหนังที่เกิดขึ้นได้ง่าย ทั้งจากความชื้น สภาพอากาศ หรือแม้แต่การเก็บรักษาที่ไม่ถูกวิธี หากปล่อยไว้ กลิ่นอับอาจฝังแน่นและทำให้กระเป๋าเสียเสน่ห์แห่งความโก้หรูที่ควรจะมีไปได้ ดังนั้น การทำความเข้าใจวิธีขจัดกลิ่นอับกระเป๋าหนังอย่างถูกต้องจึงเป็นข้อควรรู้เบื้องต้นสำหรับผู้รักกระเป๋าแบรนด์เนมทุกคน

ไขข้อสงสัย ทำไมกระเป๋าหนังถึงเกิดกลิ่นอับได้ง่าย ?

ก่อนที่เราจะไปดูวิธีขจัดกลิ่นอับกระเป๋าหนัง เราต้องรู้และเข้าใจก่อนว่า กลิ่นอับในกระเป๋าหนังเกิดขึ้นเพราะสาเหตุอะไรบ้าง เพื่อจะได้ป้องกันและแก้ไขอย่างตรงจุดยิ่งขึ้น

รูพรุนของหนังที่เหมือนเป็นวัสดุที่หายใจได้

กระเป๋าหนังแท้มีคุณสมบัติพิเศษคือ เป็นวัสดุที่ “หายใจได้” เนื่องจากเส้นใยหนังเป็นธรรมชาติ จึงสามารถดูดซับความชื้นจากอากาศหรือสิ่งแวดล้อมรอบตัวได้อย่างง่ายดาย ดังนั้น หากเก็บกระเป๋าหนังแท้ในพื้นที่อับชื้นหรือไม่ถ่ายเท ความชื้นเหล่านี้จะสะสมไปนาน ๆ และกลายเป็นแหล่งที่อยู่ของเชื้อราและแบคทีเรีย สาเหตุของกลิ่นอับนั่นเอง

เจอฝนหรือความชื้นจากการใช้งานในชีวิตประจำวัน

ในช่วงหน้าฝนที่มีความชื้นสูง หากว่าใครหิ้วกระเป๋าหนังแท้ไปเปียกฝน หรือแม้แต่ผจญกับอากาศที่ชื้นจัด แล้วปล่อยให้แห้งเอง ไม่เช็ดหรือทำความสะอาดก่อนนำไปเก็บ ก็อาจจะมีความชื้นสะสม และเป็นสาเหตุของกลิ่นอับได้เช่นกัน

คราบสกปรกและฝุ่นละอองที่ซ่อนตัวอยู่

เมื่อใช้งานกระเป๋าหนังแท้ไปนาน ๆ กระเป๋าอาจจะสะสมคราบเหงื่อไคล ฝุ่นละออง หรือเศษสิ่งสกปรกเล็ก ๆ น้อย ๆ จนหมักหมม และเกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์

6 เทคนิคและวิธีขจัดกลิ่นอับกระเป๋าหนังอย่างมืออาชีพ

สำหรับผู้ที่มีปัญหาเรื่องกลิ่นอับกระเป๋าหนัง ไม่ว่าจะเกิดจากการเก็บไม่ถูกวิธี หรือการใช้งาน เรามีวิธีง่าย ๆ ในการขจัดกลิ่นอับกระเป๋าหนัง ที่สามารถทำได้เองแบบมืออาชีพ

1. ใช้ถ่านไม้ดูดกลิ่น

ถ่านไม้คือฮีโร่ในการช่วยดูดกลิ่นอับและความชื้นได้เป็นอย่างดี ไม่ใช่เฉพาะแค่กลิ่นอับกระเป๋าหนัง แต่ยังสามารถดูดกลิ่นต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

วิธีใช้

ให้ห่อถ่านไม้ก้อนเล็ก ๆ ด้วยผ้าบาง ๆ หรือกระดาษทิชชู จากนั้นนำไปวางในกระเป๋าแล้วปิดกระเป๋าทิ้งไว้ประมาณ 1-2 วัน กลิ่นก็จะค่อย ๆ จางหายไป

ข้อควรระวังก็คือ ไม่ควรวางถ่านไม้ในกระเป๋าโดยที่ไม่ห่อผ้าหรือกระดาษทิชชู เพราะจะทำให้กระเป๋าเปื้อนและเสียหายได้

2. เบกกิงโซดา ตัวช่วยสารพัดประโยชน์

หากว่าใครหาถ่านไม้ไม่ได้ แนะนำให้ใช้เบกกิงโซดาหรือโซเดียมไบคาร์โบเนต ที่ใช้ทำขนมก็ได้ ใช้ทำความสะอาดบ้านก็ดี แถมยังช่วยดูดกลิ่นอับได้อีกต่างหาก

วิธีใช้

ตักเบกกิงโซดาใส่ถุงบาง ๆ หรือใส่ถ้วยเล็ก ๆ วางในกระเป๋า แล้วปิดกระเป๋าทิ้งไว้ 2-3 วัน

ข้อควรระวัง อย่าให้เบกกิงโซดาสัมผัสกับตัวซับในหรือตัวหนังโดยตรง เพราะอาจจะทำให้กระเป๋าเสียหายได้เช่นกัน

3. ใช้ถุงชาแห้งหรือกาแฟบด

ชาและกาแฟนอกจากจะทำให้เราตื่นและสดใสในยามเช้าแล้ว ยังช่วยกลบและดูดซับกลิ่นอับกระเป๋าหนังได้อีกด้วย

วิธีใช้

นำถุงชาแห้งที่ยังไม่ผ่านการชง หรือเมล็ดกาแฟที่บดแล้วใส่ในถุงผ้าหรือถุงซิปล็อกที่เจาะรูเล็ก ๆ แล้วใส่ไว้ในกระเป๋า กลิ่นหอมของชาและกาแฟจะเข้าไปแทนที่กลิ่นไม่พึงประสงค์

4. การใช้ซองกันชื้น (Silica Gel) ดูดความชื้นให้หายไป

หากว่าบ้านใครมีซองกันชื้น หรือว่า Silica Gel ก็สามารถนำไปใช้ในการดูดความชื้นและกลิ่นอับในกระเป๋าหนังได้เช่นเดียวกัน

วิธีใช้

นำซองกันชื้นใส่ไว้ในกระเป๋าเมื่อไม่ได้ใช้งาน เพื่อป้องกันการสะสมความชื้นในระยะยาว เป็นการช่วยให้กระเป๋าหนังปราศจากความชื้นตั้งแต่ต้นตอ

5. ผึ่งลมอ่อน ๆ ในที่ร่ม

ใช้หลักการเดียวกันกับบ้านเวลาที่มีกลิ่นอับ คือ ให้ลมผ่านกระเป๋าหนังแท้ เพื่อระบายอากาศ ขจัดกลิ่นอับให้หมดไป

วิธีใช้

เปิดกระเป๋าออกให้กว้าง แล้วนำไปผึ่งลมในบริเวณที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก มีลมโกรก แต่ไม่ควรนำไปวางไว้กลางแดดจ้า ผึ่งทิ้งไว้ประมาณ 1-2 วัน จะช่วยให้กลิ่นระเหยออกไปตามธรรมชาติ

6. ใช้สเปรย์ดูแลกระเป๋าหนังโดยเฉพาะ

สำหรับคนที่รักและหลงใหลในกระเป๋าหนังแท้ ควรซื้อสเปรย์ดูแลกระเป๋าหนังที่มีคุณสมบัติในการขจัดกลิ่นอับโดยเฉพาะติดบ้านเอาไว้ เพื่อช่วยลดกลิ่นอับได้อย่างมีประสิทธิภาพ

วิธีใช้

เลือกใช้ผลิตภัณฑ์คุณภาพดีที่ออกแบบมาสำหรับหนังแบรนด์เนมโดยเฉพาะ ฉีดพ่นตามคำแนะนำบนผลิตภัณฑ์ เพื่อให้กระเป๋าหอมสดชื่นอย่างอ่อนโยน

สิ่งที่ไม่ควรทำเมื่อเจอปัญหากลิ่นอับในกระเป๋าหนัง

หลายคนเจอปัญหากลิ่นอับในกระเป๋าหนัง อยากจะกลิ่นจางหายไปไว ๆ แต่เรื่องนี้ใจร้อนไม่ได้ เพราะหากว่าทำผิดวิธีก็อาจจะทำให้กระเป๋าเสียหายได้ และนี่คือสิ่งที่ ไม่ควรทำ เมื่อเจอกลิ่นอับในกระเป๋าหนังของเรา

• ฉีดน้ำหอมลงไปในกระเป๋าโดยตรง หลายคนคิดว่าเป็นการกลบกลิ่น แต่ที่จริงจะกลายเป็นการผสมกลิ่นที่แรงขึ้น และอาจทำลายเส้นใยหนังโดยตรง และทำให้สีหนังด่างได้
• ใช้ความร้อนจัด หลายคนอยากไล่ความชื้นออกจากระเป๋าไว ๆ โดยใช้วิธีเป่าลมร้อนหรืออบแดดแรง ซึ่งเป็นวิธีที่ผิด เพราะทำให้หนังสูญเสียความชุ่มชื้นและเกิดรอยแตก เกิดความเสียหายถาวรได้
• ใช้สารเคมีรุนแรง ที่ไม่ได้ออกแบบมาสำหรับหนัง เพราะอาจทำให้สีหนังซีด ด่าง หรือเป็นคราบถาวรได้เช่นเดียวกัน

เคล็ดลับการเก็บรักษากระเป๋าหนังให้ห่างไกลกลิ่นอับ

การป้องกันกระเป๋าหนังไม่ให้มีกลิ่นอับชื้น โดยการเก็บรักษากระเป๋าอย่างถูกวิธี จะช่วยป้องกันปัญหากลิ่นอับที่อาจจะเกิดขึ้นได้ โดยมีวิธีง่าย ๆ ดังต่อไปนี้

• เก็บกระเป๋าในถุงผ้า (Dust Bag) ที่ระบายอากาศได้ดี โดยปกติแล้วกระเป๋าแบรนด์เนมจะให้ถุงผ้าที่ออกแบบมาให้ระบายอากาศได้ หลังจากใช้งานแล้ว ให้เก็บกระเป๋าไว้ในถุงผ้าที่ได้มาจะดีที่สุด ที่สำคัญคือไม่ควรเก็บในถุงพลาสติก เพราะจะทำให้เกิดความชื้นได้ง่าย
• ยัดกระเป๋าหรือหมอนรองกระเป๋า เพื่อช่วยรักษาทรงกระเป๋าและป้องกันการยุบตัว
• เลือกเก็บในที่ที่อากาศถ่ายเท ไม่ชื้น ไม่อับทึบ จะช่วยลดโอกาสของการสะสมความชื้น จนเป็นแหล่งของเชื้อราและแบคทีเรียต่าง ๆ
• ใช้ซองกันชื้นเป็นประจำ โดยให้วางซองกันชื้นไว้ในตู้เก็บกระเป๋า เพื่อดูดซับความชื้นส่วนเกิน
• หยิบมาใช้งานบ้าง เพราะการเก็บกระเป๋าไว้นานเกินไป อาจจะทำให้เกิดกลิ่นอับได้ หรือหากไม่ใช้ก็ควรนำมาผึ่งลมบ้างเป็นครั้งคราว

การดูแลกระเป๋าหนังให้ดีจะช่วยรักษามูลค่าและเสน่ห์ของกระเป๋าให้อยู่กับคุณได้ยาวนาน เพียงใช้วิธีขจัดกลิ่นอับกระเป๋าหนังอย่างถูกต้องก็สามารถทำให้กระเป๋าแบรนด์เนมคู่ใจยังคงหรูหรา เหมือนใหม่ และพร้อมหยิบมาใช้งานอย่างมั่นใจได้ทุกโอกาส

แต่หากคุณพยายามทำตามวิธีขจัดกลิ่นอับกระเป๋าหนังด้วยตัวเองแล้ว ยังคงมีกลิ่นอับฝังแน่น หรือกระเป๋าของคุณต้องการทำความสะอาดอย่างล้ำลึก เพื่อกำจัดต้นตอของเชื้อราและกลิ่นอย่างหมดจด นี่คือเวลาที่ต้องใช้บริการผู้เชี่ยวชาญ

ที่ BRANDNAME VOYAGE เรามีบริการสปากระเป๋า โดยทีมงานมืออาชีพผู้มีประสบการณ์และมีความหลงใหลในกระเป๋าแบรนด์เนมทุกใบ เราใช้เทคนิคและผลิตภัณฑ์เฉพาะทางในการทำความสะอาด ฟื้นฟู และขจัดกลิ่นอับอย่างล้ำลึกที่สุด เพื่อให้กระเป๋าของคุณกลับมางดงามและหอมเสมือนใหม่

นอกจากบริการดูแลและฟื้นฟูแล้ว หากคุณกำลังมองหาการลงทุนกระเป๋าแบรนด์เนมมือสองในราคาคุ้มค่า BRANDNAME VOYAGE เป็นร้านขายกระเป๋าแบรนด์มือสองที่เหล่าคนรักแฟชั่นจำนวนมากไว้วางใจ เรามีทีมงานมืออาชีพที่คอยคัดสรรกระเป๋าทุกใบมาอย่างพิถีพิถัน มั่นใจได้ในความแท้และคุณภาพ ให้ทุกใบที่คุณเลือกคือการลงทุนที่สะท้อนถึงรสนิยมอันประณีตอย่างแท้จริง

เปิดประสบการณ์ใหม่กับ BRANDNAME VOYAGE วันนี้ ทั้งทางออนไลน์และที่หน้าร้านทุกสาขา ได้แก่

• BRANDNAME VOYAGE – RAMA 9 (ตึก G Tower ชั้น B เชื่อมกับเซ็นทรัลพระราม 9)
• BRANDNAME VOYAGE – RANGSIT (Future Park รังสิต ชั้น 1 โซน Robinson)
• BRANDNAME VOYAGE – PHUKET (Robinson Lifestyle ถลาง ชั้น 1)
• และ BRANDNAME VOYAGE – CHIANG MAI ถนนมงฟอร์ต อำเภอเมืองเชียงใหม่ (เฉพาะรับซื้อ)

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่

• LINE: @brandnamevoyage
• Tel: 095-916-7171 (สำหรับผู้ที่สนใจซื้อสินค้า)
• LINE: @voyagepurchase
• Tel: 095-505-2229 (สำหรับผู้ที่สนใจฝากขายสินค้า)

ข้อมูลอ้างอิง

1. Effective Ways to Get Rid of Smells in Leather Bags. สืบค้นเมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2568 จาก https://www.tannerbates.co.uk/blogs/knowledge-base/effective-ways-to-get-rid-of-smells-in-leather-bags
2. 7 Tips | How To Remove A Smell From Your Leather Bag. สืบค้นเมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2568 จาก https://www.trendhim.co.uk/articles/2022/leather-care-how-to-remove-a-smell-from-a-bag

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการขจัดกลิ่นอับในกระเป๋าหนัง (FAQs)

Q : จะรู้ได้อย่างไรว่ากลิ่นอับที่เกิดขึ้นเป็นกลิ่นจากเชื้อราหรือแค่กลิ่นอับชื้นธรรมดา ?

A: กลิ่นเชื้อรามักจะมีลักษณะเหม็นอับคล้ายดินชื้น ๆ หรือมีกลิ่นเปรี้ยวเล็กน้อย และมักมาพร้อมกับร่องรอยของฝุ่นสีขาว สีเขียว หรือสีเทาบนพื้นผิวหนังหรือซับใน หากเป็นเพียงกลิ่นอับชื้นธรรมดา กลิ่นจะจางลงเมื่อนำไปผึ่งลม แต่ถ้าเป็นเชื้อรา คุณจำเป็นต้องใช้บริการ สปากระเป๋า เพื่อกำจัดเชื้อราอย่างมืออาชีพ

Q : ควรทำความสะอาดภายในกระเป๋าบ่อยแค่ไหนเพื่อป้องกันกลิ่นอับ ?

A: อย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง โดยการใช้ลูกกลิ้งหรือเครื่องดูดฝุ่นขนาดเล็กดูดเศษฝุ่นออก และเช็ดด้วยผ้าแห้งหรือผ้าชุบน้ำหมาด ๆ ที่มีส่วนผสมของน้ำยาทำความสะอาดหนังโดยเฉพาะ

Q : หากกระเป๋าเปียกฝน ควรทำอย่างไรเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดกลิ่นอับ ?

A: ทันทีที่กระเป๋าเปียก ให้ใช้ผ้าฝ้ายแห้งหรือผ้าขนหนูซับน้ำออกอย่างเบามือให้เร็วที่สุด อย่าใช้ไดร์เป่าผม ห้ามขยี้หรือถูแรง ๆ จากนั้น ยัดกระดาษที่ไม่มีหมึกเข้าไปในกระเป๋า เพื่อช่วยดูดซับความชื้น แล้วเปิดกระเป๋าทิ้งไว้ในที่ร่ม อากาศถ่ายเท จนกว่าจะแห้งสนิท

---

ใครกำลังคิดจะเปลี่ยน กระเป๋าสตางค์ ใบใหม่ ลองหันมาเลือก “สีกระเป๋าให้ตรงตามวันเกิด” กันดู เพราะนอกจากจะช่วยเพิ่มความมั่นใจเวลาใช้งานแล้ว ยังมีความเชื่อกันว่าสีที่ถูกโฉลกสามารถเสริมดวงด้านการเงิน การงาน และความรักได้อีกด้วย ปี 2026 นี้ ถ้าอยากให้ชีวิตปังขึ้น ลองมาเช็กกันว่าผู้ที่เกิดในแต่ละวันควรใช้กระเป๋าสีอะไรดี

7 วัน 7 สีมงคล เลือกใช้กระเป๋าสีอะไรดี ปี 2026

มาดูกันว่าแต่ละวันเกิดมีสีที่ใช่ สีที่เสริม และสีที่ควรเลี่ยงในเรื่องการเงินและการงานจะมีอะไรบ้าง เพื่อให้การตัดสินใจเลือกกระเป๋าใบใหม่ของคุณเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น

วันอาทิตย์ “สีแดงแรงฤทธิ์” ดึงดูดทรัพย์

ชาววันอาทิตย์ เป็นคนมีพลังและมีบารมีสูง การเลือกกระเป๋าที่ช่วยเสริมความรุ่งโรจน์และอำนาจจึงสำคัญที่สุด สำหรับผู้ที่เกิดวันอาทิตย์หากไม่รู้ว่าจะใช้กระเป๋าสีอะไรดี ที่จะเสริมบารมีและโชคในด้านต่าง ๆ ด้านล่างนี้คือคำตอบ

• สีเสริมทรัพย์ (เรียกเงินเข้า): สีเขียว
• สีเสริมอำนาจบารมี/การงาน: สีโทนแดง, สีทอง หรือสีชมพู
• สีเสริมความรัก/เมตตา: สีโทนม่วงเข้ม, สีเทา หรือสีดำ
• สีเสริมโชคลาภ: สีเขียวอ่อน
• สีกาลกิณี (สีฉุดดวง/การเงินติดขัด): สีฟ้า หรือสีน้ำเงิน

วันจันทร์ “สีฟ้า-น้ำเงิน” ช่วยให้การเงินคล่องตัว

ชาววันจันทร์ เป็นคนอ่อนโยน มีเสน่ห์ และเน้นความมั่นคงในชีวิต การเลือกสีที่เสริมความเมตตาและช่วยให้เงินทองไหลเข้ามาจึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด ถ้าคุณเกิดวันจันทร์ แต่ไม่รู้ว่าจะใช้กระเป๋าสีอะไรดี เพื่อให้การเงินคล่องตัวและเสริมความเมตตา โทนสีฟ้า น้ำเงิน และขาวคือคำตอบ !

• สีเสริมทรัพย์ (เรียกเงินเข้า): สีฟ้า, สีน้ำเงิน หรือสีขาว
• สีเสริมอำนาจบารมี/การงาน: สีโทนเขียว
• สีเสริมความรัก/เมตตา: สีโทนม่วงเข้ม หรือสีดำ
• สีเสริมโชคลาภ: สีเขียว
• สีกาลกิณี (สีฉุดดวง/การเงินติดขัด): สีส้ม หรือสีแดง

วันอังคาร “สีเหลือง-ทอง” เสริมความมั่งคั่ง

ชาววันอังคาร เป็นคนกล้าหาญ มุ่งมั่น และตรงไปตรงมา การเสริมดวงด้วยสีที่นุ่มนวลจะช่วยดึงดูดความโชคดีและผู้ใหญ่อุปถัมภ์ คนที่เกิดวันอังคารควรใช้กระเป๋าสีอะไรดีให้เสริมความมั่งคั่งและมีผู้ใหญ่อุปถัมภ์ ? ลองเลือกสีโทนส้ม สีเหลือง และสีทองดูสิ นอกจากจะดูสดใสแล้ว ยังเป็นสีที่สามารถแมตช์ได้กับทุกวันอีกด้วย

• สีเสริมทรัพย์ (เรียกเงินเข้า): สีโทนส้ม, สีเหลือง หรือสีทอง
• สีเสริมอำนาจบารมี/การงาน: สีม่วง, สีเหลือง หรือสีดำ
• สีเสริมความรัก/เมตตา: สีแดง หรือสีชมพู
• สีเสริมโชคลาภ: สีส้ม
• สีกาลกิณี (สีฉุดดวง/การเงินติดขัด): สีขาว

วันพุธ (กลางวัน) “สีเหลือง-ครีม” ดึงดูดทรัพย์

ชาววันพุธกลางวันเป็นคนเก่งเจรจา มีความคล่องตัวสูง การเลือกสีกระเป๋าที่ช่วยเสริมเรื่องการเงินให้ไหลลื่นและดึงดูดโอกาสใหม่ ๆ จึงเหมาะสมที่สุด มาดูกันว่าคนเกิดวันพุธควรเลือกใช้กระเป๋าสีอะไรดี เพื่อให้การเงินไหลลื่นได้บ้าง

• สีเสริมทรัพย์ (เรียกเงินเข้า): สีเหลือง หรือสีครีม
• สีเสริมอำนาจบารมี/การงาน: สีเหลือง, สีส้ม หรือสีน้ำตาล
• สีเสริมความรัก/เมตตา: สีขาว หรือสีครีม
• สีเสริมโชคลาภ: สีเทา
• สีกาลกิณี (สีฉุดดวง/การเงินติดขัด): สีแดง หรือสีชมพู

วันพุธ (กลางคืน) “สีดำ-เทา” นำพาเงินทองและความสำเร็จ

ชาววันพุธกลางคืน มีเสน่ห์ลึกลับและมักจะได้รับความช่วยเหลือจากผู้คนรอบข้าง การใช้กระเป๋าสีที่เสริมความมั่นคงและความสำเร็จจึงจะช่วยให้ชีวิตก้าวหน้า สำหรับคนวันพุธกลางคืนควรเลือกใช้กระเป๋าโทนสีดำ-เทา หรือสีเข้ม อันเป็นสีตัวแทนของพระราหู เพราะจะช่วยนำพาให้เงินทองไหลมาเทมาไม่ขาดมือ

• สีเสริมทรัพย์ (เรียกเงินเข้า): สีโทนดำ หรือสีเทา
• สีเสริมอำนาจบารมี/การงาน: สีโทนส้ม
• สีเสริมความรัก/เมตตา: สีโทนขาว, สีเหลือง หรือสีครีม
• สีเสริมโชคลาภ: สีเทา
• สีกาลกิณี (สีฉุดดวง/การเงินติดขัด): สีแสด หรือสีชมพู

วันพฤหัสบดี “สีเขียว-แดง” เสริมความน่าเชื่อถือ

ชาววันพฤหัสบดี เป็นคนมีเหตุผล มีความรู้ และเป็นที่ปรึกษาที่ดี การเสริมดวงด้วยสีที่ช่วยสร้างความน่าเชื่อถือและความสำเร็จในหน้าที่การงานจึงเป็นเรื่องสำคัญ แล้วผู้ที่เกิดวันพฤหัสบดีควรจะเลือกใช้กระเป๋าสีอะไรดีให้ส่งเสริมพลังงานของตน พร้อมพาให้ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน และการเงิน ด้านล่างนี้มีคำตอบ

• สีเสริมทรัพย์ (เรียกเงินเข้า): สีเขียว หรือสีแดง
• สีเสริมอำนาจบารมี/การงาน: สีโทนฟ้า หรือสีน้ำเงิน
• สีเสริมความรัก/เมตตา: สีโทนส้ม หรือสีเหลือง
• สีเสริมโชคลาภ: สีครีม
• สีกาลกิณี (สีฉุดดวง/การเงินติดขัด): สีม่วง หรือสีดำ

วันศุกร์ “สีครีม-ขาว” รับทรัพย์แบบไม่ขาดมือ

ชาววันศุกร์ เป็นคนรักสวยรักงาม มีรสนิยมดี และมีความคิดสร้างสรรค์ การเลือกกระเป๋าที่มีสีสันสดใสที่ช่วยดึงดูดโชคลาภและความอุดมสมบูรณ์จึงเหมาะสมที่สุด ถ้าคุณเกิดวันศุกร์แต่ไม่รู้ต้องใช้กระเป๋าสีอะไรดี เพื่อให้เงินเข้าหลายทาง และเสริมโชคลาภ ? สีครีม สีเหลือง และสีขาวคือตัวเลือกที่คุณควรมองหา !

• สีเสริมทรัพย์ (เรียกเงินเข้า): สีครีม, สีเหลือง หรือสีขาว
• สีเสริมอำนาจบารมี/การงาน: สีชมพู หรือสีโทนแดง
• สีเสริมความรัก/เมตตา: สีโทนชมพู หรือสีเหลือง
• สีเสริมโชคลาภ: สีส้ม หรือสีโทนแดง
• สีกาลกิณี (สีฉุดดวง/การเงินติดขัด): สีดำ

วันเสาร์ “สีน้ำเงิน-ฟ้า นำพาความร่ำรวยและโชคลาภ

ชาววันเสาร์ เป็นคนเข้มแข็ง เด็ดขาด และมีความมั่นคงในชีวิต การเลือกกระเป๋าด้วยโทนสีที่ทรงพลัง จะช่วยเสริมความร่ำรวยและโชคลาภจากการเสี่ยงโชคให้ดียิ่งขึ้น แล้วคนวันเสาร์ควรใช้กระเป๋าสีอะไรดีที่จะเสริมความมั่นคงทางการเงินและโชคลาภจากการเสี่ยงโชค ? เรามีคำตอบ

• สีเสริมทรัพย์ (เรียกเงินเข้า): สีโทนฟ้า หรือน้ำเงิน
• สีเสริมอำนาจบารมี/การงาน: สีม่วง หรือสีดำ
• สีเสริมความรัก/เมตตา: สีโทนแดง หรือชมพู
• สีเสริมโชคลาภ: สีโทนฟ้า
• สีกาลกิณี (สีฉุดดวง/การเงินติดขัด): สีเขียว

3 แบรนด์เนมชั้นนำ กระเป๋าสตางค์ดีไซน์สวยที่น่าลงทุน

เมื่อรู้แล้วว่าควรใช้กระเป๋าสีอะไรดี จะเสริมดวงในปี 2026 นี้ ขั้นตอนต่อไปคือการเลือกกระเป๋าแบรนด์เนมที่มีคุณภาพและดีไซน์ที่ใช่ ซึ่งนับเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า เพราะนอกจากจะใช้งานได้นานแล้ว ยังช่วยเสริมภาพลักษณ์และความมั่นใจของคุณอีกด้วย

• Louis Vuitton (LV): โดดเด่นด้วยดีไซน์คลาสสิกเหนือกาลเวลา มีหลากหลายสีสันที่สวยงามและตรงตามดวง เช่น รุ่น Monogram Empreinte ที่มีสีชมพู (เสริมดวงวันอังคาร) หรือสีฟ้า (เสริมดวงวันเสาร์) ให้เลือก
• Gucci: เรียบหรู ใส่ใจรายละเอียดงานฝีมือ เหมาะสำหรับสายแฟชั่นที่ต้องการความโดดเด่นแต่ยังคงไว้ซึ่งความคลาสสิกเช่น รุ่น GG Marmont สีเหลืองอ่อน (เสริมดวงวันอังคารและพุธกลางวัน) ตลอดจน รุ่น Ophidia GG Card Case Wallet หรือรุ่นอื่น ๆ ที่มีแถบ Web Stripe สีเขียว-แดง (เสริมดวงวันอาทิตย์และวันพฤหัสบดี)
• Prada: เน้นดีไซน์ที่เรียบง่ายแต่โก้ (Minimalist Luxury) ใช้งานได้ในทุกโอกาส และมีโทนสีให้เลือกมากมาย เช่น รุ่น Saffiano Leather Wallet ไม่ว่าจะเป็นแบบใบสั้น (Small Wallet) หรือใบยาว (Large Wallet) เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด เพราะมีสีที่ครบถ้วน เหมาะสำหรับคนทุกวันเกิดที่มองหากระเป๋าสตางค์ดีไซน์เรียบหรูที่ใช้ได้ทุกวัน

ส่งต่อใบเก่าสู่ใบใหม่ที่เป็นมงคลไปกับ BRANDNAME VOYAGE ร้านรับซื้อกระเป๋าแบรนด์หรู

การเลือกสีกระเป๋ามงคลตามวันเกิด อาจเป็นเพียงกุญแจสำคัญที่ช่วยเสริมทั้งการเงิน การงาน และความรัก แต่ถ้าอยากเริ่มต้นใหม่กับกระเป๋าใบที่ใช่ สีที่ถูกโฉลกจริง ๆ บางครั้งก็ต้องบอกลากระเป๋าใบเก่าที่ไม่ได้ใช้งานแล้วไปก่อน

หากคุณกำลังมองหาช่องทางที่มั่นใจได้ ร้านรับซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมอย่าง BRANDNAME VOYAGE พร้อมเป็นตัวช่วย เพราะเรามีทีมผู้เชี่ยวชาญที่เข้าใจคุณค่าและดีไซน์ของทุกใบ ให้คุณส่งต่อกระเป๋าเก่าในราคาที่คุ้มค่า แล้วนำไปต่อยอดกับกระเป๋าสีมงคลใบใหม่ที่ตรงใจ เปลี่ยนความเชื่อเรื่องสีมงคลให้เป็นโอกาสใหม่ ๆ ในชีวิตได้ทันที

เปิดประสบการณ์ใหม่กับ BRANDNAME VOYAGE วันนี้ ทั้งทางออนไลน์และที่หน้าร้านทุกสาขา ได้แก่

• BRANDNAME VOYAGE – RAMA 9 (ตึก G Tower ชั้น B เชื่อมกับเซ็นทรัลพระราม 9)
• BRANDNAME VOYAGE – RANGSIT (Future Park รังสิต ชั้น 1 โซน Robinson)
• BRANDNAME VOYAGE – PHUKET (Robinson Lifestyle ถลาง ชั้น 1)
• และ BRANDNAME VOYAGE – CHIANG MAI ถนนมงฟอร์ต อำเภอเมืองเชียงใหม่ (เฉพาะรับซื้อ)

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่

• LINE: @brandnamevoyage
• Tel: 095-916-7171 (สำหรับผู้ที่สนใจซื้อสินค้า)
• LINE: @voyagepurchase
• Tel: 095-505-2229 (สำหรับผู้ที่สนใจฝากขายสินค้า)

ข้อมูลอ้างอิง

1. สีกระเป๋าสตางค์ตามวันเกิด 2026 เสริมสิริมงคล เรียกทรัพย์ รับโชคตลอดปี. สืบค้นเมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2568 จาก https://www.thairath.co.th/horoscope/belief/2826373

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการเลือกกระเป๋าสตางค์สีมงคล (FAQs)

Q : ควรเปลี่ยนกระเป๋าสตางค์สีมงคลช่วงไหนดีที่สุดในปี 2026 ?

A : ช่วงเวลาที่เหมาะที่สุดในการเปลี่ยนกระเป๋าสตางค์สีมงคล คือช่วงต้นปี วันขึ้นปีใหม่ วันมงคลตามปฏิทินไทย หรือช่วงที่เริ่มต้นเป้าหมายใหม่ เช่น เปลี่ยนงาน เริ่มธุรกิจ หรือปรับแผนการเงิน เพราะเชื่อกันว่าเป็นการ “รีเซ็ตพลังงานทางการเงิน” และช่วยเปิดโอกาสใหม่ ๆ ให้เงินไหลเข้ามาได้ราบรื่นยิ่งขึ้น

Q : ใช้กระเป๋าสีอะไรดี นอกจากสีมงคลตามวันเกิดแล้ว ต้องเลี่ยงสีอื่นหรือไม่ ?

A : ไม่จำเป็นต้องเลี่ยงสีอื่นทั้งหมด แต่ควรหลีกเลี่ยง “สีกาลกิณี” ตามวันเกิด โดยเฉพาะกระเป๋าสตางค์ที่ใช้เป็นประจำ เพราะเป็นไอเทมที่เกี่ยวข้องกับการเงินโดยตรง หากต้องการบาลานซ์ สามารถเลือกใช้สีเสริมทรัพย์เป็นหลัก และเลือกดีไซน์หรือวัสดุที่ช่วยเสริมภาพลักษณ์และความมั่นใจควบคู่กันไปได้

Q : กระเป๋าสตางค์ใบเก่าที่ไม่ใช้แล้ว ควรจัดการอย่างไรให้เป็นมงคล ?

A : ตามความเชื่อ ไม่ควรเก็บกระเป๋าสตางค์ที่ชำรุดหรือไม่ได้ใช้งานไว้เป็นเวลานาน เพราะอาจเป็นการเก็บพลังงานการเงินที่หยุดนิ่ง วิธีที่ดีคือการส่งต่อกระเป๋าใบเก่าให้เกิดมูลค่า เช่น ขายหรือฝากขายกับร้านรับซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมที่เชื่อถือได้ เพื่อนำเงินไปต่อยอดเป็นกระเป๋าใบใหม่ที่สีถูกโฉลกและเหมาะกับเป้าหมายชีวิตในปี 2026

แฟชั่นอาจเปลี่ยนไปตามฤดูกาล แต่ความคลาสสิกไม่เคยเลือนหายไปไหน เช่นเดียวกับ “กระเป๋าวินเทจ” ที่มักจะหวนกลับมาอยู่ในกระแสเสมอ ไม่ว่าจะผ่านมากี่ยุค กี่สมัย ใบที่เคยสร้างตำนานในอดีตก็ยังคงดึงดูดสายตาในปัจจุบัน และกลายเป็นของสะสมที่มีคุณค่าทั้งทางใจและเชิงลงทุน

สไตล์วินเทจคืออะไร ?

สไตล์วินเทจ คือ การผสมผสานกลิ่นอายแฟชั่นยุคเก่าเข้ากับปัจจุบัน สะท้อนผ่านดีไซน์ที่เรียบง่ายแต่โก้หรู เป็นเอกลักษณ์ที่บอกเล่าเรื่องราวผ่านวัสดุ งานฝีมือ และรายละเอียดเฉพาะของแต่ละยุค

เสน่ห์ของกระเป๋าแนววินเทจคือร่องรอยของประวัติศาสตร์แฟชั่น และความประณีตที่ไม่ได้เกิดขึ้นเพียงเพื่อตามเทรนด์ แต่เพื่อสร้างสิ่งที่อยู่เหนือกาลเวลา ใครที่ได้สัมผัสจะเข้าใจว่าสิ่งนี้ไม่ใช่แค่ “กระเป๋า” แต่คือชิ้นงานศิลป์ที่พกพาไปได้ทุกที่

12 รุ่นกระเป๋าวินเทจสุดชิค โอกาสไหนก็ถือได้ ไม่ตกยุค

1. Chanel Classic Flap Bag

หากพูดถึงกระเป๋าวินเทจที่เป็นตำนานของจริง ชื่อแรกที่ไม่อาจมองข้ามได้เลย คือ Chanel Classic Flap Bag ไอเทมสุดหรูประจำแบรนด์ เปิดตัวครั้งแรกในปี ค.ศ. 1955 โดย Coco Chanel โดดเด่นด้วยลาย Quilted อันเป็นเอกลักษณ์ สายโซ่หนังสานโลหะดูสง่างาม และตัวล็อกโลโก้ CC สีทองที่บ่งบอกความเป็นไอคอนิกของ Chanel

ดีไซน์ที่เรียบแต่โก้นี้ทำให้ Classic Flap เป็นกระเป๋าสะพายข้างวินเทจที่ผู้หญิงทั่วโลกต่างใฝ่ฝัน ไม่ว่าจะถือออกงานหรูหรือสะพายในชีวิตประจำวันก็ช่วยเสริมลุคให้ดูแพงขึ้นทันตา เรียกได้ว่ายืนหนึ่งในฐานะ Must-Have Item ที่ไม่มีวันตกยุค

ราคามือหนึ่ง : 420,000 บาท

ราคารีเซล : สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ LINE: @brandnamevoyage

2. Louis Vuitton Speedy 30

อีกหนึ่งตำนานที่ไม่มีใครไม่รู้จัก Louis Vuitton Speedy 30 กระเป๋าทรงโบว์ลิงที่เปิดตัวครั้งแรกตั้งแต่ปี ค.ศ. 1930 โดดเด่นด้วยผ้าแคนวาสลายโมโนแกรมอันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ มาคู่กับหูจับหนัง Vachetta ที่เมื่อใช้งานนาน ๆ จะยิ่งเปลี่ยนสีและมีเสน่ห์เฉพาะตัว

Speedy 30 ได้รับการออกแบบมาให้พกพาสะดวก น้ำหนักเบา ใช้งานได้ทั้งในชีวิตประจำวันและการเดินทาง แม้มีขนาดกะทัดรัดแต่ก็จุของได้เยอะกว่าที่คิด ทำให้เป็นกระเป๋าที่ครองใจสาว ๆ มาหลายยุคสมัย และยังคงเป็นหนึ่งในกระเป๋าวินเทจที่ได้รับความนิยมสูงในตลาดมือสองจนถึงปัจจุบัน

ราคามือหนึ่ง : ปัจจุบันไม่มีขายในช็อปแล้ว

ราคารีเซล : 17,900 บาท

3. Gucci Jackie 1961

กระเป๋าสะพายข้างวินเทจผู้หญิงที่กลายเป็นสัญลักษณ์ของแฟชั่นยุค 60’s เพราะ Jackie Kennedy เคยถือ จนได้รับการขนานนามใหม่ว่า Jackie Bag (เดิมชื่อ Fifties Constance) โดยความพิเศษของ Jackie 1961 อยู่ที่รูปทรงโค้งมนสวย ตกแต่งด้วยฮาร์ดแวร์แบบลูกสูบอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของ Gucci ใช้ได้ทั้งสะพายไหล่และ Crossbody เหมาะสำหรับทั้งลุคทางการและลุคสตรีตแฟชั่น เป็นหนึ่งในกระเป๋าวินเทจที่สะท้อนกลิ่นอายของ Gucci ยุคคลาสสิกได้อย่างลงตัว

ราคามือหนึ่ง : 145,000-170,500 บาท

ราคารีเซล : 34,900-42,900 บาท

4. Dior Saddle Bag

หากพูดถึงกระเป๋าที่มีดีไซน์แปลกตาไม่เหมือนใคร Dior Saddle Bag ต้องอยู่ในลิสต์อย่างแน่นอน ด้วยรูปทรงโค้งมนที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก “อานม้า” ทำให้กลายเป็นผลงานอันโดดเด่นตั้งแต่เปิดตัวครั้งแรกในปี ค.ศ. 1999 โดย John Galliano

เอกลักษณ์ที่ทุกคนจดจำได้ทันทีคือ สัญลักษณ์ตัว D สีทองเหลืองที่ห้อยอยู่ด้านหน้า และผ้าแคนวาส Dior Oblique Monogram ที่สะท้อน DNA ของแบรนด์ได้อย่างเต็มเปี่ยม สะท้อนกลิ่นอายยุค Y2K แบบสุด ๆ ไม่ว่าจะเป็นแบบหนังเรียบหรือแบบแคนวาสลายโมโนแกรม ปัจจุบัน Saddle Bag ก็ยังคงเป็นหนึ่งในกระเป๋าวินเทจที่หลายคนตามหามากที่สุด

ราคามือหนึ่ง : 140,000-155,000 บาท

ราคารีเซล : 28,900-59,900 บาท

5. Hermès Kelly Bag

หากพูดถึงกระเป๋าที่สะท้อนความหรูหราและสง่างามที่สุดในโลกแฟชั่น ชื่อของ Hermès Kelly Bag คงเป็นที่กล่าวถึงในอันดับต้น ๆ อย่างไม่ต้องสงสัย เดิมทีกระเป๋ารุ่นนี้ได้รับการออกแบบมาตั้งแต่ช่วงทศวรรษ 1930 แต่มาได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายหลังจากที่เจ้าหญิง Grace Kelly แห่งโมนาโก ใช้กระเป๋ารุ่นนี้ปกปิดพระครรภ์ในช่วงทรงตั้งครรภ์ ภาพถ่ายที่เป็นไวรัลครั้งนั้นทำให้กระเป๋าใบนี้ถูกจารึกชื่อว่า “Kelly” ทันที

ด้วยโครงสร้างที่คมชัด หูหิ้วเดี่ยว และตัวล็อกแบบ Turn-Lock คือเอกลักษณ์ที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลง ผลิตด้วยงานฝีมือสุดประณีตจากช่าง Hermès ที่ใช้เวลาหลายสิบชั่วโมงต่อหนึ่งใบ เป็นอีกหนึ่งกระเป๋าวินเทจที่หายากและทรงคุณค่าไม่แพ้รุ่นไหน ๆ

ราคามือหนึ่ง : 390,000-440,000 บาท (ปรับเพิ่มขึ้นทุกปี)

ราคารีเซล : สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ LINE: @brandnamevoyage

6. Prada Nylon Re-Edition

หนึ่งในเหตุการณ์ที่ทำให้ Prada ก้าวขึ้นมาเป็นเบอร์ต้นในโลกแฟชั่น คือการใช้วัสดุไนลอนมาทำกระเป๋า Prada Nylon Re-Edition ซึ่งแตกต่างจากงานหนังสุดหรูที่เคยเป็นมาตรฐานของวงการ สะท้อนความกล้าท้าทายของแบรนด์ และแน่นอนว่ากระเป๋ารุ่นนี้ก็กลายเป็นไอเทมแห่งยุค 90’s ได้อย่างไร้ข้อกังขา จุดเด่นอยู่ที่ความเบา ทนทาน และดีไซน์มินิมอลที่มาพร้อมโลโก้สามเหลี่ยมอันเป็นซิกเนเจอร์ของ Prada

ราคามือหนึ่ง : 48,000-73,000 บาท

ราคารีเซล : 18,900-35,900 บาท

7. Fendi Baguette

หลังจากเปิดตัวครั้งแรกในปี ค.ศ. 1997 Fendi Baguette ก็สร้างปรากฏการณ์ใหม่ในโลกแฟชั่นทันที ด้วยดีไซน์ทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าเล็กกะทัดรัด ขนาดพอดีแขนให้ถือแบบหนีบไว้ใต้รักแร้ ซึ่งเป็นที่มาของชื่อ “Baguette” ที่เปรียบเหมือนขนมปังฝรั่งเศสแท่งยาวที่ถือได้อย่างง่ายดาย

ความโดดเด่นของรุ่นนี้อยู่ที่ฝาพับพร้อมตัวล็อกโลโก้ “FF” อันเป็นเอกลักษณ์ รวมถึงวัสดุที่หลากหลายตั้งแต่ผ้าโมโนแกรม Zucca สุดคลาสสิก ไปจนถึงหนังลายพิเศษหรือการตกแต่งแบบลิมิเต็ด เป็นไอคอนระดับโลกที่ยังคงได้รับความนิยมต่อเนื่อง โดยเฉพาะในเวอร์ชันวินเทจ ซึ่งมีเสน่ห์เฉพาะตัวและหาได้ยาก

ราคามือหนึ่ง : 79,100-121,900 บาท

ราคารีเซล : สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ LINE: @brandnamevoyage

8. Celine Classic Box Bag

ความเรียบง่ายที่เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์คือหัวใจของ Celine Classic Box Bag กระเป๋าทรงเหลี่ยมที่ออกแบบด้วยเส้นสายที่คมชัด เรียบง่าย สะอาดตา แต่เต็มไปด้วยความโฉบเฉี่ยว วัสดุที่ใช้เป็นหนังคุณภาพสูง ผิวเนียนละเอียด เสริมด้วยตัวล็อกโลหะที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของแบรนด์

ด้วยดีไซน์ที่มีความมินิมอลเหนือกาลเวลา กระเป๋าวินเทจรุ่นนี้จึงเป็นตัวแทนที่สมบูรณ์แบบของคำว่า “น้อยแต่มาก เรียบแต่โก้ High Fashion” ไม่ว่าจะถือในโอกาสทางการหรือในชีวิตประจำวันก็ดูสง่างามเสมอ

ราคามือหนึ่ง : ปัจจุบันไม่มีขายในช็อปแล้ว

ราคารีเซล : สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ LINE: @brandnamevoyage

9. YSL Kate Bag

ความหรูหราแบบโมเดิร์นถูกถ่ายทอดออกมาอย่างสมบูรณ์แบบใน YSL Kate Bag กระเป๋าคลาสสิกที่มีเอกลักษณ์อยู่ที่โลโก้ YSL สีเงินหรือทองโดดเด่นบนตัวกระเป๋าหนังเรียบหรู เสริมด้วยสายโซ่โลหะที่ช่วยเพิ่มความสง่างามในทุกลุค ไม่ว่าจะเลือกหนังแบบเรียบ หนังลายคาร์เวียร์ หรือหนังเอ็กโซติก Kate Bag ก็ยังคงเป็นตัวแทนของความโก้หรูที่ไร้กาลเวลา เหมาะสำหรับโอกาสพิเศษ เช่น ดินเนอร์ ปาร์ตี หรืออีเวนต์ที่ต้องการความโดดเด่น เป็นหนึ่งในกระเป๋าสะพายข้างวินเทจผู้หญิงที่ยังคงเป็นที่ต้องการสูงในตลาดแฟชั่นมือสอง

ราคามือหนึ่ง : 73,350-107,900 บาท

ราคารีเซล : 30,900-40,900 บาท

10. Loewe Amazona

Loewe Amazona เปิดตัวครั้งแรกในปี ค.ศ. 1975 ได้รับการออกแบบเพื่อตอบโจทย์ผู้ที่ชอบสไตล์หรูหราในชีวิตประจำวัน มาในดีไซน์ Doctor Bag ที่มีโครงสร้างแข็งแรง จับคู่กับหูหิ้วและซิปด้านบน ผสานความสมดุลระหว่างความสุภาพเรียบร้อยและความลักชูรีได้อย่างลงตัว นอกจากนี้ เอกลักษณ์อีกหนึ่งอย่างที่ทำให้ Amazona แตกต่าง คือแม่กุญแจโลหะขนาดเล็กที่ห้อยอยู่ด้านหน้า ซึ่งเป็นดีเทลที่บ่งบอกความเป็น Loewe ได้ทันที

ราคามือหนึ่ง : 142,660-175,950 บาท

ราคารีเซล : สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ LINE: @brandnamevoyage

11. Balenciaga City Bag

City Bag เปิดตัวครั้งแรกในปี ค.ศ. 2001 โดย Nicolas Ghesquière ดีไซเนอร์ของแบรนด์ในยุคนั้น ต้องบอกว่า City Bag ได้เปลี่ยนภาพลักษณ์ของกระเป๋าดีไซเนอร์ไปอย่างสิ้นเชิง จากที่เคยนิยมโครงสร้างแข็งแรง กลับหันมาใช้หนังแกะที่ทั้งนุ่มและเบา แล้วยิ่งเพิ่มความดิบเท่ในแบบ Rock Chic ยิ่งขึ้นไปอีกเมื่อตกแต่งด้วยหมุดโลหะและซิปยาว เป็นที่ชื่นชอบของเหล่าเซเลบริตีในยุค 2000’s ไม่ว่าจะเป็น Kate Moss หรือ Mary-Kate Olsen

ราคามือหนึ่ง : 78,500-104,500 บาท

ราคารีเซล : 19,900-33,900 บาท

12. Miu Miu Matelassé Bag

เอกลักษณ์ที่โดดเด่นของ Matelassé Bag อยู่ที่เทคนิคการเย็บหนังแบบจับจีบ (Matelassé) ที่ให้สัมผัสนุ่มมือ และลวดลายสามมิติสุดประณีต ซึ่งกลายเป็นซิกเนเจอร์ที่สาวกแบรนด์เนมจดจำได้ทันที เสริมด้วยโลโก้ตัวอักษร Miu Miu ที่ด้านหน้า เพิ่มความหรูหราสไตล์คุณหนูสุดชิค ดีไซน์ของรุ่นนี้ผสมผสานความหวานและความวินเทจเข้ากันได้อย่างลงตัว ใช้ได้ทั้งแบบถือและสะพายข้าง เหมาะสำหรับสาว ๆ ที่ต้องการเติมเสน่ห์ให้กับลุคประจำวัน

ราคามือหนึ่ง : 63,000-135,000 บาท

ราคารีเซล : 14,900-29,900 บาท

เมื่อมองย้อนกลับไปที่ทั้ง 12 รุ่น จะเห็นได้ชัดว่ากระเป๋าวินเทจคือความงดงามที่บันทึกเรื่องราวของแฟชั่นและยุคสมัยเอาไว้ ดังนั้น การครอบครองกระเป๋าเหล่านี้จึงเปรียบเหมือนการถือครองชิ้นงานศิลป์ที่คุ้มค่า ไม่ว่าจะเพื่อการใช้งานจริง หรือเพื่อการลงทุนระยะยาว

และหากคุณมีไอเทมสุดคลาสสิกที่อยากปล่อยต่อให้คนที่ตามหา BRANDNAME VOYAGE มีบริการรับซื้อกระเป๋าแบรนด์ ให้ราคาสูง โดยมีทีมงานพร้อมประเมินอย่างมืออาชีพ มั่นใจได้ทั้งเรื่องมาตรฐานและความโปร่งใส เพื่อให้กระเป๋าใบโปรดของคุณได้เดินทางต่อสู่เจ้าของคนใหม่อย่างสง่างาม

ส่งกระเป๋าเข้าประเมินได้ง่าย ๆ ทั้งออนไลน์และที่หน้าร้านทุกสาขา ได้แก่

• BRANDNAME VOYAGE – RAMA 9 (ตึก G Tower ชั้น B เชื่อมกับเซ็นทรัลพระราม 9)
• BRANDNAME VOYAGE – RANGSIT (Future Park รังสิต ชั้น 1 โซน Robinson)
• BRANDNAME VOYAGE – PHUKET (Robinson Lifestyle ถลาง ชั้น 1)
• BRANDNAME VOYAGE – CHIANG MAI ถนนมงฟอร์ต อำเภอเมืองเชียงใหม่ (เฉพาะรับซื้อ)

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่

• LINE: @brandnamevoyage
• Tel: 095-916-7171 (สำหรับผู้ที่สนใจซื้อสินค้า)
• LINE: @voyagepurchase
• Tel: 095-505-2229 (สำหรับผู้ที่สนใจฝากขายสินค้า)

ข้อมูลอ้างอิง

1. กระเป๋า 11.12 รุ่นคลาสสิก, หนังแกะและโลหะสีทอง, สีดำ — แฟชั่น | CHANEL. สืบค้นเมื่อวันที่ 12 กันยายน 2568 จาก https://www.chanel.com/th/fashion/p/A01112Y0129594305/classic-11-12-handbag-lambskin/.
2. 8 Years with My First Luxury Bag: Louis Vuitton Speedy 30 Review. สืบค้นเมื่อวันที่ 12 กันยายน 2568 จาก https://www.theshopaholic-diaries.com/2025/05/8-years-with-my-first-luxury-bag-louis.html.
3. Gucci Jackie. สืบค้นเมื่อวันที่ 12 กันยายน 2568 จาก https://www.gucci.com/th/th/st/capsule/jackie-1961?srsltid=AfmBOooAw8iBo4ney4wcuFgtS5CY0A53MA8631E3x00G3kIibG-QW-pQ.
4. Saddle. สืบค้นเมื่อวันที่ 12 กันยายน 2568 จาก https://www.dior.com/en_th/fashion/womens-fashion/bags/saddle.
5. All about the Hermès Kelly bag collection. สืบค้นเมื่อวันที่ 12 กันยายน 2568 จาก https://www.hermes.com/th/en/content/106196-kelly/.
6. Prada Re-Edition. สืบค้นเมื่อวันที่ 12 กันยายน 2568 จาก https://www.prada.com/th/th/womens/essentials/prada-re-edition/c/10103TH.
7. FENDI Baguette Bags Collection for Women | FENDI US. สืบค้นเมื่อวันที่ 12 กันยายน 2568 จาก https://www.fendi.com/us-en/woman/bags/baguette-black?srsltid=AfmBOor58gmoUTfQtQG8O9Tu7Io7ryLe2J3HrlLrlAvyIuOHIf9wUhmW.
8. Unbox and First Impression – New Celine Box Bag Medium 2022. สืบค้นเมื่อวันที่ 12 กันยายน 2568 จาก https://styleandsenses.com/unbox-and-first-impression-new-celine-box-bag-medium-2022/.
9. Shop LOEWE Amazona Bag for Women | Amazona Purse Collection – LOEWE. สืบค้นเมื่อวันที่ 12 กันยายน 2568 จาก https://www.loewe.com/apc/en/women/bags/amazona
10. Women’s Le City | Balenciaga TH. สืบค้นเมื่อวันที่ 12 กันยายน 2568 จาก https://www.balenciaga.com/en-th/women/bags/le-city.
11. Bags For Women | Miu Miu. สืบค้นเมื่อวันที่ 12 กันยายน 2568 จาก https://www.miumiu.com/th/en/bags/c/10268TH.

ในโลกของแฟชั่นไฮเอนด์ “Lambskin” คือวัสดุที่ครองใจดีไซเนอร์และแฟชั่นนิสต้าทั่วโลก ด้วยสัมผัสนุ่มละมุน เบา หรูหรา และเต็มไปด้วยเสน่ห์ที่ยากจะต้านทาน ไม่ว่าจะอยู่บนกระเป๋าคลาสสิกหรือแอกเซสซอรีสุดชิค หนังแกะชนิดนี้ก็คือสัญลักษณ์ของความหรูที่แท้จริง

Lambskin Leather คือหนังอะไร รู้จักเสน่ห์แห่งความนุ่มหรูบนกระเป๋าไฮเอนด์

Lambskin Leather คือหนังที่ทำมาจากหนังแกะอายุน้อย โดยทั่วไปคือแกะที่มีอายุต่ำกว่าหนึ่งหรือสองปี โดยหนังชนิดนี้ได้รับการยกย่องว่าเป็น “ราชินีหนังนุ่ม” ในอุตสาหกรรมแฟชั่น ด้วยคุณสมบัติที่นุ่มเป็นพิเศษ ให้ความยืดหยุ่น น้ำหนักเบา และมีพื้นผิวที่ละเอียด หนังแกะชนิดนี้มีสัมผัสเนียนนุ่มดุจเนย มอบความรู้สึกหรูหราและสง่างาม พร้อมด้วยเกล็ดผิวที่ละเอียดประณีตกว่า และมีตำหนิน้อยกว่าหนังประเภทอื่น เช่น หนังวัวหรือหนังแกะทั่วไป

คุณสมบัติเด่นของ Lambskin Leather

• นุ่มและยืดหยุ่นสูง สัมผัสที่แตกต่างจากหนังวัวหรือหนังชนิดอื่น ทำให้เหมาะกับงานดีไซน์ที่เน้นความหรูหรา
• เงางามและหรูหรา เพิ่มมิติความพรีเมียมให้ตัวกระเป๋าโดยไม่ต้องตกแต่งมาก
• น้ำหนักเบา พกพาสบาย เหมาะกับการทำกระเป๋า เพื่อใช้งานจริงในชีวิตประจำวัน
• รับสีได้สวย เพราะเฉดสีที่ลงบนหนังแกะมักมีความสด ชัดเจน ดูโดดเด่น จึงทำให้เป็นที่นิยมในวงการแฟชั่น

กระเป๋าหนัง Lambskin เหมาะกับใคร ?

• สายแฟชั่นผู้หลงใหลความหรูหรา : หากคุณคือคนที่ชื่นชอบดีไซน์เหนือระดับ และสัมผัสนุ่มละมุนที่แตกต่าง กระเป๋าหนัง Lambskin จะเป็นคำตอบที่ใช่
• ผู้ที่พิถีพิถันในการดูแล : หนังแกะต้องการความเอาใจใส่เป็นพิเศษ จึงเหมาะกับคนที่พร้อมจะดูแลรักษาอย่างละเอียดอ่อน เพื่อคงความงามให้นานที่สุด
• นักสะสม Designer Bag : สำหรับผู้ที่มองหาการลงทุนในกระเป๋าที่ทั้งคงคุณค่าและมีมูลค่าต่อเนื่องในตลาด กระเป๋าหนัง Lambskin คือหนึ่งในตัวเลือกที่ห้ามมองข้าม

Lambskin Leather หนังกระเป๋าที่ครองใจวงการ Luxury Fashion

ต้องบอกว่าแบรนด์ดังระดับ Global อย่าง Chanel, Dior หรือแม้กระทั่ง Hermes ต่างก็มีตัวเลือกกระเป๋าที่ใช้ Lambskin Leather เป็นวัสดุหลัก เพราะคือสิ่งที่สะท้อนทั้งความหรูหรา ความงามเหนือกาลเวลา และความรู้สึกพิเศษที่เหนือกว่าหนังชนิดอื่น ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้การครอบครองกระเป๋า Lambskin สักใบ ไม่ใช่แค่การมีแฟชั่นไอเทมตามกระแสนิยม แต่คือการลงทุนในงานศิลปะที่ผสานทักษะงานฝีมือและวัสดุที่เลอค่าเอาไว้อย่างลงตัว

วิธีดูแลกระเป๋าหนัง Lambskin อย่าง Stylist Guru

กระเป๋าหนัง Lambskin อาจเป็นไอเทมที่สะกดทุกสายตา แต่ก็เป็นหนึ่งในวัสดุที่ “บอบบาง” ที่สุดในโลกแฟชั่น หากอยากให้ความนุ่มหรูคงอยู่ยาวนานเหมือนวันแรกที่ครอบครอง จำเป็นต้องใช้ทริกการดูแลอย่างผู้เชี่ยวชาญในทุกขั้นตอน

เคล็ดลับการทำความสะอาด

• เลือกใช้ผลิตภัณฑ์เฉพาะสำหรับหนังแกะ เช่น น้ำนมบำรุงหนัง หรือโฟมสูตรอ่อนโยน หลีกเลี่ยงการใช้ทิชชูเปียกหรือสารทำความสะอาดทั่วไป เพราะอาจทำให้ผิวหนังแห้งหรือเกิดรอยเสียหาย
• ใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์เนื้อนุ่ม เช็ดเบา ๆ เป็นประจำเพื่อคงความเงางาม

เคล็ดลับการปกป้องหนังแกะให้สวยและนุ่ม

• ฉีดสเปรย์กันน้ำและกันคราบสำหรับหนังแท้ก่อนใช้งาน เพื่อสร้างเกราะป้องกันจากความชื้นและสิ่งสกปรก
• เก็บกระเป๋าในถุงผ้า (Dust Bag) แทนถุงพลาสติก เพื่อลดความเสี่ยงจากการเกิดเชื้อรา
• หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับของแข็งหรือสารเคมีที่อาจสร้างรอยถาวรบนผิวหนัง

ทริกเก็บรักษาให้คงรูป

• สำหรับกระเป๋าที่มีสายโซ่โลหะ ควรแขวนหรือห่อโซ่ด้วยผ้านุ่มก่อนเก็บ เพื่อป้องกันการกดทับบนตัวหนัง
• เมื่อเก็บในกล่อง ควรใส่วัสดุซัปพอร์ตด้านใน เช่น หมอนรองหรือกระดาษทิชชู เพื่อรักษาทรงกระเป๋าให้สวยงามเสมอ
• วางกระเป๋าในที่ที่อากาศถ่ายเทได้ดี หลีกเลี่ยงแสงแดดโดยตรงและความร้อนสูง

กระเป๋าหนัง Lambskin รุ่นฮิตที่สายแฟชั่นต้องมี

Chanel Classic Flap Bag Quilted Lambskin สี Vintage Black สุดไอคอนิก

ไม่มีใครไม่รู้จัก Chanel Classic Flap Bag ไอเทมระดับตำนานที่เป็นสัญลักษณ์แห่งความคลาสสิกตลอดกาล ดีไซน์ Quilted Lambskin สีดำวินเทจ ผสานกับโซ่โลหะทองและโลโก้ CC อันโดดเด่น ทำให้กระเป๋าใบนี้ทั้งหรูหราและทันสมัยในเวลาเดียวกัน ถือได้ทั้งกลางวันและกลางคืน เหมาะกับทุกลุคตั้งแต่ Casual Chic จนถึง Evening Glam

Medium Lady Dior Bag Cannage Lambskin สี Powder Beige คลาสสิกเหนือกาลเวลา

Lady Dior คือกระเป๋าที่สะท้อน DNA ของแบรนด์ Dior ได้อย่างชัดเจน ด้วยลาย Cannage Quilting ที่เป็นเอกลักษณ์ บนหนัง Lambskin สี Powder Beige ที่ให้ความละมุนและหรูหราแบบเรียบง่าย ดีไซน์โครงสร้างกระเป๋าแบบ Boxy Shape ทำให้ถือแล้วดูสง่างามทุกมุม พร้อมพวงกุญแจ “D.I.O.R.” อันเป็นเอกลักษณ์ คนที่ชอบไอเทมเสริมความเป็นเฟมินีน มีความหรูหรา ลูกคุณหนู ก็ต้องมีไว้ครอบครองสักใบ

Gucci GG Marmont Small Shoulder Bag สี Rosso Ancora Red เติมพลังความโมเดิร์น

สำหรับสายแฟที่ชอบความสดใหม่ Gucci GG Marmont คือคำตอบ ด้วยดีไซน์ทรงโค้งมน สายโซ่ทอง และโลโก้ GG Oversized สุดชิค หนัง Lambskin สีแดง Rosso Ancora Red คือสีที่เพิ่มพลังความมั่นใจและเสน่ห์สุดโมเดิร์น ใบนี้แมตซ์ได้ตั้งแต่ลุคสตรีตคูล ๆ ไปจนถึงลุคปาร์ตี้สุดเปรี้ยว เรียกได้ว่าเป็นใบที่ช่วยอัปเกรดสไตล์ได้ทันที

 

Bottega Veneta Campana Nocciola Lambskin สัมผัสเรียบหรูอย่างมีเอกลักษณ์

Bottega Veneta Campana โดดเด่นด้วยงานหนัง Lambskin ที่สานอย่างประณีตในโทนสี Nocciola อบอุ่น นุ่มนวล ดีไซน์กระเป๋าทรง Hobo ให้ฟีล Effortless Luxury ที่ถือได้ทุกวันและไม่เคยตกเทรนด์ จุดแข็งของรุ่นนี้คือความ Practical ใช้งานง่ายแต่ยังคงหรูหราด้วยงานฝีมืออันละเอียดอ่อนในแบบฉบับ Bottega Veneta เหมาะกับสาวที่ชอบความเรียบง่าย แต่แฝงไปด้วยรสนิยมที่ไม่ธรรมดา

หากคุณกำลังมองหากระเป๋าแบรนด์เนม วัสดุ Lambskin Leather ที่ทั้งหรูหราและคงคุณค่า BRANDNAME VOYAGE คือจุดหมายที่คุณมั่นใจได้ เพราะเราคัดสรรและตรวจสอบคุณภาพกระเป๋าแบรนด์เนมทุกใบอย่างละเอียด เพื่อให้คุณได้เลือกครอบครอง หรือใช้บริการรับซื้อแบรนด์เนมต่อได้อย่างมั่นใจ

คุณสามารถเลือกช็อปกระเป๋ามือสองในสภาพงดงามเหมือนใหม่ หรือส่งต่อกระเป๋าของคุณให้ยังคงคุณค่าได้ที่ BRANDNAME VOYAGE สามารถชมสินค้าได้ผ่านทางเว็บไซต์ หรือเข้ามาที่หน้าร้านได้ทุกสาขา ดังนี้

• BRANDNAME VOYAGE – RAMA 9 (ตึก G Tower ชั้น B เชื่อมกับเซ็นทรัลพระราม 9)
• BRANDNAME VOYAGE – RANGSIT (Future Park รังสิต ชั้น 1 โซน Robinson)
• BRANDNAME VOYAGE – PHUKET (Robinson Lifestyle ถลาง ชั้น 1)
• BRANDNAME VOYAGE – CHIANG MAI ถนนมงฟอร์ต อำเภอเมืองเชียงใหม่ (เฉพาะรับซื้อ)

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่

• LINE: @brandnamevoyage
• Tel: 095-916-7171 (สำหรับผู้ที่สนใจซื้อสินค้า)
• LINE: @voyagepurchase
• Tel: 095-505-2229 (สำหรับผู้ที่สนใจฝากขายสินค้า)

ข้อมูลอ้างอิง

1. A Definitive List of the Hottest Designer Bags of the Season, According to ELLE Editors. สืบค้นเมื่อวันที่ 11 กันยายน 2568 จาก https://www.elle.com/fashion/shopping/g44592109/best-designer-bags/

การไปต่างประเทศของหลาย ๆ คน นอกจากจะไปท่องเที่ยวรับประสบการณ์ใหม่ ๆ หรือการไปทำธุรกิจแล้ว เชื่อว่าก็มักจะไปซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมหรูในประเทศผู้ผลิตใช่หรือไม่ ? เพราะนอกจากจะมีรูปแบบและสีสันให้เลือกหลากหลายมากกว่าในไทยแล้ว ยังมีราคาที่ต่ำกว่า และยังมั่นใจได้ว่าสินค้านั้นมาจากแหล่งผลิตแท้จริง นอกจากนี้หลายคนก็ใช้วิธีการสั่งซื้อออนไลน์เข้ามา เพื่อให้ชัวร์ว่ากระเป๋าแบรนด์เนมที่ได้มานั้นเป็นสินค้าของแท้แน่นอนและราคาก็ยังย่อมเยากว่าในช็อป

แต่รู้หรือไม่ว่า การซื้อกระเป๋าแบรนด์เนม ไม่ว่าจะด้วยการหิ้วมาเองหรือการสั่งออนไลน์ เมื่อนำเข้ามาในประเทศคุณอาจจะต้องเสียภาษีตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ที่เรียกกันว่า “ภาษีแบรนด์เนม” ดังนั้น การเข้าใจเรื่องภาษีที่เกี่ยวข้องกับกระเป๋าแบรนด์เนมจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ผู้ชื่นชอบกระเป๋าหรูต้องรู้

ทำความรู้จัก ภาษีกระเป๋าแบรนด์เนมคืออะไร ?

“ภาษีกระเป๋าแบรนด์เนม” คือ ภาษีนำเข้าที่ผู้นำเข้าต้องชำระเมื่อหิ้วกระเป๋าแบรนด์จากต่างประเทศเข้ามาในประเทศไทย 

การเก็บภาษีแบรนด์เนมนั้นเป็นไปเพื่อนำเงินภาษีมาพัฒนาประเทศ และเอื้อประโยชน์ให้ผู้จำหน่ายสินค้าประเภทเดียวกัน และเป็นตัวแทนจำหน่ายที่จ่ายภาษีอย่างถูกต้องในประเทศสามารถทำการค้าได้อย่างเป็นธรรม 

โดยกระเป๋าแบรนด์เนมที่นำเข้ามานั้นจะต้องเสียภาษี 2 ประเภท 

• ภาษีนำเข้า หรืออากรขาเข้า (Import Duty) ตามพระราชกำหนดพิกัดอัตราศุลกากร พ.ศ. 2530 กรมศุลกากรได้กำหนดอัตราภาษีสำหรับกระเป๋าแบรนด์เนมนำเข้าอยู่ที่ 20% ของมูลค่ารวมของกระเป๋า (ราคาสินค้า ค่าขนส่ง และค่าประกัน หรือ CIF)  
• ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) นอกจากนั้น กรมศุลกากรยังเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มเพื่อนำส่งให้กรมสรรพสามิตด้วย ปัจจุบันภาษีมูลค่าเพิ่มของกระเป๋าแบรนด์เนมอยู่ที่อัตรา 7% โดยใช้การคำนวณจากมูลค่ารวมของกระเป๋าและภาษีนำเข้า
  

กระเป๋าแบรนด์เนมต้องเสียภาษีทุกใบหรือไม่?

เมื่อคุณนำกระเป๋าแบรนด์เนมเข้ามา ถ้ากระเป๋าใบนั้นมีราคาสูงกว่า 20,000 บาท คุณจะต้องเสียภาษีกระเป๋าแบรนด์เนมตามกฎหมาย แต่นั่นไม่ใช่กฎเพียงอย่างเดียวที่กรมศุลกากรกำหนดไว้ 

ทางกรมศุลกากรกำหนดไว้ให้ผู้นำเข้ากระเป๋าแบรนด์เนมจ่ายภาษีตามกฎระเบียบ โดยมีเงื่อนไขที่ควรรู้ ดังนี้ 

• ของใช้ส่วนตัวที่นำติดตัวเข้ามา หากมีมูลค่ารวม ไม่เกิน 20,000 บาท และอยู่ใน “ปริมาณที่เหมาะสมเพื่อการใช้ส่วนตัว” จะได้รับการยกเว้นภาษี
• หากสิ่งที่นำเข้ามามีมูลค่าเกิน 20,000 บาท หรือมีจำนวนหลายชิ้นจนเข้าข่าย “เชิงพาณิชย์” ต้องเสียภาษีนำเข้าและ VAT ตามพิกัด
• หากนำเข้าทางไปรษณีย์หรือขนส่ง เช่น ซื้อออนไลน์ ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือ VAT ในอัตรา 7% แม้สินค้าจะมูลค่าต่ำกว่า 1,500 บาท กฎนี้บังคับใช้ตั้งแต่กลางปี พ.ศ. 2567 และมีผลต่อเนื่องถึงสิ้นปี พ.ศ. 2568 โดยคำนวณเพิ่มเติมจากภาษีนำเข้า

นอกจากนี้ ก่อนจะออกนอกประเทศ หากตรวจสอบแล้วว่าของใช้ส่วนตัว เช่น กล้องถ่ายภาพ นาฬิกาหรู เสื้อผ้า หรือกระเป๋าแบรนด์เนม มีมูลค่ารวมกันเกิน 20,000 บาท และมีความเสี่ยงถูกตรวจสอบจากศุลกากรขาเข้า ควรนำใบเสร็จหรือหลักฐานการซื้อสินค้า พร้อมกับภาพถ่ายของสิ่งของที่ต้องการสำแดง จำนวน 2 ชุด ไปลงทะเบียนสำแดงสิ่งของก่อนเดินทางได้ที่จุดบริการสนามบิน เมื่อสำแดงแล้ว จะได้รับ “ใบรับแจ้ง” ซึ่งให้เก็บไว้เพื่อนำมาแสดงในวันเดินทางกลับประเทศ เพื่อป้องกันการถูกเรียกเก็บภาษีแบรนด์เนมซ้ำเมื่อผ่านด่านศุลกากรขาเข้า

วิธีคำนวณภาษีกระเป๋าแบรนด์เนม

ถึงเวลาบริหารสมองกันแล้ว ! ตอนนี้คุณก็ได้รู้ว่า ถ้าจะนำกระเป๋าแบรนด์เนมเข้าประเทศ ต้องเตรียมเงินไว้เผื่อสำหรับการจ่ายภาษีด้วย โดยภาษีแบรนด์เนมสามารถคำนวณได้ง่าย ๆ ด้วยสูตรนี้

(1) ภาษีนำเข้า หรืออากรขาเข้า = มูลค่ารวมของสินค้า (CIF) x อัตราภาษีขาเข้า (ในที่นี้คือกระเป๋าแบรนด์เนมที่มีกำหนดอัตราภาษีที่ 20% ของราคาสินค้า)

(2) ภาษีมูลค่าเพิ่ม = (ราคาสินค้า + อากรขาเข้า) x  อัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% 

(3) ภาษีทั้งหมดที่ต้องชำระ = ภาษีนำเข้า + ภาษีมูลค่าเพิ่ม

ตัวอย่าง 

คุณซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมมาจากอิตาลี รวมมูลค่า CIF ของสินค้าอยู่ที่ 82,000 บาท

(1) ภาษีนำเข้า 20% : 82,000 × 20% = 16,400 บาท

(2) ภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% : (82,000 + 16,400) x 7% = 6,888 บาท

(3) ภาษีทั้งหมดที่ต้องชำระ : 16,400 + 6,888 = 23,288 บาท

รวมแล้ว คุณต้องจ่ายภาษีแบรนด์เนมสำหรับกระเป๋าใบนี้ทั้งสิ้น 23,288 บาท และทำให้กระเป๋าใบนี้มีราคารวมแล้วสูงถึง 105,288 บาท

ข้อกฎหมายและวิธีปฏิบัติ เมื่อต้องจ่ายภาษีกระเป๋าแบรนด์เนม

การหิ้วกระเป๋าแบรนด์เนมเข้ามาในประเทศไทยโดยไม่สำแดงสินค้าให้ชัดเจน อาจทำให้ต้องเสียภาษีเพิ่มเติม โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเจ้าหน้าที่ศุลกากรตรวจพบสินค้าที่ไม่ได้แจ้งให้ถูกต้อง และยังอาจเสี่ยงต่อการถูกปรับ ดังนั้นจึงควรศึกษากฎหมายเกี่ยวกับภาษีแบรนด์เนมให้ดีก่อนการหิ้วสินค้าเข้าประเทศ

เลี่ยงภาษีแบรนด์เนม อาจเจอโทษจำคุก

พระราชกำหนดพิกัดอัตราศุลกากร พ.ศ. 2530 ระบุว่าการหิ้วกระเป๋าแบรนด์เนมเข้ามาในประเทศไทย หากไม่สำแดงต่อศุลกากรอย่างถูกต้อง อาจถูกเรียกเก็บภาษีเพิ่มเติม และมีความเสี่ยงที่จะถูกปรับหรือถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยโทษสูงสุดคือจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือปรับเป็นเงิน 4 เท่าของราคาสินค้ารวมภาษีแล้ว หรือทั้งจำทั้งปรับ และยังอาจถูกริบสินค้าได้ 

สำแดงสินค้า : ช่องเขียวหรือช่องแดง เลือกอย่างไร ?

เมื่อคุณไปถึงสนามบิน กรณีที่พิจารณาจนมั่นใจแล้วว่าไม่มีของต้องเสียภาษีนำเข้า สามารถเดินผ่านได้ที่ช่องไม่มีสิ่งของต้องสำแดง หรือ ช่องเขียว (Nothing to declare) ได้ทันที่ แต่ถ้าพิจารณาแล้วว่ามีของที่ต้องเสียภาษีให้เดินผ่านช่องมีสิ่งของต้องสำแดงหรือ ช่องแดง (Goods to declare) เพื่อจ่ายภาษีศุลกากรขาเข้า โดยสิ่งที่ต้องเตรียมคือ หนังสือเดินทาง และใบเสร็จรับเงินสินค้า 

การจ่ายค่าภาษีนั้นสามารถจ่ายได้ด้วยเงินสด หรือบัตรอิเล็กทรอนิกส์ (บัตรเดบิต/บัตรเครดิต) ในกรณีที่ด่านศุลกากรมีระบบรับชำระด้วยบัตรอิเล็กทรอนิกส์

ใบเสร็จ สำคัญกว่าที่คิด

ซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมแล้ว อย่าลืมเก็บใบเสร็จ เพราะการมีใบเสร็จรับเงินจะช่วยให้การคำนวณภาษีกระเป๋าแบรนด์เนมเป็นไปอย่างถูกต้องที่สุด หากไม่มีใบเสร็จ ศุลกากรจะอ้างอิงราคาจากฐานข้อมูลหรือเว็บไซต์ ซึ่งอาจตีราคาสูงกว่าที่ซื้อจริงได้ ในทางกลับกัน ถ้าเป็นสินค้าหายากหรือของสะสมที่ไม่มีราคากลาง การประเมินภาษีจะขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของเจ้าหน้าที่ แต่โดยทั่วไปแล้วเจ้าหน้าที่จะตั้งอัตราภาษีในระดับที่เหมาะสม

 นอกจากนี้ หากต้องนำเข้ากระเป๋าแบรนด์เนมมาหลายชิ้น ควรมีการคำนวณภาษีล่วงหน้าไว้เพื่อใช้เป็นข้อมูลอ้างอิงกับเจ้าหน้าที่ด้วย

สุดท้ายนี้ หากต้องการข้อมูลรายละเอียดเพิ่มเติม สามารถติดต่อสอบถามหรือทำเรื่องร้องเรียนได้ที่

• สายด่วนศุลกากร 1332
• LINE: @customshearing
• Email: ctc@customs.go.th

จะเห็นได้ว่าการซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมจากต่างประเทศนั้นอาจต้องเสียภาษีเมื่อซื้อในจำนวนมาก ดังนั้นหากคุณกำลังมองหาวิธีซื้อกระเป๋าแบรนด์เนม โดยไม่ต้องกังวลเรื่องภาษีนำเข้า BRANDNAME VOYAGE คือร้านขายกระเป๋าแบรนด์เนม มือสอง ที่ให้บริการอย่างมืออาชีพ รับประกันของแท้ 100% พร้อมบริการรับซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมและการฝากขายครบวงจร

ติดต่อเราผ่านช่องทางออนไลน์และหน้าร้านได้ทุกสาขา ได้แก่ 

• BRANDNAME VOYAGE – RAMA 9 (ตึก G Tower ชั้น B เชื่อมกับเซ็นทรัลพระราม 9)
• BRANDNAME VOYAGE – RANGSIT (Future Park รังสิต ชั้น 1 โซน Robinson)
• BRANDNAME VOYAGE – PHUKET  (Robinson Lifestyle ถลาง ชั้น 1)
• BRANDNAME VOYAGE – CHIANG MAI ถนนมงฟอร์ต อำเภอเมืองเชียงใหม่ (เฉพาะรับซื้อ)

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่

• LINE: @brandnamevoyage
• Tel: 095-916-7171 (สำหรับผู้ที่สนใจซื้อสินค้า)
• LINE: @voyagepurchase
• Tel: 095-505-2229 (สำหรับผู้ที่สนใจฝากขายสินค้า)

อ้างอิง

1. ข้อควรทราบสำหรับการนำของติดตัวเข้าทางอากาศยานสำหรับผู้โดยสาร เข้าถึงเมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2568 จาก https://www.customs.go.th/list_strc_simple_neted.php?ini_content=individual_160503_03_160905_01&lang=th&left_menu=menu_individual_submenu_01_160421_01 
2. รู้ก่อนเข้า-ออกนอกประเทศ เกี่ยวกับของต้องสำแดงตามระเบียบกรมศุลกากร เข้าถึงเมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2568 จาก https://travel.kapook.com/view255991.html
3. การเปลี่ยนแปลงข้อกำหนดด้านศุลกากรเกี่ยวกับการเรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) จากสินค้านำเข้าในประเทศไทยที่มีมูลค่า 1 – 1,500 บาท เข้าถึงเมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2568 จาก https://www.dhl.com/discover/th-th/logistics-advice/import-export-advice/vat-faq    
4. สายช้อปเตรียมจด! ซื้อของจากต่างประเทศอย่างไร ไม่ให้เสียภาษีนำเข้า เข้าถึงเมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2568 https://rabbitcare.com/blog/lifestyle/shopping-import-tax   
5. ซื้อแบรนด์เนมจากต่างประเทศ เข้าไทย จ่ายภาษีเท่าไหร่ เข้าถึงเมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2568 จาก https://www.springnews.co.th/program/tried/839599 
6. สายช้อปต้องรู้ ภาษีแบรนด์เนมคืออะไร ใครบ้างที่ต้องจ่าย ? เข้าถึงเมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2568 จาก https://th.airportels.asia/e-commerce/pay-tax-brandname/  

FAQ: คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับภาษีกระเป๋าแบรนด์เนม

ซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมออนไลน์ต้องเสียภาษีเท่าไร ?

หากมูลค่าเกิน 1,500 บาท ต้องเสีย VAT 7% ตั้งแต่ช่วงกลางปี พ.ศ. 2567 

หากนำเข้ากระเป๋า 2-3 ใบพร้อมกัน จะคิดภาษีอย่างไร ?

รวมมูลค่าทั้งหมดหากเกิน 20,000 บาทจะถือว่าเชิงพาณิชย์ ต้องเสียทั้งภาษีขาเข้าและภาษีมูลค่าเพิ่ม รวม 27%

ถือกระเป๋าแบรนด์เนมที่ใช้ประจำไปเที่ยวด้วย กลับมาจะถูกเรียกเก็บภาษีหรือไม่ ?

เพื่อป้องกันการถูกเรียกเมื่อเดินทางกลับเข้าประเทศ ก่อนเดินทาง แนะนำให้นำ Boarding Pass กระเป๋าแบรนด์เนมที่ใช้อยู่ พร้อมภาพถ่ายของกระเป๋านั้น 2 ชุด ไปลงทะเบียนที่จุดลงทะเบียนสำแดงสิ่งของก่อนเดินทาง ตามจุดบริการที่สนามบินจัดไว้ โดยจะได้รับใบรับแจ้งเพื่อนำมาแสดงในวันเดินทางกลับและไม่ต้องชำระภาษีแบรนด์เนม

มีวิธีลดภาษีกระเป๋าแบรนด์เนมหรือไม่ ?

ทางกฎหมายต้องจ่ายตามที่กำหนด แต่สามารถวางแผนการซื้อให้อยู่ในเกณฑ์ยกเว้นได้ เช่น แบ่งสินค้าที่รวมกันแล้วมีมูลค่ามากกว่า 20,000 บาทให้ผู้อื่นช่วยถือ