Month: October 2024

ในโลกของแฟชั่นที่ไม่เคยหยุดนิ่ง กระเป๋าแบรนด์เนมเปรียบเสมือนงานศิลปะที่สามารถถ่ายทอดจากมือหนึ่งสู่อีกมือหนึ่งได้อย่างมีคุณค่า ดังนั้น การส่งต่อกระเป๋าแบรนด์เนมจึงไม่ใช่แค่วิธีการขายกระเป๋ามือสอง แต่เป็นถึงศาสตร์และศิลป์ที่ต้องอาศัยความเข้าใจในการตลาด ความใส่ใจในรายละเอียด และกลยุทธ์การขายที่ชาญฉลาด

บทความนี้จะพาทุกคนไปเจาะลึกโลกแห่งการซื้อ-ขายกระเป๋าแบรนด์เนมมือสอง พร้อมเผยเคล็ด (ไม่) ลับ 7 ข้อที่จะช่วยให้คุณสามารถขายกระเป๋าสุดที่รักได้ในราคาคุ้มค่า โดยไม่ต้องรู้สึกเสียดายหรือขาดทุน ไม่ว่าคุณจะเป็นนักสะสมที่ต้องการหมุนเวียนคอลเลกชัน หรือเพียงแค่อยากเปลี่ยนสไตล์ให้ตัวเอง อ่านเลย !

แชร์ 7 เทคนิค ขายกระเป๋าแบรนด์เนมต่อยังไงให้ได้ราคา

1. รักษาสภาพกระเป๋าให้ดีตั้งแต่วันแรกที่ซื้อมา

เพราะกระเป๋าแบรนด์เนมเป็นสินค้าที่มีมูลค่าสูงและสามารถเก็งกำไรได้ในอนาคต การดูแลรักษาสภาพกระเป๋าให้ดูดีเหมือนใหม่อยู่เสมอจึงจำเป็น เริ่มจากการใช้งานอย่างระมัดระวัง หลีกเลี่ยงการวางกระเป๋าบนพื้นผิวที่สกปรกหรือขรุขระ และเก็บรักษาในถุงผ้าหรือกล่องเดิมเมื่อไม่ได้ใช้งาน เพื่อป้องกันฝุ่นละออง รอยขีดข่วน และสีซีดจาง

สำหรับกระเป๋าหนัง การทาครีมบำรุงเป็นประจำจะช่วยให้หนังนุ่มและมีความยืดหยุ่น ลดความเสี่ยงในการแตกลายงา ส่วนกระเป๋าผ้า ให้ซักทำความสะอาดตามคำแนะนำของแบรนด์ เพื่อช่วยรักษาสีสันและคุณภาพของเนื้อผ้า

2. รู้จักตลาดและกำหนดราคาอย่างเหมาะสม

การตั้งราคาขายกระเป๋าแบรนด์เนมมือสองนั้นเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ต้องอาศัยความเข้าใจในการตลาดอย่างลึกซึ้ง โดยสามารถเริ่มจากการศึกษาราคาตลาดของกระเป๋ารุ่นเดียวกันในสภาพใกล้เคียงกัน ทั้งจากเว็บไซต์ขายของมือสอง แพลตฟอร์มประมูลออนไลน์ และร้านรับซื้อแบรนด์เนมชั้นนำ

นอกจากนี้ ปัจจัยที่มีผลต่อราคายังรวมถึงความนิยมของแบรนด์และรุ่นในปัจจุบัน ความหายากของกระเป๋า และสภาพโดยรวม เช่น กระเป๋ารุ่นลิมิเต็ดอิดิชันหรือรุ่นที่เลิกผลิตไปแล้วอาจมีมูลค่าสูงขึ้นตามกาลเวลา ในขณะที่กระเป๋าบางรุ่นอาจมีราคาลดลงหากไม่ได้รับความนิยมเท่าเดิม

3. ถ่ายภาพให้สวย ใช้แสงธรรมชาติ และครบทุกมุม

ในยุคดิจิทัล ภาพถ่ายคือหน้าตาของสินค้าคุณ ยิ่งสามารถถ่ายให้สวยงามและเห็นรายละเอียดครบถ้วนมากเท่าไร ก็ยิ่งดึงดูดผู้ซื้อได้ดี แนะนำว่าควรถ่ายกับพื้นหลังสีพื้นเรียบ ๆ เช่น ผ้าขาว เพื่อให้กระเป๋าเป็นจุดเด่น ที่สำคัญ ควรใช้แสงธรรมชาติเพื่อให้เห็นสีกระเป๋าที่สมจริงที่สุด หากเป็นไปได้ ให้ถ่ายภาพใกล้หน้าต่างในช่วงเช้าหรือบ่ายที่แสงไม่จัดจ้าเกินไป และหลีกเลี่ยงการใช้แฟลชซึ่งอาจทำให้เกิดเงาหรือแสงสะท้อนที่ไม่พึงประสงค์

4. เตรียมข้อมูลและรายละเอียดให้ครบถ้วน

วิธีการขายกระเป๋าแบรนด์เนมมือสองให้ออกไว ๆ คุณจำเป็นต้องให้ข้อมูลที่ละเอียดและครบถ้วน เพื่อสร้างความมั่นใจแก่ผู้ซื้อ ลดโอกาสในการเกิดข้อพิพาทหลังการขาย รวมถึงแสดงความใส่ใจและความเป็นมืออาชีพของคุณในฐานะผู้ขาย โดยอาจเริ่มต้นด้วยการระบุชื่อแบรนด์และรุ่นของกระเป๋าอย่างชัดเจน แล้วตามด้วยข้อมูลสำคัญอื่น ๆ เช่น

• ขนาดของกระเป๋า (กว้าง x ยาว x สูง) ในหน่วยเซนติเมตรหรือนิ้ว
• วัสดุที่ใช้ในการผลิต เช่น หนังแท้ หนังลูกวัว ผ้าแคนวาส หรือวัสดุสังเคราะห์
• สี และรายละเอียดของสีที่อาจเปลี่ยนไปตามแสง
• ปีที่ผลิตหรือปีที่ซื้อ (หากทราบ)
• หมายเลขซีเรียล (ถ้ามี)
• สภาพโดยรวมของกระเป๋า เช่น ใหม่มาก ใช้งานน้อย หรือใช้งานปานกลาง
• รายละเอียดของร่องรอยการใช้งาน (ถ้ามี) อย่างตรงไปตรงมา
• อุปกรณ์เสริมที่มาพร้อมกระเป๋า เช่น ถุงผ้า กล่อง ใบรับประกัน
• ประวัติการซ่อมแซมหรือการดูแลรักษาพิเศษ (ถ้ามี)

5. สร้างความน่าเชื่อถือให้แก่ตัวเองในฐานะผู้ขาย

สำหรับผู้ที่อยากขายกระเป๋าแบรนด์มือสอง ต้องเข้าใจก่อนว่าความน่าเชื่อถือของผู้ขายนั้นสำคัญไม่แพ้คุณภาพของสินค้าเลย ดังนั้น ควรสร้างภาพลักษณ์ที่น่าเชื่อถือเพื่อให้ผู้ซื้อรู้สึกมั่นใจ และยินดีจะจ่ายในราคาที่สูงขึ้น โดยหากขายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ ควรตอบกลับข้อความของลูกค้าอย่างรวดเร็วและสุภาพ พร้อมให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับแบรนด์ ตลอดจนเปิดโอกาสให้ผู้สนใจซื้อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่อยากรู้ได้

6. เสนอบริการเพิ่มเติมเพื่ออัปเกรดมูลค่า

การเสนอบริการพิเศษเพิ่มเติม เป็นอีกหนึ่งวิธีการขายกระเป๋าแบรนด์เนมมือสองให้ได้ราคาดี ยิ่งไปกว่านั้น ยังช่วยสร้างความประทับใจและความพึงพอใจแก่ลูกค้า ซึ่งอาจนำไปสู่การบอกต่อและการกลับมาซื้อซ้ำได้ในอนาคต โดยบริการพิเศษอาจเป็นได้หลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นบริการจัดส่งด่วน บริการทำความสะอาดกระเป๋าก่อนส่งมอบ บริการรับประกันหลังการขาย หรือบริการปรับแต่งหรือซ่อมแซมเล็กน้อย

7. เลือกช่องทางการขายที่เหมาะสม

นอกจากคำถามที่ว่าจะขายกระเป๋าแบรนด์เนมต่อยังไงให้ได้ราคาดีแล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่หลายคนสงสัย คือ ควรขายกระเป๋าแบรนด์มือสองที่ไหนดี เพราะการเลือกแหล่งขายที่เหมาะสมเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้คุณสามารถเก็งกำไรได้ ซึ่งการขายให้แก่ร้านรับซื้อแบรนด์เนมที่เชื่อถือได้มักเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับผู้ขายจำนวนไม่น้อย ด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้

• การขายให้แก่ร้านรับซื้อ ช่วยประหยัดเวลาและลดความยุ่งยากในการหาผู้ซื้อรายย่อย ให้คุณสามารถปิดการขายได้ในครั้งเดียวโดยไม่ต้องรอนาน
• ร้านรับซื้อที่มีชื่อเสียงมักมีระบบการชำระเงินที่ปลอดภัยและน่าเชื่อถือ ลดความเสี่ยงจากการถูกหลอกลวง หรือการชำระเงินที่ไม่สมบูรณ์
• ร้านรับซื้อมืออาชีพมีความเชี่ยวชาญในการประเมินมูลค่ากระเป๋าแบรนด์เนม ทำให้คุณมั่นใจได้ว่าจะได้รับข้อเสนอราคาที่สมเหตุสมผลตามสภาพและความนิยมของกระเป๋า

อยากขายกระเป๋าแบรนด์มือสอง นึกถึง BRANDNAME VOYAGE

กระเป๋าทุกใบมีเรื่องราวและคุณค่าในตัวเอง การขายต่ออย่างมีจริยธรรมจึงจะช่วยให้กระเป๋าแสนรักของคุณได้เดินทางต่อไปพร้อมกับสร้างความทรงจำใหม่ ๆ ในมือเจ้าของคนต่อไป และในขณะเดียวกัน คุณก็จะได้ผลตอบแทนที่คุ้มค่าจากการลงทุนครั้งนี้ หากยังสงสัยว่าจะขายกระเป๋าแบรนด์มือสองที่ไหนดี เลือกฝากขายกระเป๋าแบรนด์เนมของคุณกับ BRANDNAME VOYAGE แหล่งรับซื้อแบรนด์เนมมือสองทุกรุ่น ทุกสี พร้อมบริการเหนือระดับจากทีมงานมืออาชีพ ที่จะช่วยให้คำปรึกษาในทุกข้อสงสัย สามารถแวะเข้ามาที่หน้าร้านทั้ง 3 สาขาของเรา ได้แก่ เซ็นทรัลพระราม 9, ฟิวเจอร์พาร์ครังสิต และเชียงใหม่ (รับซื้ออย่างเดียว) หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ LINE: @voyagepurchase และ Tel: 095-505-2229

ข้อมูลอ้างอิง:

1. รับซื้อกระเป๋าแบรนด์เนม ทำอย่างไรให้ได้ราคาดี ขายต่อง่าย. สืบค้นวันที่ 4 ตุลาคม 2567 จาก https://promotions.co.th/
2. ลงทุน ‘กระเป๋าแบรนด์เนม’ ยังไงให้ปัง!. สืบค้นวันที่ 4 ตุลาคม 2567 จาก https://www.bangkokbiznews.com/

ในโลกของแฟชั่นสุภาพบุรุษ ทุกรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ส่งผลถึงลุคที่ออกมา และหนึ่งในไอเทมที่ชิ้นไม่ใหญ่ แต่ช่วยเติมเต็มลุค บ่งบอกถึงสไตล์และรสนิยมของผู้สวมใส่ได้เป็นอย่างดีคือ “เข็มขัด” โดยเฉพาะเข็มขัดแบรนด์เนมผู้ชาย ที่ไม่เพียงทำหน้าที่ในการยึดกางเกง แต่ยังเพิ่มความเท่และความภูมิฐานให้กับลุคในทุกๆ วัน บทความนี้จะเป็นคู่มือแนะนำวิธีเลือกเข็มขัดแบรนด์เนมผู้ชาย ที่ไม่เพียงแค่สวยงาม แต่ยังใช้งานได้จริง เสริมลุคให้ดูดีอย่างมืออาชีพ คุ้มค่าทุกบาททุกสตางค์ที่จ่ายไป ติดตามเลย

ทำไมต้องเข็มขัดแบรนด์เนม ?

เป็นความจริงว่าเข็มขัดแบรนด์เนมผู้ชายมีราคาที่สูงกว่าเข็มขัดทั่วไปหลายเท่าตัว คำถามคือ แล้วทำไมเราต้องจ่ายมากกว่าเพื่อเข็มขัดที่ใช้งานได้เหมือนกัน ซึ่งเหตุผลสามารถสรุปได้เป็นข้อ ๆ ดังนี้

• คุณภาพวัสดุเยี่ยม : เข็มขัดแบรนด์เนมมักผลิตจากวัสดุที่มีคุณภาพสูง ไม่ว่าจะเป็นหนังวัว หนังจระเข้ หรือหนังนกกระจอกเทศ ซึ่งผ่านกระบวนการฟอกหนังและบำรุงรักษาให้มีความยืดหยุ่นและคงทน คุณสมบัติเหล่านี้ไม่เพียงแค่ช่วยให้เข็มขัดคงรูปลักษณ์สวยงามได้นาน แต่ยังทำให้เนื้อสัมผัสนุ่มนวล ให้ความรู้สึกหรูหราเมื่อสวมใส่
• งานฝีมือประณีต : เข็มขัดแบรนด์เนมผู้ชายทุกเส้นผลิตขึ้นโดยช่างฝีมือผู้เชี่ยวชาญที่ให้ความสำคัญกับทุกรายละเอียด ตั้งแต่การเย็บตะเข็บ การตัดขอบหนัง ไปจนถึงการเลือกใช้หัวเข็มขัดที่ต้องมีความเรียบหรูและทำจากโลหะคุณภาพสูง ความประณีตเหล่านี้เป็นสิ่งที่บ่งบอกถึงเอกลักษณ์ของแบรนด์และมาตรฐานการผลิตที่ไม่มีใครเหมือน
• ดีไซน์ทันสมัย : แบรนด์ดัง ๆ ไม่ว่าจะเป็น  Hermès, Louis Vuitton, Gucci หรือแบรนด์อื่น ๆ ต่างก็มีดีไซเนอร์ชื่อดังคอยดีไซน์ให้ทันสมัยอยู่เสมอ คุณผู้ชายจึงมั่นใจได้ว่าเข็มขัดแต่ละเส้นที่สวมใส่ไม่เพียงแค่ตอบโจทย์การใช้งาน แต่ยังช่วยเสริมลุคให้ดูดีมีสไตล์ และสะท้อนถึงความเป็นผู้นำในด้านแฟชั่นของคุณ
• สัญลักษณ์แห่งสถานะ : ปฏิเสธไม่ได้ว่าเข็มขัดแบรนด์เนมผู้ชายคือหนึ่งในสัญลักษณ์สถานะทางสังคม การสวมใส่เข็มขัดแบรนด์เนมเป็นการบ่งบอกถึงรสนิยมและฐานะของผู้สวมใส่ได้เป็นอย่างดี แม้จะไม่ใช่สิ่งสำคัญที่สุด แต่ก็ช่วยเสริมภาพลักษณ์ให้ดูน่าเชื่อถือมากขึ้น โดยเฉพาะในโอกาสสำคัญ ๆ

วิธีเลือกเข็มขัดแบรนด์เนมผู้ชายให้เหมาะกับตัวคุณ

เมื่อตัดสินใจได้แล้วว่าอยากลงทุนในเข็มขัดแบรนด์เนมสักเส้น สิ่งสำคัญคือการเลือกให้เหมาะสมกับตัวเอง เพื่อให้ดูดีและมั่นใจในทุกครั้งที่สวมใส่ ดังนั้น เรามาดูหลักเกณฑ์วิธีเลือกเข็มขัดแบรนด์เนมผู้ชายให้เข้ากับตัวคุณกันดีกว่า 

• พิจารณาโอกาสการใช้งาน : ก่อนอื่นต้องคำนึงถึงโอกาสที่จะสวมใส่เข็มขัด เช่น หากต้องการใส่ไปทำงานหรืองานทางการ ก็ควรเลือกเข็มขัดที่มีดีไซน์เรียบง่าย หัวเข็มขัดไม่ควรมีลวดลายหรือโลโก้ที่โดดเด่นเกินไป แต่หากเป็นลุคลำลองหรือใส่ไปงานปาร์ตี้ การเลือกเข็มขัดที่มีดีไซน์แฟชั่น หัวเข็มขัดใหญ่ หรือมีสีสันแปลกใหม่ เพื่อเพิ่มความสนุกให้กับลุคก็ไม่ใช่เรื่องที่ผิด
• เลือกขนาดให้เหมาะสม : ขนาดของเข็มขัดแบรนด์เนมผู้ชายเป็นสิ่งสำคัญมาก เข็มขัดที่พอดีควรจะยาวกว่าเอวของคุณประมาณ 2-4 นิ้ว เพื่อให้มีพื้นที่สำหรับปรับระดับความกระชับ ส่วนความกว้างของเข็มขัดควรเลือกให้เหมาะกับทรงกางเกง โดยทั่วไปเข็มขัดกว้าง 1.25-1.5 นิ้ว จะเหมาะกับกางเกงสแล็คและสูททั่วไป ส่วนเข็มขัดที่กว้างกว่านี้จะเหมาะกับการใส่แบบลำลองมากกว่า
• จับคู่กับรองเท้า : กฎพื้นฐานในการแมตช์เข็มขัดกับรองเท้าคือ ให้เลือกสีที่ใกล้เคียงกัน เช่น เข็มขัดสีดำคู่กับรองเท้าสีดำ หรือเข็มขัดสีน้ำตาลคู่กับรองเท้าสีน้ำตาล แต่ไม่จำเป็นต้องเป๊ะเสมอไป คุณสามารถเล่นกับเฉดสีที่ใกล้เคียงกันได้ เช่น เข็มขัดสีน้ำตาลเข้มกับรองเท้าสีน้ำตาลอ่อน เป็นต้น
• พิจารณาสีผิว : สำหรับเคล็ดลับวิธีเลือกเข็มขัดแบรนด์เนมผู้ชายข้อสุดท้ายคือ สีของเข็มขัดไม่ควรขัดกับสีผิวของคุณ หากคุณมีสีผิวขาว ควรเลือกเข็มขัดสีเข้ม เช่น ดำ หรือน้ำเงินเข้ม เพื่อให้เกิดความคมชัด ขณะที่คนผิวสีเข้มหรือผิวคล้ำควรเลือกเข็มขัดสีอ่อน เช่น สีน้ำตาล หรือสีเบจ เพื่อเพิ่มความโดดเด่นและไม่ให้เข็มขัดดูกลืนไปกับสีผิว

 

แบรนด์เข็มขัดผู้ชายที่แนะนำ

สำหรับหนุ่ม ๆ คนไหนที่ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเลือกเข็มขัดผู้ชายยี่ห้อไหนดี บทความนี้ได้คัดสรรแบรนด์ที่น่าสนใจ ได้รับความนิยมยาวนาน และโดดเด่นเรื่องคุณภาพมาแนะนำ ดังนี้

Hermès

เมื่อถามว่าเข็มขัดผู้ชายยี่ห้อไหนดี คำตอบแรกที่ปรากฏอยู่ในแทบทุกลิสต์คือ “Hermès” แบรนด์หรูจากฝรั่งเศสที่มีชื่อเสียงด้านความประณีตในการผลิตสินค้าหนังมานับศตวรรษ เข็มขัดจาก Hermès ทุกเส้นทำจากหนังแท้ที่ผ่านการคัดสรรมาอย่างดี รวมถึงมีจุดเด่นอยู่ที่หัวเข็มขัดรูปตัว ‘H’ อันเป็นเอกลักษณ์ เหมาะสำหรับผู้ต้องการลุคที่ดูภูมิฐานและแฝงความหรูหราในทุกโอกาส ทำให้เข็มขัดของแบรนด์นี้สามารถแมตช์ได้ทั้งกับชุดสูทและลุคลำลองได้อย่างลงตัว

Louis Vuitton

อีกหนึ่งแบรนด์หรูระดับตำนานจากฝรั่งเศส มีชื่อเสียงในด้านกระเป๋าและเครื่องหนัง Louis Vuitton นำเสนอเข็มขัดแบรนด์เนมผู้ชายที่มีเอกลักษณ์ด้วยลายโมโนแกรมอันโด่งดัง นอกจากนี้ยังมีคอลเลกชันที่เรียบหรูสำหรับโอกาสทางการ ด้วยเหตุนี้ เข็มขัด Louis Vuitton จึงได้รับความนิยมในหมู่สุภาพบุรุษผู้ชื่นชอบสไตล์หรูหราแต่ยังคงความทันสมัย ด้วยการออกแบบที่ผสมผสานความคลาสสิกเข้ากับแฟชั่นร่วมสมัยได้อย่างลงตัว

Gucci

Gucci ถือเป็นแบรนด์ที่มีสไตล์แฟชั่นโดดเด่นและกล้าท้าทายขนบแฟชั่นดั้งเดิม เข็มขัดของ Gucci จึงเหมาะสำหรับผู้ชายที่ชื่นชอบความแปลกใหม่ ไม่ต้องการตามกระแสหลัก จุดเด่นที่ทุกคนจดจำได้ดีคือหัวเข็มขัดรูปตัว ‘GG’ ที่มักจะมาพร้อมลวดลายหรือสีสันที่ดึงดูดความสนใจ ไม่ว่าจะเป็นการเล่นลายพิมพ์สัตว์ (Animal Print) หรือการใช้สีตัดกันอย่างลงตัว 

Salvatore Ferragamo

Salvatore Ferragamo เป็นแบรนด์ที่ขึ้นชื่อเรื่องความคลาสสิกและการใช้หนังคุณภาพสูง โดยเข็มขัดของแบรนด์นี้มักมาพร้อมกับหัวเข็มขัดสัญลักษณ์ ‘Gancini’ ที่เป็นเอกลักษณ์ เข็มขัดของ Salvatore Ferragamo ไม่เพียงแต่มีดีไซน์ที่เรียบหรูและสุภาพเท่านั้น แต่ยังมีความทนทานสูง ซึ่งทำให้เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ชายที่ต้องการความคุ้มค่าและสไตล์ในระยะยาว Salvatore Ferragamo ยังมีเข็มขัดแบรนด์เนมผู้ชายแบบ Double-Sided ที่สามารถใส่ได้ทั้งสองด้าน เพิ่มความยืดหยุ่นในการเลือกใช้งานตามความเหมาะสมของแต่ละโอกาสอีกด้วย

เข็มขัดแบรนด์เนมผู้ชายของแท้ 100% ในราคาคุ้มค่า ต้องที่ BRANDNAME VOYAGE

เมื่อได้รู้วิธีเลือกเข็มขัดแบรนด์เนมผู้ชายกันไปแล้ว หนุ่ม ๆ คนไหนอยากไปร้านเดียวแล้วมีเข็มขัดแบรนด์เนมหลากหลายแบรนด์ดังให้เลือกแบบครบครัน แนะนำที่  BRANDNAME VOYAGE ศูนย์กลางในการแลกเปลี่ยนสินค้าแบรนด์เนมทุกประเภท พร้อมให้บริการด้วยความจริงใจและเข้าใจที่สุด พร้อมกับความเชี่ยวชาญในสินค้าแบรนด์เนมอันดับ 1 ในราคาที่เป็นธรรมสำหรับทุกท่านอย่างแท้จริง

เลือกชมสินค้าได้แล้ววันนี้ที่เว็บไซต์ หรือเข้ามาที่หน้าร้านทั้ง 2 สาขาหลักของเรา ได้แก่ เซ็นทรัลพระราม 9, ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต และบริการรับซื้อที่เชียงใหม่ หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

• LINE: @brandnamevoyage
• Tel: 095-916-7171 (สำหรับผู้ที่สนใจซื้อสินค้า)
• LINE: @voyagepurchase
• Tel: 095-505-2229 (สำหรับผู้ที่สนใจฝากขายสินค้า)

ข้อมูลอ้างอิง:

1. รับซื้อกระเป๋าแบรนด์เนม ทำอย่างไรให้ได้ราคาดี ขายต่อง่าย. สืบค้นวันที่ 4 ตุลาคม 2567 จาก https://promotions.co.th/
2. ลงทุน ‘กระเป๋าแบรนด์เนม’ ยังไงให้ปัง!. สืบค้นวันที่ 4 ตุลาคม 2567 จาก https://www.bangkokbiznews.com/

บทความนี้เราจะมาพูดคุยเรื่องที่หลายคนอาจมองข้าม แต่สำคัญมาก ๆ สำหรับผู้ที่หลงใหลในกระเป๋าแบรนด์เนม นั่นคือ “วิธีเก็บรักษากระเป๋าแบรนด์เนมให้อยู่ในสภาพดีตลอดกาล” เพราะการลงทุนซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมสักใบ ไม่ใช่แค่เรื่องของแฟชั่นหรือสไตล์เท่านั้น แต่ยังเป็นการลงทุนระยะยาวที่ต้องการการดูแลเอาใจใส่เป็นพิเศษ ส่วนวิธีที่ว่าจะมีอะไรบ้าง เลื่อนอ่านได้เลย

หลักการพื้นฐานในการเก็บรักษากระเป๋าแบรนด์เนม

ทำความสะอาดก่อนเก็บเสมอ

ในการเก็บรักษากระเป๋าแบรนด์เนม สิ่งแรกที่ต้องทำก็คือ การทำความสะอาดกระเป๋าหลังใช้งานเสมอ เพื่อป้องกันไม่ให้คราบสกปรกติดแน่นอยู่กับกระเป๋า โดยเฉพาะส่วนด้านในที่เราใช้ใส่ของต่าง ๆ ซึ่งมีโอกาสที่จะสกปรกได้ง่าย และมักเป็นจุดที่เรามองข้ามไป ซึ่งเราสามารถทำความสะอาดได้ง่าย ๆ ด้วยการใช้ผ้าแห้งค่อย ๆ เช็ดให้ทั่ว เคลียร์ของข้างในออกให้หมด และตรวจเช็กว่าไม่มีสิ่งใดหลงเหลืออยู่ในกระเป๋า

เก็บในถุงผ้าหรือกล่องที่มาพร้อมกระเป๋า

หลังจากทำความสะอาดแล้ว ให้เราเก็บกระเป๋าไว้ในถุงผ้า หรือกล่องที่มาพร้อมกับกระเป๋า เพื่อป้องกันฝุ่นไม่ให้มาเกาะในระหว่างที่เราไม่ได้ใช้งาน

ใส่วัสดุกันทรงภายในกระเป๋า

สำหรับกระเป๋าแบรนด์เนมบางรุ่นที่มีความบอบบาง เราอาจจำเป็นต้องมองหาวัสดุกันทรงมาเป็นตัวช่วย เพื่อให้กระเป๋าคงรูปสวยอยู่เสมอ ซึ่งเราอาจใช้วัสดุกันทรงนี้เป็นตัวช่วยในการจัดระเบียบสิ่งของในกระเป๋าเวลาที่นำไปใช้งานได้อีกด้วย 

เก็บในที่แห้งและเย็น

อีกหนึ่งวิธีเก็บรักษากระเป๋าแบรนด์เนมที่เราต้องระมัดระวัง ก็คือเรื่องของอุณหภูมิ โดยควรเก็บกระเป๋าไว้ในที่แห้งและเย็นอยู่เสมอ เพราะการนำกระเป๋าไปวางไว้ในที่ที่มีแสงแดดส่องถึง จะทำให้ยาแนวแตก หนังกระเป๋าแห้งกรอบ และความชื้นคือสิ่งที่จะทำให้กระเป๋าเกิดเชื้อราได้ 

วางกระเป๋าแทนการแขวน

สำหรับใครที่ไม่ได้เก็บกระเป๋าไว้ในถุงผ้าหรือกล่อง ควรหาที่วางกระเป๋าอย่างเหมาะสม เช่น วางไว้ในชั้นหรือตู้ โดยไม่ควรนำกระเป๋าไปแขวนไว้ซ้อน ๆ กัน เพราะอาจทำให้หูกระเป๋าได้รับความเสียหาย และมีโอกาสที่สีกระเป๋าแต่ละใบจะตกใส่กันได้ 

วิธีเก็บรักษากระเป๋าแบรนด์เนมตามประเภทวัสดุ

นอกจากหลักการพื้นฐานในการดูแลรักษากระเป๋าแล้ว ยังมีเคล็ดลับการเก็บรักษากระเป๋าแบรนด์เนมตามประเภทของวัสดุ เพื่อป้องกันความเสียหาย และช่วยให้กระเป๋าใบสวยอยู่กับเราได้ยาวนานยิ่งขึ้น 

กระเป๋าหนัง

กระเป๋าหนัง เป็นวัสดุที่ควรเก็บไว้ในที่ที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก เพื่อป้องกันการสะสมของความชื้น และจำเป็นต้องหลีกเลี่ยงการเผชิญกับแสงแดดให้ได้มากที่สุด เพราะมีโอกาสที่หนังจะเสื่อมสภาพได้ง่ายกว่าวัสดุอื่น ๆ

กระเป๋าผ้า

กระเป๋าผ้า เป็นวัสดุที่ค่อนข้างดูแลรักษาง่าย เมื่อเทียบกับวัสดุอื่น ๆ แต่สิ่งที่ต้องระวังก็คือคราบสกปรกต่าง ๆ ที่หากเลอะแล้วอาจทำความสะอาดได้ยาก และกลายเป็นคราบฝังลึก ดังนั้นหากพบว่ากระเป๋าเปรอะเปื้อน ควรรีบใช้ผ้าชุบน้ำหมาด ๆ เช็ดคราบนั้นออกให้เร็วที่สุด หรือเช็ดด้วยน้ำยาสำหรับทำความสะอาดกระเป๋าแบรนด์เนมโดยเฉพาะ จากนั้นให้ใช้ผ้าแห้งเช็ดซ้ำอีกครั้ง และรอจนกว่ากระเป๋าจะแห้งสนิท จึงค่อยเก็บใส่ถุงผ้าหรือเก็บเข้าชั้นวาง

กระเป๋าที่มีอุปกรณ์ตกแต่งเป็นโลหะ

กระเป๋าที่มีอุปกรณ์ตกแต่งเป็นโลหะ หรือที่เรามักเรียกกันว่า “อะไหล่” เป็นอีกหนึ่งประเภทที่ต้องใส่ใจกับการดูแลรักษาเป็นพิเศษ ซึ่งปัญหาส่วนใหญ่ที่มักเกิดขึ้นกับอะไหล่ มักจะเป็นเรื่องสีลอก สีหมอง มีคราบสกปรก หรือมีรอยขีดข่วน หากเป็นปัญหาเรื่องความสกปรก เราสามารถใช้ผ้าเช็ดทำความสะอาดได้ง่าย ๆ และหากเป็นเรื่องของสีที่หมองลง หรือรอยขนแมวเพียงเล็กน้อย เราสามารถใช้ครีมขัดโลหะทั่วไปนำมาเช็ดได้ด้วยตัวเอง เพียงแต่ต้องระวังไม่ให้ครีมสัมผัสกับส่วนหนังของกระเป๋า เพราะจะทำให้กระเป๋าเป็นรอยได้ 

เทคนิคพิเศษในการเก็บรักษากระเป๋าแบรนด์ฮิต

Hermès

กระเป๋า Hermès เป็นแบรนด์ที่มีราคาสูงถึงหลักล้านบาท ด้วยดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ และคุณภาพของหนังที่นำมาผลิต ดังนั้น แน่นอนว่าการดูแลกระเป๋าก็ต้องพิถีพิถันตามไปด้วย ซึ่งนอกจากการดูแลแบบพื้นฐานที่เราได้แนะนำไปข้างต้นแล้ว สิ่งที่เราต้องให้ความสำคัญก็คือเรื่องของการจัดวางกระเป๋า ในเวลาที่เก็บเข้าตู้ โดยควรวางตัวกระเป๋า สายกระเป๋า และฮาร์ดแวร์ต่าง ๆ ให้อยู่แบบกระจายตัว ไม่วางชิดติดกันหรือวางทับกัน เพื่อไม่ให้ชิ้นส่วนต่าง ๆ รับน้ำหนักมากเกินไป ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อรูปทรงและหนังได้ 

Chanel

กระเป๋า Chanel เป็นกระเป๋าที่ขึ้นชื่อในเรื่องของหนังที่สวยงามและแข็งแรงทนทาน แต่ถึงแม้จะทนทานแค่ไหน ก็จำเป็นต้องอาศัยการดูแลเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะการหลีกเลี่ยงไม่ให้กระเป๋าโดนน้ำหรือโดนฝน เพราะอาจทำให้เกิดเชื้อราสะสมที่หนัง จนทำให้กระเป๋าได้รับความเสียหาย 

Louis Vuitton

กระเป๋า Louis Vuitton เป็นกระเป๋าที่เราต้องระมัดระวังในส่วนของหูจับ เพราะเป็นจุดที่เราใช้ทุกวัน และมีโอกาสที่จะเสียหายได้ง่าย เคล็ดลับก็คือ การหาผ้าสวย ๆ มาพันไว้ที่หูกระเป๋า และพยายามหลีกเลี่ยงการทาแฮนด์ครีมก่อนที่จะนำกระเป๋าไปใช้ จะช่วยยืดอายุของหูกระเป๋าให้ใช้งานได้ยาวนานมากขึ้น 

ข้อควรระวังในการเก็บรักษากระเป๋าแบรนด์เนม

• หลีกเลี่ยงการเก็บในถุงพลาสติก เพราะถุงพลาสติกเป็นวัสดุที่สะสมความร้อน จึงอาจทำให้กระเป๋าเสียหายได้อย่างรวดเร็ว 
• ไม่ควรนำกระเป๋าวางซ้อนทับกัน เพราะจะทำให้กระเป๋าเสียทรง เกิดรอยขีดข่วน และทำให้สีกระเป๋าตกใส่กันได้ 
• หลีกเลี่ยงการเก็บกระเป๋าใกล้กับแหล่งที่มีกลิ่นแรง เพราะอาจทำให้กลิ่นเหล่านั้นติดมากับกระเป๋าใบโปรดของเราได้

 

เพราะการรักษากระเป๋าให้คงสภาพดีที่สุด สำคัญอย่างยิ่งต่อราคาที่จะได้หากนำไปขายต่อ และสำหรับใครที่อยากนำกระเป๋าที่มีมาแลกเปลี่ยนเป็นเงิน หรืออยากจับจองกระเป๋าในราคาคุ้มค่า แนะนำที่ BRANDNAME VOYAGE เราคือศูนย์กลางในการแลกเปลี่ยนสินค้าแบรนด์เนมทุกประเภท ทั้งขายและรับซื้อกระเป๋าแบรนด์ครบจบในที่เดียว พร้อมให้บริการด้วยความจริงใจและเข้าใจคุณที่สุด ด้วยทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญในสินค้าแบรนด์เนม เราจำหน่ายและรับซื้อสินค้าในราคาที่เป็นธรรมสำหรับทุกท่านอย่างแท้จริง 

เลือกชมสินค้าได้แล้ววันนี้ที่เว็บไซต์ หรือเข้ามาที่หน้าร้านทั้ง 2 สาขาหลักของเรา ได้แก่ เซ็นทรัลพระราม 9, ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต และบริการรับซื้อที่เชียงใหม่ หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

• LINE: @brandnamevoyage
• Tel: 095-916-7171 (สำหรับผู้ที่สนใจซื้อสินค้า)
• LINE: @voyagepurchase
• Tel: 095-505-2229 (สำหรับผู้ที่สนใจฝากขายสินค้า)

ข้อมูลอ้างอิง:

1. 5 เทคนิคดูแลกระเป๋าสุดหรูให้มีอายุอยู่จนถึงลูกหลาน. สืบค้นวันที่ 2 ตุลาคม 2567 จาก https://www.vogue.co.th/

หากพูดถึงกระเป๋าแบรนด์เนมสุดหรูที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง ก็คงไม่พ้น “CELINE” แบรนด์กระเป๋าสัญชาติฝรั่งเศสอันโด่งดังด้วยดีไซน์อันเรียบหรู ทันสมัย และคลาสสิก ซึ่งได้สร้างสรรค์กระเป๋ารุ่นไอคอนิกที่ครองใจแฟชั่นนิสต้าทั่วโลก วันนี้ เราจะมาแนะนำ 8 รุ่นกระเป๋า CELINE ยอดนิยม ที่รับรองว่าใช้ได้บ่อย และแมตช์ได้กับทุกลุคแน่นอน มาดูกันว่ามีรุ่นไหนบ้างที่คุณยังไม่มีในคอลเลกชัน หรือกำลังตัดสินใจว่าจะเลือกซื้อรุ่นไหนดี อ่านบทความนี้ตอบตัวเองได้แน่นอน !

แนะนำ 8 รุ่นกระเป๋า CELINE ยอดนิยม หยิบมาใช้เมื่อไหร่ก็อินเทรนด์

1. CELINE BELT BAG

เริ่มต้นด้วยรุ่นที่ได้รับความนิยมล้นหลาม อย่าง CELINE BELT BAG กระเป๋าทรงสวย โดดเด่นด้วยดีไซน์เรียบหรูที่ผสานความโมเดิร์นอย่างลงตัว กระเป๋ามีลักษณะเป็นทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า พร้อมสายคาดอันเป็นเอกลักษณ์ด้านหน้า ทำให้ดูมีมิติและน่าสนใจมากขึ้น เหมาะสำหรับ Working Women ที่ต้องการกระเป๋าที่ดูเป็นมืออาชีพแต่ยังคงความชิคไว้ในที หรือสาว ๆ คนไหนอยากนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะถือไปช็อปปิง ออกงานสังคม หรือเที่ยวต่างประเทศ ก็ได้หมดทุกสถานการณ์ ด้วยขนาดที่กำลังดี สามารถจุของได้เยอะ ทำให้กระเป๋า CELINE ใบนี้แม้จะออกมารุ่นเก่า แต่ก็กลายเป็นไอเทมที่ขาดไม่ได้สำหรับสาวยุคใหม่

• ราคา CELINE BELT BAG มือหนึ่ง : 81,000-93,000 บาท
• ราคา CELINE BELT BAG มือสองสภาพดี : 43,900 บาท

2. CELINE FOLCO

ถัดมาเป็นกระเป๋า CELINE สะพายข้างทรงแบนที่กำลังมาแรงในช่วงนี้ ด้วยไซซ์มินิ ดูน่ารัก แต่ใส่ของจำเป็นได้ครบถ้วน และสไตล์การออกแบบที่โฉบเฉี่ยว ไม่ค่อยซ้ำกับแบรนด์อื่น ทำให้ FOLCO เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่ดูมีเสน่ห์และน่าหลงใหล มาพร้อมกับสายสะพายยาวที่ปรับระดับได้ ให้คุณสามารถสะพายได้หลากหลายสไตล์ ไม่ว่าจะอยากแมตช์ลุคแบบลำลองหรือกึ่งทางการ ไปช็อปปิง นัดเจอเพื่อน หรือไปงานปาร์ตี้ ก็สามารถหยิบมาใช้ได้ทั้งกลางวันและกลางคืน

• ราคา CELINE FOLCO มือหนึ่ง : 61,000 บาท
• ราคา CELINE FOLCO มือสองสภาพดี : 43,900 บาท

3. CELINE AVA BAG

ไถโซเชียลมีเดียไป 10 โพสต์จะต้องเจอสัก 7 โพสต์แน่นอน สำหรับ CELINE AVA BAG ที่กล้าพูดได้เลยว่าเป็นตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบทีเดียว สำหรับสาว ๆ ที่ชื่นชอบสไตล์คลาสสิกผสมผสานกับความทันสมัย เพราะกระเป๋ารุ่นนี้มองเผิน ๆ เหมือนจะมีดีไซน์ที่เรียบง่าย แต่ซิกเนเจอร์สุดเก๋จะอยู่ที่รูปทรงพระจันทร์เสี้ยวของตัวกระเป๋า ที่เห็นแล้วต้องบอกเลยว่านี่มัน CELINE ชัด ๆ แบบไม่ต้องเดา ด้วยความน้อยแต่มาก เรียบแต่โก้ของกระเป๋า ทำให้เหมาะสำหรับการพกพาไปในทุกโอกาส ตั้งแต่การนัดกินข้าวกับเพื่อนแบบง่าย ๆ ไปดูหนังกับคนรัก ตลอดจนไปงานเลี้ยงค็อกเทลสุดหรู

• ราคา CELINE AVA BAG มือหนึ่ง : 61,000-86,000 บาท
• ราคา CELINE AVA BAG มือสองสภาพดี : 42,900 บาท

4. CELINE TRIOMPHE SHOULDER BAG

กระเป๋า CELINE สะพายข้างที่โดดเด่นด้วยโลโก้ Triomphe อันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากโซ่ที่ล้อมรอบประตู Arc de Triomphe ในกรุงปารีส กระเป๋ารุ่นนี้มีความคลาสสิกและโมเดิร์นในเวลาเดียวกัน เหมาะสำหรับสาว ๆ ที่ชื่นชอบกระเป๋าที่มีดีไซน์เรียบหรูแต่มีจุดดึงดูดสายตา สามารถใช้ได้ทั้งในชีวิตประจำวันและโอกาสพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นการไปทำงาน ออกงานสังคม หรือแม้แต่การท่องเที่ยว TRIOMPHE SHOULDER BAG ก็ตอบโจทย์ทุกสไตล์ที่คุณต้องการได้อย่างลงตัว

• ราคา CELINE TRIOMPHE SHOULDER BAG มือหนึ่ง : 150,000 บาท
• ราคา CELINE TRIOMPHE SHOULDER BAG มือสองสภาพดี : 94,500 บาท

5. CELINE CLASSIQUE TRIOMPHE BAG

CELINE CLASSIQUE TRIOMPHE BAG คือกระเป๋า CELINE รุ่นเก่าที่นำเอาความดั้งเดิมมาผสมผสานกับความร่วมสมัย จนออกมาเป็นกระเป๋า CELINE สะพายข้างที่สุดแสนจะเรียบง่ายแต่หรูหรา เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่ตกแต่งด้วยโลโก้ Triomphe ขนาดใหญ่ที่ด้านหน้า ทำให้ดูโดดเด่นและมีเอกลักษณ์ สามารถคอมพลีตลุคของคุณให้ดูสง่างามขึ้นได้ไม่ยาก หากสาว ๆ คนไหนกำลังมองหากระเป๋าที่ใช้ได้นาน ไม่ตกเทรนด์ และใช้งานได้หลากหลายโอกาส ลองเดินเข้าร้านขายกระเป๋า CELINE ของแท้แล้วถามหารุ่นนี้ได้เลย ไม่ว่าใครลองสะพายแล้วก็ล้วนตกหลุมรักได้ไม่ยาก

• ราคา CELINE CLASSIQUE TRIOMPHE BAG มือหนึ่ง : 130,000-160,000 บาท
• ราคา CELINE CLASSIQUE TRIOMPHE BAG มือสองสภาพดี : 94,500 บาท

6. CELINE TEEN WITH BORDER

หากมองหากระเป๋า CELINE สะพายข้างทรงเรียบ ๆ แต่มีลูกเล่น CELINE TEEN WITH BORDER คือคำตอบสุดท้าย ด้วยจุดเด่นที่สีขอบตัดกับตัวกระเป๋า เพิ่มมิติและสร้างความน่าสนใจให้แก่กระเป๋าสี่เหลี่ยมธรรมดา ๆ ได้อย่างไม่น่าเชื่อ เพียงแค่คุณสวมเสื้อยืดสีพื้นกับกางเกงยีนส์ CELINE TEEN WITH BORDER ก็จะช่วยให้คุณมีลุคที่ดูแพงขึ้นได้แบบไม่ต้องทำอะไรมากเลย หรือถ้าคุณอยากนำไปแมตช์กับชุดออกงานสวย ๆ ก็ดูดีไม่แพ้กัน เพราะกระเป๋ารุ่นนี้สามารถเพิ่มความมีชีวิตชีวาให้กับทุกสไตล์ของคุณได้อย่างไม่รู้จบ

• ราคา CELINE TEEN WITH BORDER มือหนึ่ง : 130,000 บาท
• ราคา CELINE TEEN WITH BORDER มือสองสภาพดี : 69,900 บาท

7. CELINE LUGGAGE TOTE

หากพูดถึงลิสต์แนะนำรุ่นกระเป๋า CELINE ยอดนิยม แล้ว CELINE LUGGAGE TOTE จะหลุดโผคงเป็นไปไม่ได้ เพราะนี่คือหนึ่งในรุ่นที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนาน ด้วยดีไซน์ทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่มีด้านข้างยื่นออกมาคล้ายปีกค้างคาว นอกจากจะทำให้ดูมีเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใครแล้ว ยังเหมาะสำหรับสายแฟชั่นที่ต้องการกระเป่าใบใหญ่ จุของได้เยอะ และถึงแม้จะชื่อ LUGGAGE แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นกระเป๋าเดินทางเสียทีเดียว เพราะคุณจะถือไปเรียน ไปทำงาน หรือไปช็อปปิงก็ได้ โดยสามารถเลือกขนาดตามความเหมาะสมกับการใช้งานของตนเองได้เลย

• ราคา CELINE LUGGAGE TOTE มือหนึ่ง : 91,000-105,000 บาท
• ราคา CELINE LUGGAGE TOTE มือสองสภาพดี : 37,900 บาท

8. CELINE TRIANGLE BAG

ปิดท้ายด้วยกระเป๋า CELINE รุ่นเก่าที่มีดีไซน์แปลกตาอย่าง TRIANGLE BAG แม้จะมีขนาดที่ไม่ใหญ่มาก แต่ก็สามารถใส่ของใช้จำเป็นได้ครบถ้วน และด้วยรูปทรงสามเหลี่ยมที่ไม่เหมือนใคร ทำให้เหมาะสำหรับสาว ๆ ที่กล้าลองอะไรใหม่ ๆ และกำลังมองหาไอเทมที่สามารถสร้างความแตกต่างให้กับลุคของตัวเองได้อย่างโดดเด่น ไม่ว่าจะถือไปที่ไหนก็สร้างการจดจำให้ทุกคนที่คุณออกไปพบเจอได้แน่นอน

• ราคา CELINE TRIANGLE BAG มือหนึ่ง : 46,500 บาท
• ราคา CELINE TRIANGLE BAG มือสองสภาพดี : 28,900 บาท

BRANDNAME VOYAGE ร้านขายกระเป๋า CELINE ของแท้ รวมรุ่นฮิตไว้ในที่เดียว

กระเป๋าทั้ง 8 รุ่นนี้ล้วนเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า ด้วยวัสดุคุณภาพสูงและดีไซน์ที่ไม่มีวันตกเทรนด์ ทำให้กระเป๋า CELINE ตอบโจทย์สายแฟชั่นทั่วโลกเสมอมา หากคุณกำลังมองหากระเป๋า CELINE สักใบ แวะมาที่ BRANDNAME VOYAGE ได้เลย เราเป็นแหล่งรวมสินค้าแบรนด์เนมมือสองมากมายหลายรุ่น รวมถึงขายกระเป๋า CELINE ของแท้ ให้คุณเลือกช็อปได้แบบจุใจ พร้อมบริการเหนือระดับจากทีมงานมืออาชีพที่จะช่วยให้คำปรึกษาในทุกข้อสงสัย สินค้าทุกชิ้นผ่านการตรวจสอบแล้วโดยผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ในวงการแบรนด์เนมมาอย่างยาวนาน 

เลือกชมสินค้าได้แล้ววันนี้ที่เว็บไซต์ หรือเข้ามาที่หน้าร้านทั้ง 2 สาขาหลักของเรา ได้แก่ เซ็นทรัลพระราม 9, ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต และบริการรับซื้อที่เชียงใหม่ หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

• LINE: @brandnamevoyage
• Tel: 095-916-7171 (สำหรับผู้ที่สนใจซื้อสินค้า)
• LINE: @voyagepurchase
• Tel: 095-505-2229 (สำหรับผู้ที่สนใจฝากขายสินค้า)

ข้อมูลอ้างอิง:

1. ชี้เป้า! 5 กระเป๋า CELINE รุ่นสุดปัง ที่สายลักชูพลาดไม่ได้. สืบค้นวันที่ 1 ตุลาคม 2567 จาก https://www.sanook.com/
2. อัปเดท! ราคากระเป๋า Celine 2023 รุ่นฮิต ราคาขึ้นแรง ขึ้นบ่อย ต้องเช็ค!. สืบค้นวันที่ 1 ตุลาคม 2567 จาก https://women.trueid.net/

ตั้งแต่ปี 2021 ที่ผ่านมา Louis Vuitton ได้ปฏิวัติแนวทางการตรวจสอบของลอกเลียนแบบ ด้วยการคิดค้นเทคโนโลยีสุดล้ำสมัยที่เรียกว่า ‘ไมโครชิป’ วันนี้เราจะพาสาวกกระเป๋าแบรนด์เนมมารู้จักกับเทคโนโลยีนี้ให้มากขึ้น เพื่ออัปเดตวิธีเช็กกระเป๋า Louis Vuitton แบบใหม่ล่าสุดไปพร้อมกัน ติดตามได้เลย

Date Code รหัสสำคัญที่เคยใช้ในการตรวจสอบกระเป๋า Louis Vuitton แท้

โดยปกติแล้ว ใครที่ชอบสะสมกระเป๋าหลุยส์ วิตตอง (Louis Vuitton) น่าจะคุ้นเคยกับ Date Code (DC) ซึ่งเป็นรหัสที่จะถูกปั๊มอยู่บนกระเป๋าหลุยส์ทุกใบ ในตำแหน่งที่ต่างกัน บางรุ่นอาจปั๊มติดอยู่บน Tag หนังขนาดเล็ก และเย็บซ่อนไว้ในกระเป๋า บางรุ่นอาจปั๊มอยู่บนผ้าที่เป็นซับในของกระเป๋า และบางรุ่นก็อาจปั๊มลงไปบนตัวกระเป๋าเลย ซึ่ง Date Code นี้ เป็นรหัสสำคัญที่บ่งบอกถึงรายละเอียดของกระเป๋าแต่ละใบ ว่าถูกผลิตขึ้นที่ไหน และผลิตขึ้นเมื่อไร เพื่อใช้ตรวจสอบว่าเป็นสินค้าแท้หรือเป็นสินค้าลอกเลียนแบบ โดย Date Code นี้ถูกนำมาใช้ตั้งแต่ช่วงปี 1980 ซึ่งนอกจากกระเป๋าถือแล้ว ยังนำไปใช้กับกระเป๋าสตางค์ เข็มขัด รองเท้า และสินค้าอื่น ๆ จากหลุยส์อีกด้วย

แต่อีกหนึ่งเรื่องที่คนรักกระเป๋าหลุยส์ต้องรู้ ก็คือ หากเป็นกระเป๋ารุ่นเก่า ๆ ที่ผลิตขึ้นก่อนปี 1980 จะไม่มี Date Code ระบุอยู่ ดังนั้นหากใครที่เป็นสายสะสมของวินเทจ อาจต้องใช้วิธีตรวจสอบกระเป๋า Louis Vuitton ด้วยรายละเอียดอื่น ๆ เพื่อยืนยันว่าเป็นของแท้ เช่น หนัง โลโก้ หรืออะไหล่

รู้จักไมโครชิป (Microchip) เทคโนโลยีใหม่ในการตรวจสอบกระเป๋า Louis Vuitton

สำหรับไมโครชิป ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่นำมาใช้ในการตรวจสอบกระเป๋า Louis Vuitton นี้ ทางหลุยส์ได้ทำการศึกษาและพัฒนามาตั้งแต่ปี 2019 จากนั้นจึงเริ่มนำมาใช้แทน Date Code ในปี 2021 ที่ผ่านมา ซึ่งเทคโนโลยีไมโครชิปเป็นการใช้ชิปขนาดเล็กที่เรียกว่า Small Radio Frequency Identification หรือ RFID ฝังลงไปในกระเป๋า Louis Vuitton ในตำแหน่งที่ไม่สามารถนำออกมาได้ และเราจะไม่รู้ด้วยว่าไมโครชิปนี้ถูกฝังอยู่ตรงไหน โดยไมโครชิปจะระบุรายละเอียดที่สำคัญดังนี้

• สถานที่ที่ผลิต
• รายละเอียดของกระเป๋า เช่น รุ่น และ ขนาด
• รหัสกระเป๋า
• วันที่กระเป๋าถูกจำหน่าย
• รายละเอียดของลูกค้าผู้ซื้อกระเป๋า
• ร้านค้าหรือเว็บไซต์ที่จำหน่ายกระเป๋า รวมถึงชื่อพนักงานที่เป็นผู้ขาย

ใครที่สามารถสแกนไมโครชิปเพื่อตรวจสอบกระเป๋า Louis Vuitton ได้บ้าง ?

การสแกนไมโครชิปเพื่อตรวจสอบกระเป๋า Louis Vuitton สามารถทำได้โดย SA (Sales Associate) หรือพนักงานขายเท่านั้น ด้วยแอปพลิเคชันที่พัฒนาขึ้นมาโดยเฉพาะ ซึ่งเมื่อสแกนแล้ว พนักงานจะสามารถเห็นข้อมูลทั้งหมดได้ แต่สิ่งที่ต้องรู้ก็คือ เราไม่สามารถนำกระเป๋าเดินเข้าช็อปไปให้พนักงานสแกนได้ เพราะการสแกนจะเกิดขึ้นในตอนที่เราต้องการคืนสินค้าเท่านั้น เพื่อเป็นการยืนยันว่าเรานำสินค้าใบเดิมที่ซื้อไปกลับมาคืนอย่างถูกต้อง

ข้อดีของไมโครชิป

เทคโนโลยีไมโครชิปที่ใช้ยืนยันความเป็นสินค้าแท้จาก Louis Vuitton มาพร้อมกับข้อดีดังนี้

• เป็นสิ่งที่ยากต่อการปลอมแปลง ทำให้สามารถแยกกระเป๋าแท้ออกจากกระเป๋าลอกเลียนแบบได้ง่ายยิ่งขึ้น
• สามารถเก็บข้อมูลสำคัญ ๆ ได้อย่างครบถ้วน ทั้งข้อมูลของผู้ซื้อและผู้ขาย
• เป็นวิธีเช็กกระเป๋า Louis Vuitton ที่สะดวกและรวดเร็ว ไม่ต้องตรวจสอบหลายจุด หลายขั้นตอน
• ช่วยเพิ่มความมั่นใจในการซื้อสินค้าได้มากขึ้น

 

นอกจากสาระน่ารู้ที่เรานำมาฝากกัน หากใครที่กำลังมองหาแหล่งรับซื้อ Louis Vuitton สามารถนำมาขายได้เลยที่ BRANDNAME VOYAGE เราคือร้านที่ให้บริการด้านสินค้าแบรนด์เนมอย่างครบวงจร โดยหน้าร้านของเรามีการจดทะเบียนบริษัทอย่างถูกต้อง พร้อมให้บริการรับซื้อผ่านช่องทางที่หลากหลายตามความสะดวกของลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นการรับซื้อที่หน้าร้าน การไปรับสินค้าที่บ้านของลูกค้า หรือจะเป็นการจัดส่งทางไปรษณีย์ ทั้งหมดนี้เราบริการให้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม

เลือกชมสินค้าได้แล้ววันนี้ที่เว็บไซต์ หรือเข้ามาที่หน้าร้านทั้ง 2 สาขาหลักของเรา ได้แก่ เซ็นทรัลพระราม 9, ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต และบริการรับซื้อที่เชียงใหม่ หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

• LINE: @brandnamevoyage
• Tel: 095-916-7171 (สำหรับผู้ที่สนใจซื้อสินค้า)
• LINE: @voyagepurchase
• Tel: 095-505-2229 (สำหรับผู้ที่สนใจฝากขายสินค้า)

 

ข้อมูลอ้างอิง:

1. The Louis Vuitton Microchip: Tech Meets Luxury. สืบค้นวันที่ 2 ตุลาคม 2567 จาก https://liyahsluxuries.com/blogs/liyahs-luxuries-blog/the-revolutionary-louis-vuitton-microchip-a-blend-of-technology-and-luxury#:~:text=To%20check%20the%20serial%20number,stitching%20or%20hidden%20in%20pockets.

หากใครที่มีกระเป๋าแบรนด์เนมใบโปรด และมักจะใช้กระเป๋าใบนั้นอยู่บ่อย ๆ เมื่อเวลาผ่านไป เราอาจพบว่ากระเป๋าใบสวยเริ่มมีคราบสกปรกในบางจุด แต่แน่นอนว่า กระเป๋าหลายรุ่นเป็นกระเป๋าที่ทำมาจากหนังชนิดพิเศษ จึงไม่สามารถทำความสะอาดด้วยวิธีทั่วไปได้ แล้วเราจะมีวิธีทำความสะอาดกระเป๋าแบรนด์เนมอย่างไร ให้ดูสวยเหมือนใหม่อยู่เสมอ เรามีเคล็ดลับมาฝาก

5 วิธีทำความสะอาดกระเป๋าแบรนด์ใบโปรดให้สวยเหมือนเข้าสปา

ทำความสะอาดคราบสกปรกภายนอก

เคล็ดลับดูแลกระเป๋าแบรนด์ด้วยตัวเอง อันดับแรกให้เริ่มจากการทำความสะอาดคราบสกปรกภายนอก โดยพิจารณาจากประเภทของหนัง เช่น หนังแกะ หนังวัว หนังจระเข้ หรือหนังอื่น ๆ เพื่อให้สามารถทำความสะอาดได้อย่างถูกต้อง โดยไม่เป็นการทำลายหนัง ซึ่งความแตกต่างในการดูแลหนังแต่ละประเภท มีอยู่ด้วยกันดังนี้

• หนังแกะ : ใช้ผ้าแห้งนุ่ม ๆ เช็ดทำความสะอาดเบา ๆ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดรอยขีดข่วน
• หนังวัว : ใช้ผ้าชุบน้ำบิดหมาด ๆ เช็ดคราบสกปรกออก จากนั้นใช้ผ้าแห้งเช็ดซ้ำอีกครั้ง และรอให้แห้งสนิท
• หนังจระเข้ : ใช้ผ้าแห้งหรือแปรงขนนุ่มเช็ดทำความสะอาดเท่านั้น หลีกเลี่ยงการใช้น้ำยาหรือครีมทำความสะอาดต่าง ๆ
• หนังแก้ว : ใช้ผ้าชุบน้ำหมาด ๆ เช็ดถูคราบออกเบา ๆ หลีกเลี่ยงการขัดแรง ๆ
• หนังสังเคราะห์ : ใช้ผ้าชุบน้ำสบู่ บิดหมาด ๆ เช็ดคราบสกปรกออก แล้วจึงใช้ผ้าแห้งเช็ดให้แห้งสนิท
• หนังกลับ : ใช้แปรงขนนุ่มค่อย ๆ ขัดคราบสกปรกออกอย่างเบามือ ไม่เช่นนั้นอาจทำให้หนังเสียหายได้

ทำความสะอาดคราบสกปรกภายใน

ด้านในของกระเป๋า เป็นอีกหนึ่งจุดที่หลายคนมักมองข้ามไป เพราะเป็นส่วนที่ยากต่อการมองเห็น และยังเป็นส่วนที่มีโอกาสจะสกปรกได้ง่ายที่สุด เพราะเราจำเป็นต้องใส่สิ่งของต่าง ๆ ทุกวัน โดยเฉพาะสาว ๆ ที่รักการแต่งหน้า และจำเป็นต้องพกพาลิปสติกแท่งโปรดติดตัวไปด้วย บางครั้งลิปสติกอาจเลอะกระเป๋าโดยไม่ได้ตั้งใจ แล้วเราจะมีวิธีทำความสะอาดกระเป๋าแบรนด์อย่างไร ? เคล็ดลับง่าย ๆ ก็คือ เริ่มจากการใช้ผ้าสะอาดหรือทิชชู เช็ดคราบลิปสติกส่วนใหญ่ออกให้ได้มากที่สุด จากนั้นนำผ้าไปชุบน้ำผสมสบู่ ค่อย ๆ ถูอีกครั้ง และใช้แปรงขนอ่อนขัดวนเบา ๆ จนกว่าคราบจะออก ซึ่งนอกจากรอยเลอะเหล่านี้ เราควรหมั่นนำสิ่งของต่าง ๆ ออกจากกระเป๋าทุกวัน เพื่อป้องกันไม่ให้มีสิ่งสกปรกสะสมอยู่ภายใน และกลายเป็นคราบฝังลึก

ทำความสะอาดหูจับกระเป๋า

อีกหนึ่งส่วนที่เราต้องให้ความสำคัญเป็นพิเศษ ในการดูแลรักษากระเป๋าแบรนด์เนม ก็คือส่วนของหูกระเป๋า เพราะเป็นส่วนที่เราจับบ่อยที่สุด และเป็นส่วนที่รับน้ำหนักมากที่สุดเช่นกัน ซึ่งหลายคนอาจเลือกใช้วิธีนำผ้าสวย ๆ มาพันไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้มือของเราไปสัมผัสกับหูกระเป๋าโดยตรง แต่นอกจากการป้องกันด้วยผ้าแล้ว เราก็ต้องไม่ลืมเช็ดทำความสะอาดหูกระเป๋าอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง โดยหลีกเลี่ยงการใช้แอลกอฮอล์หรือสารเคมีทำความสะอาดโดยตรง เพราะอาจทำให้หูกระเป๋าเสื่อมสภาพได้ และไม่ควรใส่ของที่มีน้ำหนักมากเกินไป เพราะอาจทำให้อายุการใช้งานของกระเป๋าสั้นลง

ตรวจเช็กสภาพของซิป

อีกหนึ่งเคล็ดลับดูแลกระเป๋าแบรนด์ที่หลายคนอาจไม่เคยรู้มาก่อน ก็คือเรื่องของซิป ที่ทำหน้าที่อย่างขันแข็งไม่แพ้กับส่วนอื่น ๆ โดยเราสามารถทำความสะอาดซิปได้ด้วยการรูดซิปให้เปิดออกจนสุด จากนั้นใช้ผ้าแห้งเช็ดสิ่งสกปรกต่าง ๆ ออกหนึ่งครั้ง ตามด้วยใช้ขี้ผึ้งหรือครีมทำความสะอาดหนัง ขัดถูตามซิปให้ทั่ว แล้วจึงเช็ดออกด้วยผ้าสะอาด เมื่อเสร็จเรียบร้อยแล้วจะสังเกตได้เลยว่าซิปจะดูเงางามขึ้น และยังรูดได้ง่ายขึ้นอีกด้วย

จัดเก็บกระเป๋าอย่างถูกวิธี

นอกจากวิธีทำความสะอาดกระเป๋าแบรนด์แล้ว การจัดเก็บกระเป๋าให้ถูกต้อง ก็สำคัญเช่นเดียวกัน เพราะหากเก็บรักษาไม่ถูกวิธี ก็อาจทำให้กระเป๋าใบสวยของเราได้รับความเสียหาย จนถึงขั้นไม่สามารถนำมาใช้งานได้อีกเลย ซึ่งการเก็บอย่างถูกต้อง ก็คือการนำกระเป๋าไปใส่ไว้ในถุงผ้า หรือกล่องที่ได้มาจากแบรนด์ หลังจากที่ทำความสะอาดเสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยควรวางกระเป๋าไว้ในชั้นที่มีอากาศถ่ายเท วางแยกให้ห่างกัน หลีกเลี่ยงความชื้นและแสงแดด เพื่อป้องกันไม่ให้หนังลอกหรือเสื่อมสภาพ เท่านี้กระเป๋าสุดรักของเราก็จะมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน แถมยังสามารถนำไปขายต่อได้ในราคาดีอีกด้วย

ด้วยเคล็ดลับเหล่านี้ จะช่วยให้กระเป๋าของคุณดูสวยงามอยู่เสมอ เสมือนเป็นกระเป๋าที่พึ่งซื้อมาใหม่ และหากใครที่กำลังมองหาร้านขายกระเป๋าแบรนด์เนมมือสองที่ไว้ใจได้ สามารถเลือกช็อปได้เลยที่ BRANDNAME VOYAGE เราคือร้านจำหน่ายกระเป๋าแบรนด์เนมมือสองที่รวมรุ่นยอดฮิตไว้มากมาย คัดสรรคุณภาพทุกใบ การันตีของแท้ 100% ตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญ

เลือกชมสินค้าได้แล้ววันนี้ที่เว็บไซต์ หรือเข้ามาที่หน้าร้านทั้ง 2 สาขาหลักของเรา ได้แก่ เซ็นทรัลพระราม 9, ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต และบริการรับซื้อที่เชียงใหม่ หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

• LINE: @brandnamevoyage
• Tel: 095-916-7171 (สำหรับผู้ที่สนใจซื้อสินค้า)
• LINE: @voyagepurchase
• Tel: 095-505-2229 (สำหรับผู้ที่สนใจฝากขายสินค้า)

 

ข้อมูลอ้างอิง:

1. How to Properly Clean Your Handbag to Keep it in Great Shape. สืบค้นวันที่ 2 ตุลาคม 2567 จาก https://www.byrdie.com/properly-take-care-of-your-handbag-455003